×

โตโต้ ปิยรัฐ จากค้านนอกสภาสู่ค้านในสภา ไม่เช็กบิลใคร แต่แสวงหาข้อเท็จจริงเพื่อความเป็นธรรม

04.09.2023
  • LOADING...
โตโต้-ปิยรัฐ จงเทพ

THE STANDARD สัมภาษณ์ โตโต้-ปิยรัฐ จงเทพ หัวหน้ากลุ่ม We Volunteer หรือ กลุ่มการ์ดวีโว่ (WeVo) ในฐานะ สส. กรุงเทพฯ (พระโขนง-บางนา) สส. ใหม่สมัยแรก แต่ไม่ใช่คนหน้าใหม่ในวงการกิจกรรมการเมือง 

 

โตโต้อยู่ในกลุ่มนักเคลื่อนไหวรุ่นราวคราวเดียวกับ รังสิมันต์ โรม ซึ่งมีบทบาทนับตั้งแต่หลังรัฐประหารปี 2557 และบทบาทโดดเด่นยิ่งขึ้นในช่วงการชุมนุมนับตั้งแต่ปี 2563 

 

เขาเป็นผู้สมัคร สส. อนาคตใหม่ตั้งแต่การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 แต่ยังไม่ได้เข้าสภาในฐานะผู้แทนราษฎรในรอบนั้น ต่อมาได้เข้าสภาในฐานะผู้แทนฯ สมัยแรกในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดปี 2566 และไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ บทบาท ‘ฝ่ายค้านในสภา’ ของโตโต้ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ระหว่างพิจารณาญัตติขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาราคากุ้งตกต่ำ 

 

โดยโตโต้ขอให้นับองค์ประชุม นำมาสู่เหตุการณ์สภาล่มครั้งแรกหลังเลือกตั้ง ซึ่งยังเป็นข้อถกเถียงระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย 

 

พรรคก้าวไกลมองว่าการนับองค์ประชุมเป็นการตรวจสอบกันเองของ สส. ในขณะที่พรรคเพื่อไทยมองว่าเป็นการตีรวนของพรรคก้าวไกล 

 

ด้านโตโต้ในฐานะเคยเป็น ‘ฝ่ายค้านนอกสภา’ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังประชุมว่า ตนเองเป็นผู้ถูกดำเนินคดีสมัยทำกิจกรรมขายกุ้งช่วยพี่น้องประชาชนที่สนามหลวง ดังนั้น ตั้งใจจะอภิปรายในสภาเรื่องกุ้งเพื่อช่วยเกษตรกร พร้อมยืนยันว่าการขอให้นับองค์ประชุมไม่ใช่การตีรวน

 

โตโต้-ปิยรัฐ จงเทพ

 

จากฝ่ายค้านนอกสภามาเป็นฝ่ายค้านในสภา เส้นทางการเปลี่ยนชีวิตครั้งนี้ถือว่ารวดเร็วเกินไปหรือไม่ 

ถ้าเทียบกับเพื่อนๆ ที่ออกมาต่อสู้รุ่นเดียวกัน ผมก็ไม่ถือว่าเร็ว เพราะหลายท่านไปไกลแล้ว เช่น รังสิมันต์ โรม เป็น สส. สมัยที่ 2 แล้ว ทั้งๆ ที่เข้าพรรคมาพร้อมๆ กัน เขาเป็น สส. ไปก่อนสมัยแรกตั้งแต่เลือกตั้งปี 2562 ในขณะที่ผมไปต่อสู้ร่วมกับเพื่อนๆ น้องๆ ข้างนอกตั้งแต่ก่อนเป็นวีโว่ ก็คอยช่วยดูแลกิจกรรมต่างๆ อยู่แล้ว 

 

