×

พิชิตขอโอกาสพิสูจน์ตัวเอง ยืนยันเป็นคนดี ตั้งใจทำงาน ยืนอยู่จุดนี้ได้ด้วยความรู้ความสามารถ ไม่หวั่นถูกรุมทึ้งคดีเก่าๆ

โดย THE STANDARD TEAM
08.05.2024
  • LOADING...

วานนี้ (7 พฤษภาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล พิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ตนปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นวันแรก ซึ่งจากการประชุม ครม. วันนี้ได้มีมติมอบหมายงานสำคัญคือเป็นผู้ตรวจร่างมติคณะรัฐมนตรี รวมถึงพิจารณากฎหมายเสนอนายกรัฐมนตรีก่อนนำเข้าสู่ ครม.

 

นอกจากนี้ยังมีคำสั่งมอบหมายให้ดูแลรับผิดชอบสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี, สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี, สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี, สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และสำนักงานราชบัณฑิตยสภา ถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องทำให้ดีที่สุด ยืนยันว่ารักประเทศชาติไม่น้อยกว่าคนอื่น และจะทำหน้าที่ให้บรรลุเป้าหมาย

 

พิชิตกล่าวต่อว่า เคยอยู่ที่นี่ (ทำเนียบรัฐบาล) มา 6-7 เดือนแล้วในฐานะที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นไม่ใช่คนหน้าใหม่ ที่ผ่านมาอยู่ในที่ประชุม ครม. ตลอด ไม่เคยขาดแม้แต่ครั้งเดียว รวมถึงการประชุม ครม. สัญจรในจังหวัดต่างๆ ได้รับรู้นโยบายของรัฐบาล และความตั้งใจของนายกฯ ที่จะทำตามนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา ตนไม่จำเป็นต้องเรียนรู้เรื่องงาน ขอให้สบายใจได้ ตั้งแต่อยู่มาก็อยู่ด้วยความสงบเรียบร้อย ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน วันนี้แม้จะเปลี่ยนตำแหน่ง แต่ก็ยังนั่งอยู่ที่ห้องทำงานชั้น 2 เหมือนเดิม

 

พิชิตกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาทำงานไม่เคยหยุด แม้จะไม่ใช่นักกฎหมายแพ่ง-อาญา แต่ตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดิน และมีความรู้เรื่องรัฐธรรมนูญ-กฎหมายพรรคการเมือง มีทีมงานช่วยตลอด ทำต่อเนื่องมาอย่างน้อย 6-7 ปี ฉะนั้นกรอบงานของตนคงเป็นเรื่องเกี่ยวกับกฎหมาย และขอให้คำสัญญาว่าจากที่สื่อเคยเจอตนแต่ที่ประตูด้านหลัง จากนี้จะขึ้นประชุม ครม. ด้านหน้าตึกบัญชาการทุกครั้ง ถ้ามีอะไรคุยกันได้ทุกเรื่องแบบพี่น้อง เพื่อสื่อสารให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน

 

พิชิตกล่าวต่อว่า วันนี้จะ Kick Off Quick Win ในฐานะที่รับผิดชอบสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พลิกฟื้นศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 ภายใน 30 วัน ซึ่งอยู่ภายใต้โครงการ ‘ทำเนียบช่วยได้’ ทำเนียบต้องเป็นที่พึ่งของประชาชน โดยจะรับแจ้งเบาะแสอาชญากรรมทุกประเภท และพร้อมรับเรื่องเพื่อไปติดตามงานทั้งต้นน้ำและปลายน้ำ ซึ่งจะนำผลมาแจ้งให้ประชาชนทราบ

 

พิชิตกล่าวอีกว่า เริ่มสตาร์ทเครื่องได้เลยเพราะรู้ทันนโยบายและข้อสั่งการของนายกฯ ในแต่ละเรื่อง ตนเก็บข้อมูลทุกอย่างทั้งเรื่องยาเสพติดและพนันออนไลน์ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ทำเนียบจะช่วยได้ ตนก็เปรียบเสมือนมือไม้ของนายกฯ แล้วจะเอาข้อสั่งการของนายกฯ มาทำเป็นโครงการทำเนียบช่วยได้ ด้วยการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน

 

จากนี้จะไปทำความเข้าใจกับทาง พศ. รวมถึงพระเถระชั้นผู้ใหญ่ และจะเดินทางไปรับทราบนโยบายจาก พศ. ทันที และต้องขอบคุณพวงเพ็ชร ชุนละเอียด อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ได้ไปประชุมการจัดงานวันวิสาขบูชาและวันวิสาขบูชาโลก

 

ส่วนกรณีที่มีผู้ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีต่อหน่วยงานต่างๆ พิชิตกล่าวว่า ชีวิตของตนนั้นสิ่งที่ทุกฝ่ายตั้งข้อสงสัย ทุกคนมีอุบัติเหตุในชีวิตได้ 6-7 เดือนที่ผ่านมาสื่อให้พื้นที่ตนเป็นอย่างมาก ซึ่งเคยอธิบายผ่านสื่อต่างๆ อย่างชัดแจ้ง ถ้าให้ความเป็นธรรมกับชีวิตตน ไปศึกษาเรื่องราวต่างๆ ให้ดีพอ จะทราบว่ามันเกิดอะไรขึ้น

 

