วันนี้ (11 กันยายน) เวลา 12.55 น. ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย พิพัฒน์ รัชกิจประการ ว่าที่รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ตอนนี้น่าจะมีความชัดเจนแล้ว ที่ตนจะนั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แต่เรื่องของนโยบายต่างๆ ที่จะดำเนินการขอให้เป็นเรื่องของอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นผู้แถลง
ส่วนเรื่องของข้อกังขาต่างๆ ทั้งในส่วนของกระทรวงคมนาคมและกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะเรื่องที่ดินเขากระโดงนั้น พิพัฒน์ กล่าวว่า น่าจะเป็นเรื่องที่ต้องเร่งดำเนินการเป็นเรื่องแรกๆ ให้ความกระจ่างกับคนไทยทั้งประเทศ ว่าสรุปแล้วสองกระทรวงนี้จะดำเนินการอย่างไร โดยเฉพาะในส่วนของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และกรมที่ดิน จะต้องมีแนวนโยบายดำเนินการออกมาที่ชัดเจน ซึ่งจะเริ่มจากการหารือ เพื่อดูว่าเรื่องนี้จะต้องมีการพูดคุยกันไปจนถึงชั้นศาลหรือไม่ แต่ตนคิดว่าสิ่งที่ดีที่สุดต้องให้ทางการรถไฟฯ ดำเนินการในขอบเขตที่หน่วยงานคิดว่าจะดำเนินการได้
ส่วนได้มีการตั้งกรอบระยะเวลาไว้หรือไม่ที่จะให้การรถไฟ ฯ เข้าไปดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังจากได้เข้าไปทำหน้าที่ในกระทรวงคมนาคมแล้ว พิพัฒน์ กล่าวว่า แน่นอนว่าหลังจากได้รับการโปรดเกล้าถวายสัตย์ฯ เรียบร้อยแล้ว ก็เป็นสิ่งแรกที่ตนเองต้องดำเนินการ โดยจะมีการหารือกับนายอนุทิน ในฐานะนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยย้ำว่าต้องทำให้คนไทยสบายใจในเรื่องที่ดินเขากระโดง ว่าบทสรุปแล้วจะเป็นอย่างไร
ส่วนอาจจะมีข้อกังขาว่า คนของพรรคภูมิใจไทยเข้ามานั่งดูแลในสองกระทรวงนี้ที่กำลังมีกรณีพิพาท พิพัฒน์ กล่าวว่า ยิ่งพรรคภูมิใจไทยมาดูแล 2 กระทรวงนี้ ยิ่งเป็นสิ่งที่เราต้องทำให้สังคมหายคาใจให้ได้ แม้ว่าสองกระทรวงนี้พรรคภูมิใจไทยจะได้รับหน้าที่ทั้งสองกระทรวง แต่ก็ไม่เกี่ยวกัน เพราะเป็นเรื่องที่ดินของชาติ ต้องทำให้กระจ่างในที่ดินที่ประชาชนได้โฉนดมากว่า 900 ราย หากการรถไฟฯ มองว่าสามารถฟ้องเป็นรายแปลงได้ ก็จะรีบดำเนินการทันที เป็นสิ่งที่ตั้งธงไว้อย่างแรกที่ต้องทำ
ส่วนระยะเวลา 4 เดือนของรัฐบาลเพียงพอหรือไม่ ที่จะทำให้เรื่องนี้กระจ่าง พิพัฒน์ ยอมรับว่า 4 เดือนนี้ ตนไม่แน่ใจ ที่จะนำเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายจะเสร็จเรียบร้อยหรือไม่ แต่ตนจะให้ทางการรถไฟฯ เริ่มดำเนินการทันที หลังรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ พร้อมย้ำในตอนท้ายว่าอะไรที่ทำให้กระจ่าง เป็นเรื่องของกฎหมายที่จะต้องทำและดำเนินการ แต่ยืนยันได้เลยว่า ไม่ใช่มวยล้มต้มคนดู และคนไทยต้องได้รับความกระจ่าง