วันนี้ (30 มิถุนายน) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค กล่าวถึงความชัดเจนเรื่องตำแหน่งประธานสภาที่มีการหารือกับพรรคเพื่อไทยว่า ความชัดเจนเรื่องการเจรจากับพรรคเพื่อไทยยังดีขึ้นเรื่อยๆ และยังเจรจาอยู่ ซึ่งต้องรอวันที่ประชุมและประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง และเช้านี้ทาง ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ได้แถลงตามที่ได้พูดคุยกันในพรรค และตนได้เห็น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว และ เศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคตดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยพูด ถ้าอ่านจากสามคนนี้ทุกคนก็พูดตรงกันว่าการเจรจาเป็นไปได้ด้วยดี ก็คงต้องรอผลการเจรจา
ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้ (29 มิถุนายน) ที่มีข่าวออกมา ซึ่งในสถานการณ์แบบนี้พวกเราต้องฟังแต่ยังไม่เชื่อ และตนเองได้เช็กจากสื่อไปหลายสำนัก ทุกคนเขียนว่าจากแหล่งข่าว ดังนั้นแหล่งข่าวคือใคร เมื่อตนเห็นปุ๊บ ก็เห็นด้วยกับชัยธวัชที่ให้สัมภาษณ์ไปแล้วเมื่อเช้า ซึ่งไม่เชื่อว่าเพื่อไทยจะมีเงื่อนไขออกมาแบบนั้น และเป็นไปตามที่ นพ.ชลน่าน และเศรษฐาพูด มีฉากทัศน์เดียวคือฉากทัศน์ที่เราจะไปต่อด้วยกัน และตนขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีตามเจตจำนงของพี่น้องประชาชน
ส่วนจะมีโอกาสเป็นไปตามที่แหล่งข่าวได้พูดไว้เมื่อวานหรือไม่นั้น พิธาบอกว่าหากยึดทั้ง 3 คน ก็คือมีอยู่ฉากทัศน์เดียวคือพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี
นักข่าวถามว่าการเลือกมาจังหวัดพิษณุโลกเพื่อเป็นการยืนยันอย่างชัดเจนหรือไม่ว่า ปดิพัทธ์ สันติภาดา ต้องได้เป็นประธานสภา พิธากล่าวว่า ทางพรรคได้ยืนยันไปแล้วเมื่อ 2 วันก่อนทางเฟซบุ๊กว่าคุณปดิพัทธ์เป็นแคนดิเดตประธานสภา ไม่ต้องลงพื้นที่ก็ได้ยืนยันไปแล้ว คงไม่เกี่ยวกัน
ส่วนประเด็นที่เป็นกระแสอยู่ตอนนี้จะจบวันพรุ่งนี้หรือไม่ เชื่อว่าจบได้ด้วยดีในเวลาที่ต้องจบในลักษณะที่ว่าต้องให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้ ปกติสภารับรองแล้วก็จะมีรัฐพิธีวันที่ 3 กรกฎาคม เลือกประธานสภาวันที่ 4 กรกฎาคม และวันที่ 14-15 กรกฎาคม ก็คงจะเลือกนายกรัฐมนตรี ดังนั้นมีขั้นมีตอน ก็คงค่อยเป็นค่อยไปอย่างที่เศรษฐาพูดก็ถูกแล้ว
