เจาะแผนกลยุทธ์ Plan B Eleven ในฐานะ Sport Marketing Agency ผู้ทำแผนสื่อสารทางการตลาดงานโอลิมปิกเกมส์และพาราลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024 ‘เฟส 2’ ชี้แผน 4’O ตอบโจทย์คอนเซปต์ ‘ที่สุดของที่สุด’
หลังการกีฬาแห่งประเทศไทยเปิดงานแถลงข่าวเปิดปารีส 2024 ในไทยอย่างเป็นทางการ จับมือพันธมิตรถ่ายทอดสดครั้งประวัติศาสตร์ที่จัดช่องสัญญาณออกอากาศให้คนดูมากสุดเท่าที่ไทยเคยทำมาถึง 21 ช่องสัญญาณส่งตรงจากปารีส ประเดิมแผนสื่อสารฯ จากแพลน บี อีเลฟเว่น (Plan B Eleven) ผู้ดูแลงานออกแบบการสื่อสารทางการตลาดให้ในเฟส 2: ‘ที่สุดของนักกีฬา’ ภายใต้แนวคิดหลัก ความเป็น ‘ที่สุดของที่สุด’ ทั้ง 5 เฟส วางโครงสร้างแผนงานสอดคล้องกับช่วงเวลาไฮไลต์ของการแข่งขัน ได้แก่
เฟสที่ 1: ‘ที่สุดของมหกรรมกีฬา’ 17 เมษายน – 4 พฤษภาคม 2567
เฟสที่ 2: ‘ที่สุดของนักกีฬา’ 5 พฤษภาคม – 25 กรกฎาคม 2567
เฟสที่ 3: ‘ที่สุดของการแข่งขัน’ 26 กรกฎาคม – 11 สิงหาคม 2567
เฟสที่ 4: ‘ที่สุดของการประสบความสำเร็จ’ 11-27 สิงหาคม 2567
เฟสที่ 5: ‘ที่สุดของยอดมนุษย์’ 27 สิงหาคม – 8 กันยายน 2567
บริษัท แพลน บี อีเลฟเว่น จำกัด (บริษัทในเครือของบริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน)) โดย ปุญญพัฒน์ ฉายินทุ ผู้จัดการฝ่ายสร้างสรรค์กลุ่มบริษัทแพลน บี อีเลฟเว่น ผู้สร้างสรรค์กลยุทธ์การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ (Integrated Communication) ต่อเนื่องมาถึงเฟสที่ 2 ภายใต้ชื่อ ‘ที่สุดของนักกีฬา’ กับการพลิกโฉมเปิดตัวภาพนักกีฬาทีมชาติไทยภายใต้ลุคและคอนเซปต์ใหม่ จึงให้ข้อมูลเชิงลึกถึงกลยุทธ์และแผนสื่อสารทางการตลาดในภาพรวมทั้งหมดให้ทราบว่า นอกจากบทบาทที่มากกว่าการบริหารสื่อนอกบ้าน (OOH) บริษัทยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการวางแผนทำการตลาดในวงการกีฬาไทยในฐานะ Sport Marketing Agency เจ้าใหญ่ของประเทศไทย ความเคลื่อนไหวที่เด่นชัดของบริษัท ได้แก่ การทำการตลาดและดูแลสิทธิประโยชน์ของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ทั้งในส่วนของทีมชาติและไทยลีก รวมถึงการพลิกโฉมวงการมวยในระดับประเทศและระดับสากล โดยการรีโนเวตเวทีมวยราชดำเนิน ซึ่งเป็นเวทีมวยที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ให้เป็นแลนด์มาร์กที่นักท่องเที่ยวและคนรุ่นใหม่ต้องมาเช็กอิน
นอกจากนี้ ยังได้สร้างรายการมวยสามยกรูปแบบใหม่ในชื่อ ‘Rajadamnern World Series’ (RWS) ยิ่งไปกว่านั้น แพลน บี อีเลฟเว่น ยังดูแลส่วนการประชาสัมพันธ์และสิทธิประโยชน์ของแบรนด์ที่สนับสนุนการถ่ายทอดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์และพาราลิมปิกเกมส์ในประเทศไทย นับตั้งแต่โตเกียว 2020 จนถึงปารีส 2024