การมาเป็น สส. สมัยแรกของผมครั้งนี้จึงไม่เร็วไม่ช้าสำหรับพรรคก้าวไกล ด้วยวัยวุฒิ 30 ต้นๆ สำหรับการเลือกตั้งก่อนหน้านี้ในปี 2562 เป็นผู้สมัคร สส. เขตที่กาฬสินธุ์ แต่ไม่ได้เป็น สส. สำหรับการเลือกตั้งปี 2566 เป็น สส. กทม. และเป็น สส. สมัยแรก

 

โตโต้-ปิยรัฐ จงเทพ

 

ปี 2563 มีจุดเปลี่ยนทางประวัติศาสตร์การเมืองคือ ปรากฏการณ์ทะลุฟ้าทะลุเพดาน ซึ่งกลุ่มวีโว่ของโตโต้ก็มีบทบาทได้รับการติดตามความเคลื่อนไหว สิ่งที่ต้องเจอตอนนั้นเป็นอย่างไร

จริงๆ แล้วนับตั้งแต่ยุบพรรคอนาคตใหม่ มีนักกิจกรรมนักศึกษาหลายกลุ่มหลายแขนงต่างออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม ผมเองตอนพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบก็ยังเป็นเจ้าหน้าที่พรรค ก็รู้สึกเหมือนบ้านโดนเผา จึงออกมาเรียกร้องเพราะมองว่าคนอื่นยังออกมาเรียกร้องให้เราเลย เราอยู่ในบ้านตัวเอง ถูกกระทำเอง จะไม่ออกมาเรียกร้องต่อสู้ก็ไม่ได้ ก็เลยออกมา 

 

จึงเกิดกลุ่ม We Volunteer ขึ้น จากการที่เพื่อนฝูงที่เคยเคลื่อนไหวด้วยกันมาก่อน และต่างคนต่างแยกย้ายไปแล้ว พอสถานการณ์คุกรุ่นกลับมาเราก็มารวมตัวกัน 

บทบาทสำคัญในเวลานั้นอย่างที่สื่อมวลชนได้เห็นว่า ส่วนใหญ่เป็นการสนับสนุนพี่ๆ น้องๆ ในขบวนการ โดยการช่วยกันสร้างความปลอดภัย สร้างกลไกต่างๆ ออกมาโอบอุ้มนักกิจกรรมที่ทำกิจกรรมในวันนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำ อาหาร ที่เราจะสามารถทำได้ตามชื่อ We Volunteer ของเรา เป็นเพราะหลายคนอยากมีส่วนร่วมแต่ไม่รู้ว่าจะไปทำกิจกรรมอะไรอย่างไรในการชุมนุม ก็เลยมารวมกลุ่มกับผมทำ We Volunteer 

 

โตโต้-ปิยรัฐ จงเทพ

 

We Volunteer ยึดมั่นในหลักสันติวิธีหรือใช้ความรุนแรง 

หลายคนเข้าใจผิดคิดว่า We Volunteer เป็นกลุ่มที่นิยมความรุนแรงหรือชอบการปะทะ แต่ทุกครั้งเราจะมีการอบรม ทุกครั้งที่มีการรับสมัครสมาชิกใหม่ๆ ผมจะเป็นคนอบรมเอง แล้วผมจะเป็นคนบอกเสมอว่า เราทำหน้าที่รักษาความปลอดภัย หลายคนเรียกหรือนิยามเราว่าเป็นการ์ด ผมถามว่าถ้าเป็นการ์ด มีการ์ดที่ไหนที่อยากให้เกิดความรุนแรงหรือความวุ่นวายบ้าง ไม่มีนะครับ การ์ดคือคนที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ความวุ่นวายไม่ใช่สิ่งที่การ์ดต้องการ เพราะการ์ดมาดูแลความปลอดภัย ความสงบเรียบร้อยให้ราบรื่นที่สุด 

 

แต่เหตุที่มีภาพวีโว่ออกมาว่ามีความรุนแรง มีการปะทะ เพราะการชุมนุมในระยะหลังๆ เจ้าหน้าที่ใช้มาตรการกดดันผู้ชุมนุม ใช้มาตรการสลายการชุมนุม ไม่ว่าจะมีการเรียกร้องอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะเดินขบวนหรือไม่เดินขบวน ก็จะมีการสลายการชุมนุมเกิดขึ้น จึงเห็นภาพวีโว่ที่มีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งการชุมนุมในระยะแรกไม่มีการปะทะ 

