วันนี้ (10 กันยายน) ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียแสดงความเห็นต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ว่ารัฐสภาไม่สามารถให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่เองได้ และต้องทำประชามติ 3 ครั้ง
ปิยบุตรระบุว่า คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ เสมือนเป็นการประกาศว่า ศาลรัฐธรรมนูญคือ ผู้ทรงอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญเสียเอง
ปิยบุตรตั้งคำถามถึงบทบาทของสมาชิกรัฐสภาในฐานะผู้มีอำนาจแก้ไขรัฐธรรมนูญตามมาตรา 256 ว่าเหตุใดจึงต้องส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ซึ่งเท่ากับเป็นการ “ยื่นดาบ” ให้ศาลรัฐธรรมนูญ
อย่างไรก็ตาม ปิยบุตรย้ำว่า ท้ายที่สุดแล้ว ประชาชนยังคงเป็นผู้ทรงอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญโดยธรรมชาติ คำถามสำคัญจึงอยู่ที่ว่าประชาชนจะสามารถรวมพลังเพื่อสำแดงอำนาจนี้ได้อย่างไร
นอกจากนี้ ปิยบุตรยังวิเคราะห์ถึงความพยายามจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นในรัฐสภา โดยมองว่าถูกจำกัดด้วยเงื่อนไขหลายประการ ทั้งเงื่อนไขตามบทบัญญัติการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ, เงื่อนไขที่ศาลรัฐธรรมนูญวางไว้
ปิยบุตรชี้ว่า เงื่อนไขที่รัฐสภาจำกัดอำนาจตนเอง ด้วยข้อจำกัดเหล่านี้ ทำให้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ (หากเกิดขึ้นจริง) จะไม่ใช่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยแท้ แต่จะเป็นเพียง ‘รัฐธรรมนูญส่วนต่อขยายหรือส่วนแก้ไข’ ภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ 2560 เท่านั้น
“แล้วรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของแท้จะเกิดขึ้นเมื่อไร คำตอบอยู่ในสายลม” ปิยบุตรกล่าว
ปิยบุตรยังตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อเปลี่ยนผ่านจากรัฐธรรมนูญ 2534 ไป 2540 มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2534 ตอนปี 2539 กำหนดให้มี สสร. มาทำรัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่งต่อมา คือ รัฐธรรมนูญ 2540
“ตอนนั้น ทำกันได้สบาย ไม่มีปัญหาอะไร ทำไมตอนนี้ จะเปลี่ยนผ่านจากรัฐธรรมนูญ 2560 ไปเป็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ถึงได้ยากเย็นแสนเข็ญเหลือเกิน”
ปิยบุตรระบุว่า สมัยปี 2539 ไม่มีศาลรัฐธรรมนูญ มากำหนดเงื่อนไขไว้มากมาย และไม่มีสมาชิกรัฐสภาที่หมั่นจำกัดอำนาจตนเอง เอะอะมีอะไรๆ ก็ร้องถามศาลรัฐธรรมนูญแบบปัจจุบัน