วันนี้ (5 มิถุนายน) ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ‘Time Out’ นิตยสารชั้นนำระดับโลกด้านการแนะนำไลฟ์สไตล์ สถานที่ท่องเที่ยว และนำเสนอประสบการณ์ที่ดีที่สุดของเมืองในแต่ละประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวกับวัฒนธรรม การเดินทาง อาหาร และความบันเทิง โดยในการจัดลำดับทางนิตยสารสอบถามไปยังผู้คนท้องถิ่นเกี่ยวกับการรับประทาน อาหาร นอกบ้าน เพื่อจัดอันดับเมืองหลวงแห่งอาหารในปี 2024 นี้
ชัยกล่าวว่า ในนิตยสารได้ระบุว่า การรับประทานอาหารเป็นส่วนหนึ่งของการทำความรู้จักแต่ละเมือง ส่วนที่ทำให้อาหารยอดเยี่ยม ไม่ใช่เพียงแค่คำชมและดาวมิชลิน (MICHELIN Star) แต่คือตัวเลือกของอาหาร คุณภาพ ราคา การสำรวจครั้งนี้จึงเป็นการสอบถามไปยังหลายพันคนเพื่อกล่าวถึงการรับประทานอาหารนอกบ้านในบ้านเกิดของตัวเอง ให้คะแนนด้านคุณภาพและราคา จากนั้นทีมบรรณาธิการและนักเขียนทั่วโลกจะเป็นผู้สรุปผลการสำรวจ
ทั้งนี้ พบว่า กรุงเทพฯ ได้รับการจัดอันดับให้ครองที่ 6 ของโลก The World’s 20 Best Cities for Food โดยในนิตยสารระบุว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวงของสตรีทฟู้ด และมีราคาย่อมเยาที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก มีความหลากหลาย ทั้งรับประทานจากจานร้อนริมถนน หรือเสิร์ฟในเรือบริเวณตลาดน้ำ อาหารที่ต้องลองคือ ส้มตำ นอกจากนี้ กรุงเทพฯ มีร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ถึง 34 แห่ง และมีถึง 8 ร้านได้รับรางวัล Asia’s 50 Best Restaurants 2024
ในโอกาสนี้ นิตยสาร Time Out เชิญชวนให้ผู้อ่านเดินทางมารับประทานอาหารที่กรุงเทพฯ ในฐานะจุดหมายปลายทางด้านอาหารที่ดีที่สุดของโลก ในฐานะหัวใจของอาหารสตรีทฟู้ด ตอนนี้กรุงเทพฯ มีย่านใหม่อย่างบรรทัดทอง ที่แข่งขันกับย่านคลาสสิกบนถนนเยาวราช รวมทั้งมีร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง ซึ่งได้รับรางวัล MICHELIN Star และ Asia’s 50 Best Restaurants 2024 ข้างต้น
“นายกรัฐมนตรีภูมิใจในศักยภาพ มนตร์เสน่ห์ของกรุงเทพฯ และประเทศไทย นักท่องเที่ยวที่ได้มาสัมผัสวัฒนธรรม ไลฟ์สไตล์ อาหาร ผลไม้ ในกรุงเทพฯ และประเทศไทยต่างมีความชื่นชม ไทยมีความหลากหลาย ตอบโจทย์กระแสการท่องเที่ยวและความต้องการของนักท่องเที่ยว ซึ่งอีกสิ่งที่น่าภูมิใจคือ ไทยมีศักยภาพในการเป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมระดับโลก โดยนายกรัฐมนตรีพร้อมสนับสนุนให้ปีหน้า 2568 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่ของไทย เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชม ชิม ช้อป ซึ่งนอกจากเชื่อมั่นว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวประทับใจแล้ว เชื่อว่าจะขยายกิจกรรมออกไปทั้งในเมืองหลักและเมืองรอง สร้างอาชีพ พัฒนาวิถีชีวิตพี่น้องประชาชน” ชัยกล่าว