 

จริงๆ แล้วเราไม่ได้ปะทะ เราแค่ประวิงเวลาให้ประชาชนได้ออกจากพื้นที่การชุมนุม หรืออยู่ในจุดเซฟโซนได้มากที่สุด แต่เราไม่สามารถวิ่งนำหน้าเขาแล้วไปบอกว่าที่ปลอดภัยอยู่ตรงนี้ มันไม่ใช่ เราต้องเข้าพื้นที่ก่อนแล้วออกทีหลังเขา ฉะนั้น พอเราไปก่อนแล้วออกทีหลังจึงมีโอกาสสูงมากที่เราจะต้องปะทะกับตำรวจเท่านั้นเอง แต่ทุกครั้งเราไม่ได้เป็นคนเริ่มก่อน 

 

สังเกตได้ว่า ถ้าวันไหนไม่มีตำรวจตั้งแถวเผชิญหน้าหรือสลายการชุมนุม ก็จะไม่มีเหตุปะทะอะไรเลย ทุกอย่างจะราบรื่น ขณะที่หลังๆ มาผมไม่ทราบว่าเป็นกลไกของรัฐหรือเปล่าที่ต้องการให้เกิดภาพว่ามีการปะทะกันอยู่ตลอด ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงวันไหนไม่เอาตำรวจมา ไม่เอาตำรวจใส่ชุดมาไล่ยิง มาใช้แก๊สน้ำตา ก็ไม่มีเหตุรุนแรง ผู้ชุมนุมมาก็กลับ ก็ไม่ได้มีอะไรนะครับ 

 

โตโต้-ปิยรัฐ จงเทพ

 

อุปกรณ์ที่อยู่ในตัว We Volunteer มีอาวุธหรือไม่

ไม่ใช่อาวุธ แต่เป็นอุปกรณ์ที่ต่างคนต่างมีติดตัวจากประสบการณ์ของเขา เราไม่ได้บอกให้เขาเตรียมอะไร ถ้ามีลวดหนามขวางประชาชนเขาก็ต้องเลาะลวดหนามให้ประชาชนเดิน เวลาเขาเลาะออกเขาก็ใช้เครื่องมือ แล้วหลายเหตุการณ์ก็พยายามที่จะเก็บให้เรียบร้อยแล้วคืนหลวงไป แต่แทบทุกครั้งเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่นานก็มักจะมีการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ จึงไม่มีเวลามาเก็บ ก็ชุลมุนกัน 

 

น้องๆ พี่ๆ ที่มีอุปกรณ์เหล่านี้เป็นอุปกรณ์ช่างทั่วไป ไม่ใช่ยุทโธปกรณ์ ไม่ใช่อาวุธหรือสิ่งของผิดกฎหมาย อย่างคีมอยู่ใต้เบาะรถก็เป็นอุปกรณ์เครื่องมือช่างในรถอยู่แล้ว 

 

ส่วนพลุควัน ผมเข้าใจว่ามีมาก่อนวีโว่ คือคนที่ใช้คนแรกๆ เป็นน้องๆ ที่เขาจุดเพื่ออำพรางฝั่งผู้ชุมนุมกรณีตำรวจใช้กระสุนยาง แล้วเขาต้องการให้ประชาชนปลอดภัยจึงจุดเพื่อบดบังคน ผมเคยคุยกับน้องที่ใช้ เขาบอกว่าปกติเป็นช่างถ่ายภาพ แล้วเป็นอุปกรณ์ที่มีอยู่แล้วเวลาเขาจะถ่ายภาพรับปริญญา จะทำให้ภาพมีฉากควัน เขาก็จะมีอยู่แล้ว ส่วนการใช้ในม็อบคือไม่ให้เจ้าหน้าที่เล็งเป้ามาที่ประชาชนได้ 

