วันนี้ (6 กรกฎาคม) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาคำร้องของผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในการเลือก สว. ที่ผ่านมา ก่อนการประกาศรับรองผู้ได้รับเลือกทั้ง 200 คนในช่วงสัปดาห์หน้า และประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว
ขั้นตอนต่อไปคือ 200 สว. ต้องมารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เพื่อรับบัตรประจำตัวของการเป็น สว. รวมถึงเอกสารและคู่มือการปฏิบัติหน้าที่ สว. โดยทางสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้จัดเตรียมสถานที่ไว้รองรับการเข้ารายงานตัวของ 200 สว. ชุดใหม่แล้ว ที่ห้องริมน้ำ ชั้น 1 อาคารวุฒิสภา ซึ่งสมาชิกสามารถมารายงานตัวในวันถัดไปหลังจากที่ กกต. ประกาศรับรอง
อย่างไรก็ดี วานนี้ (5 กรกฎาคม) สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้ติดป้าย ‘ห้ามเข้า’ ไว้ที่ประตูทางเข้า เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาจะเปิดรับรายงานตัวประมาณ 1 สัปดาห์ หรือจนกว่า สว. จะเข้ารายงานตัวจนครบ 200 คน จากนั้นจะนัดประชุมวุฒิสภานัดแรก เพื่อให้สมาชิกกล่าวคำปฏิญาณตนต่อที่ประชุมก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ และจะเป็นวาระการเลือกประธานวุฒิสภาและรองประธานวุฒิสภา ซึ่งแคนดิเดตประธานวุฒิสภาคือ มงคล สุระสัจจะ ว่าที่ สว. กลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง
นอกจากนี้อาจมีประเด็นที่เป็นข้อหารือที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภารายงานเป็นวาระสำคัญ เช่น การตั้งกรรมาธิการ เพื่อตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรม ซึ่ง สว. ชุดที่ผ่านมาตั้งคณะทำงานไว้แล้ว เพื่อให้เกิดการทำงานอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการตั้งกรรมการเพื่อศึกษาร่างกฎหมายที่เป็นคู่ขนานกับสภา เช่น ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับ สว. ชุดใหม่ 200 คนนั้นนับเป็น สว. ชุดที่ 13 ของการเมืองไทย มีวาระดำรงตำแหน่ง 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ กกต. ประกาศผลการเลือกในราชกิจจานุเบกษา ทั้งนี้ต้องจับตาการทำงานของ สว.ชุดใหม่ ที่ถูกมองว่ามาจากสายบ้านใหญ่ซึ่งเป็นเครือข่ายนักการเมือง อย่างไรก็ดี ในมาตรา 113 ของรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่า สว. ต้องไม่ฝักใฝ่หรือยอมตนอยู่ใต้อาณัติของพรรคการเมืองใดๆ