“แพลน บี มีความชำนาญในการทำตลาดผ่าน Sports Marketing มาอย่างยาวนานครับ และเราทุกคนต่างทราบดีว่า ในโลกแห่งกีฬาไม่มีอะไรยิ่งใหญ่ไปกว่ามหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์และพาราลิมปิกเกมส์ เมื่อคอนเทนต์ที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกมาอยู่ในการดูแลของแพลน บี เรามั่นใจว่าจะสร้างประสบการณ์ใหม่ในการโปรโมตการแข่งขันผ่านสื่อหลากหลายประเภท ด้วยกลยุทธ์ที่แตกต่างและยิ่งใหญ่กว่าที่เคยมีมา เราตั้งเป้าหมายที่จะสร้างประวัติศาสตร์การชมโอลิมปิกเกมส์และพาราลิมปิกเกมส์ในประเทศไทยให้เป็นที่น่าจดจำร่วมกับผู้ชมทั่วโลกกว่า 1 หมื่นล้านคน ที่จะได้สัมผัสประสบการณ์นี้ไปพร้อมกัน”
โดยปุญญพัฒน์ขยายความต่อถึงกลยุทธ์หลักใช้ 4’O Marketing เข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์คนดูว่า แกนหลักสำคัญในการสร้างสรรค์กลยุทธ์ครั้งนี้คือ แนวคิดว่าโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้เป็น ‘ที่สุดของที่สุด’ หรือ ‘The Greatest Olympic Games Ever’ และเป็นมากกว่ากีฬา โดยใช้แนวคิด ‘Sports And More Than Sports’ ในการพัฒนาแนวทางการสื่อสารที่ต่อยอดจากจุดนี้ เพื่อให้ทุกคนสนใจโอลิมปิกเกมส์ผ่านมิติของงานดีไซน์ รวมถึงมิติอื่นๆ ทั้งด้านสังคม การเมือง และไลฟ์สไตล์ ทำให้ไม่ว่าคุณจะสนใจกีฬาอยู่แล้วหรือไม่เคยดูมาก่อน ทุกคนจะสามารถสัมผัสประสบการณ์ของโอลิมปิกเกมส์ได้ในรูปแบบที่สนใจ ผ่านสื่อและพาร์ตเนอร์ที่ครอบคลุมและครบถ้วน และที่สำคัญคือการนำเสนอคอนเทนต์ที่ปรับแต่งให้เหมาะกับความสนใจของทุกคนด้วยกลยุทธ์ 4’O Marketing ที่มุ่งผลักดันการชมและเชียร์ และต่อยอดเนื้อหาเข้าสู่ทุกไลฟ์สไตล์ โดยเน้นการสร้างการรับรู้ (Awareness) และการจดจำ (Reminder) ความเป็นโอลิมปิกเกมส์และพาราลิมปิกเกมส์ให้เข้าสู่การรับรู้ของคนไทยในแง่มุมที่แตกต่างกันตลอดเวลา จนเกิดเป็น Engagement ที่คนดูจะซึมซับบรรยากาศได้อย่างไม่ทันรู้ตัว
เริ่มจาก OOH หรือสื่อโฆษณานอกบ้าน จะเป็นพื้นที่เริ่มต้นคิกออฟความยิ่งใหญ่ของโอลิมปิกเกมส์และพาราลิมปิกเกมส์ ภาพความยิ่งใหญ่ของคอนเซปต์การแข่งขัน สนามแข่งขันที่มีพื้นหลังเป็นเมืองปารีส รวมถึงภาพของทีมนักกีฬาไทย จะเปิดตัวพร้อมกันบนจอทั่วประเทศ เพื่อเข้าถึงคนดูผ่านสื่อนอกบ้านในครั้งนี้ โดยนำเสนอคอนเทนต์หลากหลายรูปแบบ ได้แก่
- การนำเสนอภาพนักกีฬาในรูปแบบใหม่ที่ผสมผสานความเป็นแฟชั่นมากยิ่งขึ้นในช่วงการโปรโมต ตั้งแต่ในเฟส 2 เป็นต้นไป เพื่อ Capture Attention ของทุกคน ไม่เพียงแค่แฟนกีฬา เพื่อตอบโจทย์การเข้าถึงกลุ่มคนหมู่มากยิ่งขึ้นและหลากหลายกลุ่มมากขึ้น
- การรายงานผลการแข่งขัน, Breaking News และตารางการรับชมแมตช์ที่น่าสนใจแบบทันท่วงที รวมทั้งการร่วมแสดงความยินดีกับเหล่าฮีโร่นักกีฬาบนจอ OOH แบบเรียลไทม์ ซึ่งเหล่านี้เป็นเทคโนโลยีพิเศษของจอแพลน บี ที่เรียกว่า ‘Fast Ads’ OOH