 

แล้วเท่าที่ผมเห็นพลุควันก็ไม่ได้ใช้บ่อย มันไม่มีเสียง ไม่มีกลิ่น ไม่เป็นพิษ มีขายทั่วไป ในรายการทีวีก็มีใช้เป็นเอฟเฟกต์ กิจกรรมรับน้องของนักศึกษาก็ใช้กัน

 

โตโต้-ปิยรัฐ จงเทพ

 

เหตุการณ์ถูกควบคุมตัวที่เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2564 ทำไมได้รับการปฏิบัติแบบนั้น

ผมก็ยังงง เพราะผมไม่มีอาวุธ และผมไม่ได้มีความตั้งใจไปร่วมชุมนุมที่หน้าศาลอาญา เพราะผมประกาศแล้วว่าผมไม่ไปร่วมชุมนุม การที่ผมไปอยู่ตรงนั้นเพื่อจะคอยสังเกตการณ์ แล้วก็คอยดูสถานการณ์ว่าจะมีเหตุอะไรหรือเปล่าเท่านั้นเอง ผมเลยต้องไปอยู่ตรงเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน เพื่อให้เจ้าหน้าที่เชื่อว่าผมไม่เข้าไปยุ่งกับการชุมนุม 

 

วันนั้นผมแต่งกายด้วยกางเกงขาสั้นและเสื้อยืด ปกติเวลาไปม็อบผมจะใส่กางเกงขายาว รองเท้าหนังอย่างหนา แล้วก็เสื้อเชิ้ต มีอุปกรณ์ครบ 

 

โตโต้-ปิยรัฐ จงเทพ

 

วันนั้นถือเป็นการถูกรวบตัวที่ระทึกที่สุดไหม

เป็นความอุกอาจของเจ้าหน้าที่ เพราะว่าเขาคุมตัวผมโดยที่เขายังไม่ได้แจ้งข้อหาอะไรผมเลย ไม่มีหมายจับ ไม่มีหมายค้น แล้วก็ไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา จะใช้คำว่าอุ้มเลยก็ยังได้ เพราะว่าเราไม่มีความผิดอะไร เรากินข้าวเสร็จ เราลงมา เราก็จะกลับแล้วตอนนั้น เพราะมีข่าวว่าผู้ชุมนุมเขาเดินขบวนได้แล้ว ไม่มีการสกัดกั้นของเจ้าหน้าที่ ผมก็เลยบอกทีมงานที่ไปด้วยกันว่างั้นเรากลับดีกว่า ก็เลยเดินมาที่ลานจอดรถ กำลังจะกลับ 

 

เจ้าหน้าที่มีการขอค้นตัว เราก็ให้ค้น แล้วเขาขอเชิญตัว ผมก็บอกว่าผมจะไปได้อย่างไรคุณไม่มีหมายค้น หมายจับ พอผมปฏิเสธเขาก็ลากขึ้นรถเลย มีเคเบิลไทรัดข้อมือ ผมไม่ได้โดนกดลงกับพื้นแต่น้องๆ โดนประมาณ 40 กว่าคน เป็นกลุ่มที่เขาจะมาร่วมชุมนุมอยู่แล้ว เพียงแต่เขามากินข้าวที่เมเจอร์ ไม่ได้มากินกับผมด้วย ผมไม่รู้ว่าเขาอยู่นั่น แล้วเขาก็ไม่รู้ว่าผมอยู่นั่น โดนจับคนละเหตุการณ์ คนละชั้นในเมเจอร์ แต่สุดท้ายนำไปรวมกัน 

 

ผมโดนจับกับทีมผม 5 คน ไปรู้ว่าน้องโดนจับ 40 กว่าคนก็ตอนถูกคุมตัวไป ตชด. ผมมาเห็นข่าวรถตำรวจถูกขวางตอนผมออกมาแล้วว่าเหตุการณ์มันขนาดนี้เลยเหรอ

 

