วันนี้ (23 มิถุนายน) ภารกิจของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดชลบุรีและจังหวัดระยอง โดยเวลา 10.25 น. นายกฯ เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง-พัทยา เพื่อพูดคุยหารือประเด็นปัญหาและการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ รองรับการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
โดยนายกฯ กล่าวว่า ที่มาวันนี้เพื่อติดตามเรื่องของสนามบินอู่ตะเภา การพัฒนา EEC รวมถึงรถไฟความเร็วสูง ที่ถือว่าเป็นเมกะโปรเจกต์ของรัฐบาลนี้ ซึ่งมีการทำกันมาหลายรัฐบาลแล้ว โดยรัฐบาลนี้ตระหนักถึงความสำคัญเรื่องการเชื่อมโยง และเป็นที่ทราบกันดีว่ามีความล่าช้าอยู่บ้าง เพราะฉะนั้นในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดมีความสำคัญอย่างยิ่ง
“ผมถือเป็นหัวใจของการพัฒนาในเขตเศรษฐกิจทั้งหมด เชื่อว่าฝ่ายเอกชนและผู้ที่เกี่ยวข้องเรื่องสนามบินตามความเข้าใจของผม มีความพร้อมและทำตามข้อตกลงแล้ว แต่ว่าถ้าเรื่องของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินยังมีความล่าช้าอยู่ ตรงนี้จะสร้างความมั่นใจให้เอกชนอย่างไร เพราะทราบว่าการมาร่วมทุนตรงนี้จะเกิดจริงหรือไม่ หากเกิดล่าช้าและไม่เกิด ทำไปก็ไม่ครบการลงทุน ไม่คุ้ม เป็นการอิหลักอิเหลื่อ หากสถานการณ์เป็นไปแบบนี้ ตรงนี้ผมอยากให้ชี้แจงความกระจ่าง”
นายกฯ กล่าวอีกว่า ในฐานะรัฐบาลอยากให้ไปต่อ เพราะถือเป็นจิ๊กซอว์การลงทุนข้ามชาติต่อยอดบริษัทที่จะมาลงทุนใน EEC ทำธุรกิจการค้า หรือธุรกรรมการลงทุนต่างๆ ในภูมิภาคนี้ ถ้าหากขาดไปตัวหนึ่งก็คงลำบาก อย่าให้เกิดปัญหา ไม่เช่นนั้นหากติดกระดุมเม็ดแรกผิดตั้งแต่ต้น ก็จะเกิดปัญหาตามมาเป็นมหากาพย์
ประมาณ 1 เดือนรู้ชัด สร้างสนาม F1 ที่พัทยาหรืออู่ตะเภา
จากนั้นเวลา 11.10 น. นายกรัฐมนตรีเดินทางตรวจติดตามพื้นที่ก่อสร้างโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ที่สนามบินอู่ตะเภา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง เพื่อดูสถานที่ที่จะให้เป็นพื้นที่สร้างสนามแข่งรถ F1
ก่อนที่เวลา 13.00 น. นายกฯ เดินทางมาที่ลานกิจกรรมกลางแจ้งริมหาดบ้านอำเภอ เทศบาลตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อศึกษาดูเส้นทางการแข่งขัน F1 และพูดคุยกับ มาร์ค ฮิวจ์ส ที่ปรึกษาด้านการแข่งขันรถ F1 บริษัท Mrk1 Consulting ซึ่งเป็นผู้จัดการแข่งขัน
เศรษฐากล่าวถึงศักยภาพของเมืองพัทยาในการสร้างสนามแข่งรถ F1 ว่า กำลังดูอยู่หลายที่ในเมืองพัทยา ซึ่งมีอยู่ 3-4 ที่ อีก 1 เดือนหรือเดือนครึ่งน่าจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ส่วนตัวไม่มีสิทธิ์เลือก เราต้องทำงานร่วมกับฝ่ายผู้จัดการแข่งขัน หน้าที่เราคือหาทำเลที่ตั้งหลายๆ ที่มาให้เขาเลือกทำเลที่ตั้งที่ดีที่สุด
“ความจริงแล้วอยู่ที่พัทยา 3-4 จุด หรือที่อู่ตะเภา มีอยู่แค่นี้” เศรษฐาระบุ
มั่นใจท่าเรือแหลมฉบังไม่ล่าช้า เสร็จทันภายในปีนี้
ต่อมาในเวลา 14.00 น. นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่ตรวจติดตามและเร่งรัดการก่อสร้างโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ส่วนงานที่ 1 งานก่อสร้างงานทางทะเล เนื้อที่ประมาณ 2.8 พันไร่
จากนั้นเศรษฐาให้สัมภาษณ์ว่า ในเดือนพฤศจิกายน 2566 เคยมาตรวจที่นี่แล้ว 1 ครั้ง พบว่ามีความล่าช้า แต่ภายในการดำเนินการของ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ทำให้ความล่าช้าเหลือไม่ถึง 4% และจะสามารถกระชับส่วนที่ล่าช้าให้หมดได้ในสิ้นปี 2567 และการก่อสร้างจะทำได้เสร็จตามสัญญา ทีมงานกระตือรือร้นดี วันนี้ก็มาให้กำลังใจและพูดคุยตรงไปตรงมาว่ามีปัญหาตรงไหน ทราบว่าเรื่องขนหินเข้ามามีปัญหา ซึ่ง วิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ชลบุรี สามารถแก้ปัญหาตรงนี้ได้