“ถ้าผมเป็นคนไม่ดีอย่างที่มีการกล่าวหา คนที่ชื่อ พิชิต ชื่นบาน จะไม่เดินเข้าทำเนียบ ผมมั่นใจว่า 10 กว่าปีที่ผ่านมา หัวใจของผมมั่นใจว่าไม่ใช่คนผิด ไม่ใช่คนชั่วร้าย จึงทำให้ชีวิตผมยืนอยู่ได้ด้วยความรู้ความสามารถ ถ้าผมไม่มีความรู้ความสามารถคงไม่มีใครให้ผมมายืนได้ ผมทำงานกับนายกฯ มาหลายคน วันนี้ขอพูดจากใจ” พิชิตกล่าว พร้อมยกมือไหว้กล่าวว่า ขอโอกาสประชาชนให้ตนเองได้ทำงาน

 

พิชิตกล่าวว่า ประเด็นต่างๆ ตนเคารพฝ่ายที่ตั้งข้อสงสัย โดยเฉพาะการเมืองภาคประชาชนที่ไปยื่นเรื่องต่อองค์กรต่างๆ เช่น คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.), คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้รอฟังดุลยพินิจของแต่ละหน่วยงาน ทุกอย่างให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย วันนี้ตนขอก้าวไปทำงานจากหัวใจที่ออกมาพูดโดยไม่มีสคริปต์

 

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ที่มีการยื่นเรื่องต่อองค์กรต่างๆ จะไปกระทบถึงนายกฯ ที่เป็นคนเสนอแต่งตั้ง พิชิตกล่าวว่า ปล่อยให้หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายได้ใช้ดุลยพินิจดีกว่า เราอยู่กับปัจจุบัน ขอทำหน้าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีให้ดีที่สุด และไม่กระทบกับการทำงาน เพราะตนมีสมาธิสูง

 

เมื่อถามว่า หากถอดหมวกความเป็นพิชิตออกแล้วมองในฐานะนักกฎหมาย มองว่าสิ่งที่ถูกร้องมีความผิดหรือไม่ พิชิตตอบว่า ตนคิดไม่ได้ เพราะมีส่วนได้เสีย รอให้หน่วยงานต่างๆ วินิจฉัยดีกว่า ตนไม่คิด ถ้าคิดก็เข้าข้างตัวเองจะไปคิดทำไม เราคิดอย่างเดียวถ้าไม่มีปัญญาอย่ามายืนอยู่ตรงนี้

 

เมื่อถามว่า หลังจากนี้ถ้ามีคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องคุณสมบัติจะฟ้องร้องหรือไม่ พิชิตกล่าวว่า ขอปล่อยให้หน่วยงานที่ตรวจสอบอยู่ได้ทำหน้าที่ดีกว่า ตอนนี้ใจตนที่กำกับ พศ. สิ่งที่ดีที่สุดคือการให้อภัย การอโหสิกรรม โมทนาบุญ เอาเป็นว่าว่ากันได้เลย แต่ตอนนี้ต้องให้ความเป็นธรรม นับแต่วันนี้ขอให้ดูการทำงาน

 

เมื่อถามว่า หวั่นไหวหรือไม่ที่มีคนมองว่าการเข้ารับตำแหน่งครั้งนี้เพราะมีความใกล้ชิด ทักษิณ และ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พิชิตกล่าวว่า ตนยืนตรงนี้ได้เพราะความรู้ความสามารถ ทุกคนมีสิทธิคิด ถ้าตนไม่มีความรู้ความสามารถไม่มีใครให้ตนมายืนตรงนี้ เรื่องการบริหารราชการแผ่นดินไม่ใช่เรื่องเส้นสายหรือเอาพวกเอาพ้อง และหน่วยงานที่ตนได้รับมอบหมายให้กำกับดูแล ถ้าไม่มีความรู้ตนไม่เข้ามา ขอให้สบายใจได้

 

เมื่อถามอีกว่า มองหรือไม่ว่าจะเป็นสายล่อฟ้าของคณะรัฐมนตรี พิชิตกล่าวว่า พิชิต ชื่นบาน พร้อมพิสูจน์ตัวเองด้วยผลงาน

 

เมื่อถามว่า ทำไมไม่ได้รับมอบหมายให้ดูสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พิชิตกล่าวว่า คิดว่างานที่ได้รับมอบหมายก็หนักพออยู่แล้ว และตนก็ทำงานประสานกับเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาได้อยู่แล้ว

 

เมื่อถามอีกว่า ก่อนหน้านี้รัฐบาลเคยเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาดูคุณสมบัติของพิชิตในเรื่องข้อกฎหมาย แต่ไม่ได้ดูเรื่องจริยธรรมตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4)(5) พิชิตกล่าวว่า ตนคิดว่าเขาดูทั้งหมด การกระทำทางฝ่ายบริหารมีการดูหลายหน่วยงาน แต่ผมมั่นใจในความเป็นพิชิต ชื่นบาน ผมเป็นคนดีและตั้งใจทำงาน ขอเอาผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์

 

เมื่อถามอีกว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ พิชิตกล่าวว่า อย่างที่บอก ถ้าคุณบอกว่าตัวเองเป็นคนดี อีกคนบอกว่าคุณเป็นคนไม่ดี แต่เพื่อนของคุณบอกว่าคุณเป็นคนดี อันนี้ถือเป็นเรื่องนามธรรม รักกันชอบกันมีฝักมีฝ่าย ตนเองเป็นคนมีสมาธิสูง 6-7 ปีทำงานมาเยอะ ไปถามคนที่รู้จักผมได้ว่าผมเป็นคนอย่างไร ผมอยู่ในจุดที่พิสูจน์หัวใจของตัวเองมาแล้วว่าผมไม่หวั่นไหวแม้มีอะไรมาล่อใจ จึงยืนได้อยู่ทุกวันนี้

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X