ใน 40 กว่าคนก็ไม่ใช่วีโว่ทั้งหมด ผมนั่งรถฟอร์จูนเนอร์ของเจ้าหน้าที่ไป ไม่ใช่รถคุมตัวผู้ต้องหาของตำรวจ ผมไปก่อนรถคันนั้นเป็นชั่วโมง แล้วไปนับตัวที่ ตชด. ว่าคนไหนเป็นวีโว่บ้าง มีเยาวชนที่ไม่ใช่วีโว่ 2 คน และมีประชาชนที่เป็นวัยรุ่นมากินข้าวกับแฟน 3 คน เขาก็งง จู่ๆ จับเขาที่ลานจอดรถหมดเลย

 

โตโต้-ปิยรัฐ จงเทพ

 

จนถึงตอนนี้ได้คำตอบจากเจ้าหน้าที่หรือไม่ ทำไมทำขนาดนั้น

เขาบอกว่าเขามีสายข่าวว่าจะมีเหตุก่อวินาศกรรม ก็ไม่รู้ว่าเป็นข้ออ้างหรือเปล่า เมื่อเขาค้นแล้วเราไม่มีระเบิด ไม่มีอาวุธ ไม่มีปืน ไม่มีอะไร แล้วจะวินาศกรรมอะไร อย่างมากก็มีหมวกกันน็อกที่ซื้อได้ทั่วไป เสื้อบีบีกันที่น้องๆ ใส่กันกระสุนยางของเจ้าหน้าที่ มีอย่างมากแค่นั้นเอง

 

โตโต้-ปิยรัฐ จงเทพ

 

วีโว่แต่ละคนไม่ธรรมดา ไปรวมตัวกันมาได้อย่างไร

การรวมตัวไม่ได้เกิดจากการเป็นการ์ดก่อน ไม่ได้คิดว่าจะมาปะทะหรือเจอความรุนแรง แต่มาจากการที่หลายคนอยากช่วยตรงไหนก็มาช่วย โดยไม่ได้มาจากการจะใช้กำลัง 

 

แต่ละคนมีทั้งคนเรียนวิศวกร มีคนเป็นหมอ ซึ่งก็โดนคดีกับผมด้วย หมอเพียงแต่เอากระเป๋าพยาบาลมา โดนคดีอั้งยี่กับผมที่เมเจอร์ โดนล็อกตัวชุดที่โดนคุมตัวขึ้นรถคุมตัวผู้ต้องหาของตำรวจ 

 

วีโว่หลายคนมีความรู้ มีทุกชนชั้น ทั้งคนชั้นกลางในเมือง บ้านรวย บ้านจน เด็กช่าง อาชีวะ มีหมดทุกรูปแบบ ข้าราชการ หมอ นักธุรกิจ ส่วนนักการเมืองก็ผม วีโว่ชื่อภาษาอังกฤษ We Volunteer แปลเป็นไทยคือ กลุ่มคนอาสา จึงเป็นกลุ่มที่รวมผู้คน ทำได้หมด ข้าวปลาอาหาร ไฟเวที จนถึงตั้งเวที 

 

โตโต้-ปิยรัฐ จงเทพ

 

เลือกตั้งปี 2562 ยังไม่ได้เป็น สส. แล้วมาเป็น สส. ในการเลือกตั้งปี 2566 สมัยแรก ขณะที่พรรคก้าวไกลได้จำนวน สส. มากอันดับ 1 ซึ่งเป็นที่คาดหวังว่าจะได้เป็นรัฐบาล แต่ปรากฏว่ากลายมาเป็นฝ่ายค้าน รู้สึกอย่างไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น 

ตรงไปตรงมา ผมไม่ได้คิดว่าก้าวไกลจะได้เป็นพรรคอันดับ 1 และได้เป็นแกนนำตั้งรัฐบาลอยู่แล้ว ก่อนวันเลือกตั้งใครจะไปคิดว่าก้าวไกลจะได้ถึง 151 ที่นั่ง แล้วเป็นพรรคอันดับ 1 ผมเชื่อว่ากูรูท่านใดก็ไม่กล้าฟันธง ผมคิดว่าอย่างมากอาจจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลซึ่งยังไม่รู้จะได้กระทรวงอะไร หรืออาจจะได้เป็นฝ่ายค้านที่มีบทบาทในสภา ไม่ได้คิดว่าจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล 