- การถ่ายทอดแมตช์กีฬามันในโอลิมปิกขึ้นบน OOH รวมถึงแมตช์สำคัญอย่างแมตช์ชิงเหรียญทองในประเภทที่คนไทยตั้งตารอบนจอต่างๆ ทั่วประเทศไทยกว่า 150 จอ รวมไปถึงจอ Signature ของแพลน บี อย่างจอ the panOramix @ centralwOrld ซึ่งเป็นจอ Digital Interactive ที่ใหญ่ที่สุดในโลกขนาดกว่า 3,400 ตารางเมตร ทอดยาวตลอดแนวอาคารเหนือศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อให้แฟนกีฬาชาวไทยได้เชียร์ไปด้วยกันทั่วทั้งถนนและบนอาคาร เพื่อสัมผัสอารมณ์ความรู้สึกยิ่งใหญ่ได้อย่างสมจริง
Online
- เรามี StadiumTH แพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นภายใต้คอนเซปต์ ‘HOME OF THAI TEAM’ เพื่อเป็นพื้นที่สำหรับรวบรวมทุกเรื่องราวของนักกีฬาไทย ให้แฟนๆ ได้ติดตามและร่วมสนับสนุนความฝันและความพยายามของพวกเขาในโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ เราจะเปลี่ยนแปลงบทบาทเป็น ‘HOME OF THE OLYMPICS’ เพื่อเป็นศูนย์รวมทุกข้อมูลข่าวสารที่ผู้ชมกีฬาอยากรู้และควรรู้เกี่ยวกับโอลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024 ทั้งเรื่องในสนามแข่งขันและนอกสนามแข่งขัน Fun Fact ต่างๆ ตั้งแต่ก่อนการแข่งขัน จนถึงบรรยากาศสดระหว่างการแข่งขัน ซึ่งทีม StadiumTH จะส่งตรงจากปารีสสู่จอทุกคน นอกจากนี้ เรายังร่วมมือกับพาร์ตเนอร์อย่าง THE STANDARD SPORT สำนักข่าวออนไลน์อันดับต้นของประเทศ เพื่อผนึกกำลังนำเสนอข่าวและคอนเทนต์ผลการแข่งขันอย่างครอบคลุมและทันเหตุการณ์ ให้แฟนกีฬาได้ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของโอลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024 อย่างใกล้ชิด
- เพื่อแสดงความเป็น ‘Sports And More Than Sports’ ในโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ให้ครบถ้วนและน่าตื่นเต้นกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เราพลิกโฉมนักกีฬาทีมชาติไทยด้วย Fashion Set และบทสัมภาษณ์สุดพิเศษจากแฟชั่นแมกกาซีนแถวหน้าของโลกในเวอร์ชันไทย เช่น ELLE, Harper’s Bazaar และ Vogue
- นอกจากนี้ ยังปล่อยแคมเปญ #โอลิมปิกแบบใดห์ ซึ่งเป็นแคมเปญที่เชื่อมโยง O2O (Out of Home to Online) โดยเป็นหนึ่งในมูฟเมนต์สนุกๆ ที่เชิญเหล่า KOL, Influencer และพาร์ตเนอร์เพจทุกคนร่วมกันแชร์โมเมนต์และความหมายใหม่ๆ ของคำว่า ‘โอลิมปิก’ ที่อาจไม่เคยรู้สึกมาก่อน
On-Air
- ในเฟสก่อนการแข่งขันนี้ เราได้นำนักกีฬาทีมชาติไทยเข้าไปสู่พื้นที่การโปรโมตในเชิงไลฟ์สไตล์มากขึ้นผ่านรายการข่าวและวาไรตี้ เพื่อจับกลุ่มผู้ชมที่ดูทีวี และในช่วงถ่ายทอดสดการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์และพาราลิมปิกเกมส์จะออกอากาศผ่านฟรีทีวีทั้ง 4 ช่อง ได้แก่ T Sports 7, MCOT HD, Ch7HD และ PPTV HD 36 โดยคัดเลือกรายการและการแข่งขันกีฬาที่น่าสนใจออกอากาศ เพื่อไม่ให้ผู้ชมพลาดการแข่งขัน นอกจากนี้ ยังมีการร่วมมือครั้งแรกระหว่าง AIS และ TRUE ในการถ่ายทอดสดให้คนไทยได้รับชมผ่านทั้ง 21 ช่องสัญญาณ เรียกได้ว่าไม่พลาดแม้แต่แมตช์เดียว
