ที่พรรคอนาคตใหม่ เมื่อเวลา 14.00 น. ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค กล่าวถึงกระแสข่าวลือเกี่ยวกับ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ว่าจะเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อหลบหนีคดี โดยกล่าวว่าธนาธรเดินทางไปต่างประเทศเพื่อไปพักผ่อนกับครอบครัวและปฏิบัติหน้าที่ในต่างประเทศต่อ เพื่อพบปะกับนักการเมืองหลายประเทศในสหภาพยุโรป เพื่อแลกเปลี่ยนสถานการณ์การเมืองไทย ภายใต้การสืบทอดอำนาจของ คสช. โดยยืนยันว่าธนาธรจะเดินทางกลับมาประเทศไทยอย่างแน่นอน และย้ำว่าธนาธรยังมีสถานะเป็น ส.ส. และหัวหน้าพรรคอยู่ เพียงถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ จึงขอหยุดข่าวลือ และธนาธรไม่มีความจำเป็นที่ต้องหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ เพราะยังมีหน้าที่ในการกลับมาพิสูจน์ให้ได้ว่าธนาธรจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีตามฉันทามติของประเทศไทย
ปิยบุตรยังกล่าวถึงกรณีการถือหุ้นสื่อบริษัท วี-ลัค มีเดีย ของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่า หลังจากขอขยายเวลายื่นเอกสารชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ เป็นวันสุดท้ายที่ยื่นเอกสาร ได้ส่งทีมกฎหมายยื่นเอกสารทั้งหมดแล้วประมาณ 70 หน้า และเอกสารประกอบการชี้แจงอีก 200 หน้า โดยได้ชี้แจงในทุกประเด็น ทั้งกรณีที่ กกต. ไม่มีอำนาจในการพิจารณากรณีนี้ และแสวงหาข้อเท็จจริงไม่ครบถ้วนก่อนส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ข้อเท็จจริงที่ธนาธรโอนหุ้นตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2562 แล้ว และบริษัท วี-ลัค มีเดีย ไม่ได้ทำสื่อหรือควบคุมเนื้อหา อีกทั้งยกเลิกกิจการไปแล้ว รวมถึงพยานบุคคลอีกจำนวน 5 คน โดยครั้งนี้ยังขอให้ศาลยกเลิกคำสั่งให้ธนาธรหยุดปฏิบัติหน้าที่ด้วย พร้อมย้ำไทม์ไลน์ที่ศาลรัฐธรรมนูญใช้ในการตรวจสอบ ดอน ปรมัตถ์วินัย โดยมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด หากมองไม่ออกก็ไม่รู้ว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ พร้อมระบุว่าควรใช้มาตรฐานเดียวกันในการพิจารณา โดยเปิดโอกาสได้ชี้แจงก่อนการวินิจฉัย
ทั้งนี้จากการพูดคุยกับธนาธรไม่ได้กังวลใจ เพราะสู้อย่างเต็มที่และค่อนข้างมั่นใจในพยานหลักฐาน แต่ยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสมในการเปิดหลักฐาน พร้อมเชื่อว่าธนาธร เป็นมนุษย์แห่งการทลายข้อจำกัด และแนวคำพิพากษาศาลก็มีอยู่แล้ว ถ้าหากจะยอมกันจนถึงขนาดไม่เอา ม.1129 ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้เฉพาะกรณีธนาธรกรณีเดียว เท่ากับเป็นการต้องการจับหนูตัวเดียว แล้วยอมทำลายระบบการโอนหุ้นทางธุรกิจของประเทศ
ส่วนที่ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายระบุว่า การตรวจสอบคุณสมบัติการเป็นนายกรัฐมนตรีของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา แตกต่างกับกรณีของธนาธรนั้น ปิยบุตรกล่าวว่า การออกมาพูดของวิษณุผิด เพราะบอกว่าเป็นการใช้กฎหมายคนละมาตรากัน ขอให้ดูข้อกฎหมายใหม่ เพราะการส่งคำร้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับคุณสมบัติและคุณสมบัติต้องห้าม ได้ใช้ช่องทางตามมาตรา 170 ของรัฐธรรมนูญ และมาตรา 82 ที่ให้ ส.ส. 1 ใน 10 ร้องได้ โดยยืนยันว่าเป็นเรื่องเดียวกัน ทั้งการร้อง ส.ส. ส.ว. คุณสมบัติรัฐมนตรี หรือคุณสมบัตินายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลรัฐธรรมนูญ
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า