 

แต่พอได้มาแล้วเราก็มีความหวังบ้างว่าจะได้ตั้งรัฐบาล แต่ก็ยังเชื่อว่ากระบวนการและกลไกของรัฐเองคงไม่อนุญาตให้เราเป็นรัฐบาลอยู่แล้ว เพราะปัญหาที่เรานำเสนอไปสู่สังคมและนโยบายของเราค่อนข้างจะต้องปะทะกับผู้มีอำนาจ ทั้งทุน ทหาร และเหนืออำนาจรัฐต่างๆ ซึ่งเป็นโครงข่ายเดียวกันหมด การที่เขาจะให้เราเป็นรัฐบาลได้ทางเดียวเลยคือ ต้องเป็นรัฐบาลพรรคเดียวเท่านั้น ถ้าไม่ได้ 250 เสียงขึ้นไปในสมัยหน้าก็คงจะไม่มีทางได้เป็นรัฐบาล นี่เป็นสิ่งที่ผมตั้งเป้าไว้อยู่แล้ว ไม่ได้คาดหวังจะเป็นรัฐบาล

 

ฉะนั้น ไม่ได้รู้สึกเสียใจ เพราะตั้งใจไว้อยู่แล้วว่ามันเร็วเกินไปด้วยซ้ำที่จะเป็นรัฐบาล 

 

โตโต้-ปิยรัฐ จงเทพ

 

ภารกิจฝ่ายค้านนอกสภาเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายค้านในสภา บทบาทต่างจากเดิมอย่างไร 

อันดับแรกพรรคการเมืองมีวินัย มีกรรมการบริหาร เป็นองค์กร บางครั้งเป็นเรื่อง Top Down คือเป็นมติที่ประชุม มติกรรมการบริหารที่เราต้องปฏิบัติตาม แต่การอยู่นอกสภาจะมีอิสระ ก็คือการที่เราจะคิด พูด หรือทำ รับผิดชอบด้วยตัวเราเอง แต่พอเป็นนักการเมือง เมื่อคิดหรือพูดอะไรก็ตามแต่ ต้องรับผิดชอบร่วมกัน ฉะนั้น เวลาจะคิด จะทำ จะพูดทุกครั้งเวลาแสดงออกในนามตัวเองไม่มีแล้ว ต้องคิดเสมอว่าเรากำลังพูดในนามพรรคและในนามประชาชนที่เลือกเรามา ทุกครั้งที่จะพูดผมต้องระมัดระวังมาก นี่คือสิ่งที่แตกต่าง 

 

นอกจากนั้นการแบ่งเวลาจะไม่ได้มีชีวิตเพื่อตัวเอง จะทำอะไรต้องคิดเผื่ออนาคตว่าจะต้องรับผิดชอบชีวิตหลายคนที่เราสัญญากับพวกเขาไว้ 

 

บทบาทในสภาของ สส. ปิยรัฐ 

เรื่องหลักๆ ตอนนี้ผมรับผิดชอบเรื่องการเรียกร้องให้มีกระบวนการรับรองสิทธิในการแสดงออกในการชุมนุม เปิดพื้นที่ให้ผู้ที่คิดต่างและเรียกร้องความเป็นธรรมให้ผู้ที่ถูกรัฐดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นผู้ต้องขังหรือนักโทษทางการเมือง นักโทษทางความคิด ซึ่งผมติดตามเรื่องนี้ตั้งแต่ก่อนจะมาอยู่พรรคอนาคตใหม่อยู่แล้ว เคยทำสมาคม เคยช่วยเหลือผู้ต้องขังทางความคิดและนักโทษต่างๆ 

 