- สถิติหนึ่งที่น่าสนใจของโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ที่ผ่านมา คือจำนวนผู้รับชมไม่นับซ้ำที่สูงที่สุดกว่า 3 พันล้านคนบนช่องถ่ายทอดทั่วโลก และ 2.8 หมื่นล้านวิวบนแพลตฟอร์มดิจิทัล
ซึ่งในประเทศไทยตอนนั้นมีพันธมิตรถ่ายทอดสดถึง 6 สถานี เรตติ้งของทุกช่องเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดมากกว่า 100% และมีคนรับชมผ่าน AIS PLAY มากกว่า 187 ล้านวิว เป็นครั้งแรกที่ทุกคนได้รับชม 12 ช่องสัญญาณพร้อมกันทุกฟีดของโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ในประเทศไทย สำหรับการถ่ายทอดโอลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024 ในครั้งนี้ จำนวนช่องสัญญาณเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ถึง 21 ช่อง จึงคาดว่าเรตติ้งจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดไม่แพ้กัน
On-Ground
- เริ่มต้นด้วยการจัดแถลงข่าวเปิดตัวโอลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024 ที่สยามพารากอนในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ถ่ายทอด และนักกีฬาทีมชาติไทย
- ต่อเนื่องด้วยการเนรมิตสามย่านมิตรทาวน์ให้กลายเป็น ‘Olympic Park @ Samyan Mitrtown’ ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม โดยนำบรรยากาศของปารีสที่เต็มไปด้วยสีสันของโอลิมปิกเกมส์มาตั้งไว้ใจกลางกรุงเทพฯ เปิดพื้นที่ให้ชาวไทยได้ร่วมส่งกำลังใจเชียร์ทีมชาติไทยในศึกครั้งนี้ ภายในงานจะมีนิทรรศการขนาดย่อมเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับโอลิมปิกเกมส์และพาราลิมปิกเกมส์ รวมถึงความรู้เกี่ยวกับนักกีฬาทีมชาติไทย และมีกิจกรรมจากแบรนด์ผู้สนับสนุนการถ่ายทอดสดให้ผู้เข้าชมมีส่วนร่วมกับแบรนด์อย่างสร้างสรรค์
- สุดท้ายคือการจัดงาน ‘Welcome Back’ ต้อนรับนักกีฬากลับบ้าน ที่จะจัดขึ้น ณ สยามพารากอน ในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จและความพยายามของนักกีฬาไทยในโอลิมปิกเกมส์และพาราลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024
ทั้งนี้ แพลน บี ยังมีแพลตฟอร์ม StadiumTH ที่จะกระจายข่าวสารเกี่ยวกับนักกีฬาไทยผ่านทางโซเชียลมีเดีย ทั้งใน Facebook, Instagram, X และ TikTok เติมเต็มให้ทุกคนสามารถเข้าไปติดตามอัปเดตสถานการณ์ รายงานผลการแข่งขัน และข่าวต่างๆ แบบทันท่วงที จึงเชื่อว่ากลยุทธ์ 4’O ที่เราซิงก์ OOH, Online, On-Air และ On-Ground เข้าด้วยกันเพื่อเอ็นเกจกลุ่มเป้าหมายที่มีหลากหลายประเภท บวกกับงานวางแผนสื่อสารการตลาดเชิงสร้างสรรค์ที่ปรับใช้ให้เข้ากับยุคสมัย เทรนด์ความต้องการของคนดู และผู้สนับสนุนที่ร่วมงานกับเรา จะสามารถตอบโจทย์และผลักดันให้เกิดความสำเร็จตามเป้าที่วางไว้อย่างแน่นอน
[PR News]