วันนี้ (16 มีนาคม) เวลา 09.00 น. พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล, ปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และพรรณิการ์ วานิช อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วย กฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ตามหมายเรียก เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในความผิดตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 กรณีจัดชุมนุมแฟลชม็อบที่บริเวณสกายวอล์ก หน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่14 ธันวาคม 2562 โดยมีสื่อมวลชนเฝ้าติดตามอยู่ที่บริเวณหน้า สน.ปทุมวัน เป็นจำนวนมาก
ปิยบุตรกล่าวว่าตนยืนยันถึงความเชื่อมั่นในสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและเสรีภาพในการชุมนุมมาโดยตลอด เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการปกครองระบอบประชาธิปไตย ส่วนพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 ที่ออกมานั้น ตอนแรกตนคิดว่าจะสามารถแก้ปัญหาได้ดี แต่ปรากฏว่าในทางปฏิบัติกลับเป็นปัญหามากกว่าเดิม โดยในสมัยที่ตนเป็นประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ได้เคยเชิญ พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาหารือเกี่ยวกับประเด็นปัญหาการใช้พระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะในทางปฏิบัติแล้วด้วย
“ประเด็นปัญหาของพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้รับข้อมูลไปแล้วก็คือแม้กฎหมายฉบับนี้จะใช้ระบบแจ้ง ไม่ใช้ระบบขออนุญาต แต่ทำไปทำมาในทางปฏิบัติการแจ้งกลับสร้างภาระให้กับการชุมนุมสาธารณะมากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้จัดการชุมนุมแจ้งไปแล้ว เจ้าหน้าที่มักจะวางเงื่อนไขอย่างเคร่งครัดจนทำให้การชุมนุมไม่อาจเกิดขึ้นได้จริงในทางปฏิบัติ หรืออาจทำให้เป็นอุปสรรคต่อการจัดการชุมนุม ซึ่งในท้ายที่สุดอาจต้องทบทวนแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ต่อไป และนี่ยังไม่นับรวมว่าจะนิยามอะไรเป็นการชุมนุม การวิ่งออกกำลังกายเป็นการชุมนุมหรือไม่ หลักใหญ่ใจความต้องให้ความสำคัญกับการชุมนุมสาธารณะเป็นหลักในฐานะเสรีภาพในการแสดงออก”
ด้านพิธาระบุว่าการมา สน.ปทุมวัน วันนี้กลับเป็นภารกิจแรกในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกล แทนที่ตนจะได้ใช้เวลาทำงานศึกษาปัญหาที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 หรือปัญหาเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังประชุมกันอยู่ในขณะนี้ แต่ตนต้องมาพบพนักงานสอบสวนที่นี่ อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ทำให้กำลังใจหรือทำให้การทำงานเข้มข้นน้อยลงแต่อย่างใด
“เราเชื่อมั่นในสิทธิเสรีภาพของการชุมนุมซึ่งเป็นส่วนสำคัญของระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่แค่ 4 วินาทีตอนเข้าคูหาเลือกตั้ง ถ้าคนกลุ่มหนึ่งที่มีความเห็นหรือมีความทุกข์ร้อนอะไรก็จะรวมตัวกันเพี่อแสดงออก ถือเป็นกิจกรรมหนึ่งซึ่งสามารถทำได้ในประเทศที่มีระบอบประชาธิปไตย ผมคิดว่าการใช้วิธีทางกฎหมายในเกมการเมืองแสดงให้เห็นถึงบรรยากาศทางการเมืองของประเทศไทยที่ไม่ต้องการให้มีคนหน้าใหม่เข้ามา ผมอยากให้มีบรรยากาศที่เอื้อให้คนเก่งๆ ให้เลือดใหม่ หรือคนที่มีความสามารถจริงๆ มีโอกาสที่จะเข้ามาเล่นการเมืองมากขึ้น”
ด้าน กฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ กล่าวว่าวันนี้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาต่อปิยบุตร พิธา และพรรณิการ์ จำนวน 5 ข้อกล่าวหาคือ
1. ทั้ง 3 คนเป็นผู้จัดการชุมนุมโดยมิได้แจ้งขอการชุมนุม
2. จัดการชุมนุมโดยกีดขวางสถานีรถไฟฟ้า ทำให้การขนส่งสาธารณะมีปัญหา
3. ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต
4. ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานที่สั่งให้ยุติการชุมนุม
5. จัดการชุมนุมสาธารณะในระยะที่ต่ำกว่า 150 เมตรจากวังที่ประทับของพระบรมวงศานุวงศ์ โดยทั้ง 3 คนให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์