พอเรามีความเข้าใจประเด็นเหล่านี้มาตั้งแต่ก่อนเป็น สส. เราก็สามารถปรับจูน ปรับกระบวนการได้ เราใช้กลไกทางสภาเข้าไปติดตามได้ ผมเพิ่งยื่นตั้งกรรมาธิการวิสามัญ ซึ่งตอนนี้บรรจุเป็นวาระแล้ว เกี่ยวกับเรื่องการแสวงหาข้อเท็จจริงและศึกษามาตรการการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตั้งแต่ปี 2563 คือเหตุการณ์การชุมนุมของเยาวชนปี 2563 จนถึงปี 2565 

 

ตลอด 2-3 ปีนี้มีการชุมนุมหลายครั้ง และมีหลายๆ ครั้งที่ยังไม่มีข้อเท็จจริงปรากฏว่าใครเริ่มความรุนแรงก่อน ทำไมมีผู้บาดเจ็บ ทำไมมีผู้ถูกจับกุม แล้วทำไมตำรวจจึงไม่สามารถหาพยานหลักฐานได้ในหลายๆ ครั้งที่ตำรวจเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ หลายครั้งหลักฐานถูกใครทำลาย หลายครั้งตำรวจบอกไม่มีหลักฐาน เราจึงต้องใช้กลไกทางสภา นี่คือสิ่งที่ผมต้องรับผิดชอบ 

 

โตโต้-ปิยรัฐ จงเทพ

 

แปลว่าเตรียมเช็กบิลใครหรือไม่

ผมใช้คำว่าเพื่อให้เกิดความยุติธรรม เพราะบางครั้งพอข้อเท็จจริงออกมาเราอาจจะเป็นฝ่ายผิดก็ได้นะ เพราะว่าการแสวงหาข้อเท็จจริงในกรรมาธิการวิสามัญนี้ไม่ใช่เฉพาะฝ่ายเราที่จะพูดได้ฝ่ายเดียว แต่จะมีตัวแทนทุกพรรคการเมืองเข้าไปนั่งอยู่ในนั้น และเชิญเจ้าหน้าที่ในเหตุการณ์และผู้เชี่ยวชาญเข้ามาเป็นกรรมาธิการด้วย เพื่อให้เขาให้ข้อเท็จจริง เรามาแสวงหาข้อเท็จจริงกันดีกว่า

 

ถ้าตำรวจบอกว่าฝ่ายผู้ชุมนุมเริ่มก่อนก็ต้องเอาหลักฐานมา ต้องเชื่อตามหลักฐาน แล้วจะถูกบันทึกเป็นรายงานสภา เป็นรายงานในชั้นกรรมาธิการชุดนี้ จะมีน้ำหนักมากกว่าเพียงแค่คำบอกเล่าแล้วหายไปตามเวลา ผมไม่อยากให้เกิดแบบนั้น หลายเหตุการณ์การชุมนุมที่ผ่านมาไม่เคยมีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรหรือแสวงหาข้อเท็จจริง บางครั้งอาจจะมี แต่สุดท้ายถูกปัดตกไปก็มี

 

โตโต้-ปิยรัฐ จงเทพ

 

เหตุผลที่เลือกเหตุการณ์นับตั้งแต่ปี 2563 ขณะที่นโยบายพรรคก้าวไกลนับตั้งแต่ปี 2553

เหตุการณ์ปี 2553 เคยมีคนตั้งกรรมาธิการไว้บ้างแล้ว แต่ว่าเหตุการณ์ปี 2563 ยังไม่มี และที่สำคัญคือผมอยู่ในเหตุการณ์ตั้งแต่ปี 2563 แบบชัดเจนจนถึงปี 2565 

 

นอกจากนั้น เวลานี้เป็นเวลาเร่งด่วนที่คดีความถูกขุดคุ้ยขึ้นมาดำเนินการหลายส่วนอยู่ในชั้นสืบพยาน ซึ่งจำเป็นมากที่จะต้องนำหลักฐานจากสภาแห่งนี้ไปสู้คดี ฉะนั้น จำเป็นต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ หลักฐานต่างๆ และข้อเท็จจริงต่างๆ ในชั้นกรรมาธิการนี้ นำไปเป็นประโยชน์ในการต่อสู้ทางคดีให้กับประชาชน 

