วันนี้ (20 สิงหาคม) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการเดินทางกลับประเทศไทยของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 22 สิงหาคม จะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จหรือไม่ว่า ไม่เกี่ยวกัน การกลับมาของทักษิณเป็นสิทธิพลเมืองที่ชอบธรรมที่จะเข้าสู่กระบวนการอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ซึ่งก็หมายถึงผู้ลี้ภัยทางการเมืองก็ควรได้รับสิทธิเท่าเทียมกัน และการที่จะได้นายกรัฐมนตรีก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งก็หวังว่าจะได้นายกฯ ที่ประชาชนให้การยอมรับ ก็คงเป็นกระบวนการที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน แต่ก็ขอให้นึกถึงประชาชนให้มาก นึกถึงเรื่องของระบบมากกว่าบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีการประเมินหรือไม่ว่าทำไมต้องเลือกกลับวันที่ 22 สิงหาคม พิธาตอบว่า ไม่ได้ประเมินอะไร
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าวันที่ 22 สิงหาคมนี้ กระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีจะจบหรือไม่ พิธากล่าวว่า ยังไม่ได้ติดตามเท่าไร ก็คงต้องดู และได้ติดตามจากข่าวไม่ต่างจากสื่อมวลชนและประชาชนว่า ในเรื่องของสภาล่างรวบรวมเสียง 314 เสียง แล้วยังต้องรอทางวุฒิสภาอยู่ดี
“ผมคิดว่าการเมืองตอนนี้เป็นรายวันเลยแหละ อย่างตอนที่เป็นช่วงเวลาของผมก็ทำงานกันมาเป็นเดือนๆ สุดท้ายแล้วภายในวันสองวันก็มีอะไรที่ไม่คาดฝันมา ก็ต้องคอยประเมินกันเป็นชั่วโมง ถ้าไม่เป็นชั่วโมงก็คงต้องเป็นวัน”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลหรือไม่ในการเลือกนายกรัฐมนตรีวันที่ 22 สิงหาคม จะมีการเล่นเกมอะไรเกิดขึ้นอีกในสภา พิธากล่าวว่า ก็หวังว่าจะเป็นไปตามกระบวนการที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม คล้ายๆ กับที่เป็นช่วงเวลาของตนเอง เพราะเป็นเรื่องของระบบมากกว่าคนคนหนึ่ง นโยบายใดนโยบายหนึ่ง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แซวว่าเป็นนายกรัฐมนตรีอีก 10 ปีก็ยังไม่สาย พิธามองว่าก็ทำให้เต็มที่ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมาจนถึงทุกวันนี้ และต่อไปข้างหน้าอีก 10 ปีก็จะทำให้ทุกวัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงมติของพรรคก้าวไกลในการโหวตนายกรัฐมนตรี จะเป็นงดออกเสียงหรือไม่เห็นชอบ พิธาระบุว่า รู้สึกว่า ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานวิปของพรรค ให้สัมภาษณ์เมื่อเช้าว่าวันจันทร์จะมีประชุม แต่ตนเองยังไม่ได้คุยกับปกรณ์วุฒิเพราะลงพื้นที่หาเสียงตั้งแต่เช้า ส่วนทิศทางจะเป็นอย่างไรนั้น ก็คงไม่โหวตเห็นชอบให้กับรัฐบาลที่ข้ามขั้ว แต่จะงดออกเสียงหรือไม่เห็นชอบอย่างไรก็ขอประชุมและขอมติจากที่ประชุม สส. อีกครั้ง พร้อมย้ำว่าส่วนตัวยังไม่ได้พูดคุยกับปกรณ์วุฒิ เห็นจากสื่อที่ให้สัมภาษณ์เช่นกัน ทั้งนี้ ตนเองก็คงจะเข้าร่วมประชุมด้วย เพราะจะเดินทางกลับหลังเสร็จภารกิจวันนี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีของ ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่ 1 ที่ได้จัดเลี้ยงหมูกระทะแม่บ้านสภา โดยใช้งบเลี้ยงรับรองของตำแหน่งรองประธานสภา จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าผิดกฎหมายหรือไม่นั้น พิธากล่าวว่า ปดิพัทธ์ได้ปรึกษาฝ่ายกฎหมายสภาแล้วก่อนที่จะทำ ดังนั้นจึงมั่นใจว่าทำได้แน่นอน