 

ส่วนกรรมาธิการชุดนี้เพิ่งเข้าบรรจุวาระ หลังจากนี้จะมีการอภิปรายวาระเพื่อรับหลักการ แล้วทางสภาจะตั้งกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมา ประกอบด้วย สส. และหลังจากนั้นจะมีการเลือกกรรมาธิการ ส่วนเราเป็นเพียงผู้เสนอ ถ้าจำนวนสัดส่วน สส. เลือกเราว่าเหมาะสมที่จะนั่งประธาน เราก็จะเป็นประธาน คราวนี้ในที่ประชุมจะพิจารณาว่าใครเหมาะสมที่จะเอาบุคคลภายนอกมานั่งเป็นกรรมาธิการร่วมด้วย ผมอาจจะเสนอคนจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน 1 คน กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 1 คน เสนอนายตำรวจผู้อยู่ในเหตุการณ์และเป็นผู้ออกคำสั่งในเหตุการณ์เหล่านั้นได้ 1 คน มานั่งกรรมาธิการด้วย

 

จะพยายามเก็บทุกกรณีที่มีเหตุปะทะหรือที่มีเหตุดำเนินคดี จะเก็บทุกรายละเอียด

 

โตโต้-ปิยรัฐ จงเทพ

 

ความเกี่ยวข้องกับมาตรา 112 ทั้งในฐานะจำเลยและในฐานะ สส.

ผมถูกดำเนินคดี 3 คดี โดยทั้ง 3 คดีก็มีการแชร์ข้อความคนอื่นบ้าง และพูดนโยบายของพรรคบ้าง ซึ่งสิ่งที่พูดและแชร์นั้นไม่ได้อาฆาตมาดร้าย ไม่ได้ประทุษร้าย เพราะพูดเสนอแก้กฎหมาย รวมถึงเรื่องวัคซีนก็พูดและโดนคดีเหมือน ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ทั้งที่ไม่ได้พูดถึงการจะล้มล้างสถาบันฯ ไม่แน่ใจว่าโดนคดีเพราะเราเป็นนักการเมืองหรือไม่ เอาเป็นว่าสู้คดีเต็มที่

 

ส่วนบทบาทในสภา เรามี สส. หลายคนถูกดำเนินคดี ไม่ว่าจะ ลูกเกด-ชลธิชา แจ้งเร็ว และ ไอซ์-รักชนก ศรีนอก ซึ่งเป็นตัวแทนพูดประเด็นนี้ 

 

โตโต้-ปิยรัฐ จงเทพ

 

ยืนยันสันติวิธีทั้งในสภาและนอกสภา 

แน่นอนครับ ถ้าคนภายนอกมองผมจะเห็นว่าผมเป็นคนมุทะลุดุดัน จะคิดว่าผมเป็นคนเกรี้ยวกราด แต่ถ้าคนที่คุ้นเคยกับผมจะทราบว่าผมไม่ได้ดุดันก้าวร้าว หลายคนแซวว่าตัวจริงเรียบร้อยมาก ดังนั้น สันติวิธี ผมเชื่อตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว เพราะผมเชื่อว่าไม่มีทางที่จะใช้ความรุนแรงเอาชนะกองกำลังของรัฐได้ เพราะเขามีทุกอย่าง อำนาจรัฐ ข้าราชการ อาวุธ และกฎหมาย 

 

แล้วจะเอาความรุนแรงซึ่งเป็นจุดอ่อนไปชนเขาทำไม เพราะอีกฝ่ายก็รอชนอยู่แล้ว ดังนั้น สิ่งที่ทำได้คือยึดหลักการให้แน่น อุดมการณ์นำความคิด ความคิดนำการกระทำ คิดก่อนทำดีที่สุดครับ

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X