วันนี้ (24 ธันวาคม) ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีสมาชิกพรรคก้าวไกลเสนอให้มีการเลือกตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) 100% ว่าเราได้รับฟังความเห็นตอนที่ประชุม และที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยกับทุกภาคส่วน ซึ่งตัวแทนวิชาชีพระบุว่าหากมีการเลือกตั้ง สสร. อาจจะสู้คนอื่นไม่ได้ แต่ก็จำเป็นต้องมีตัวแทนจากหลายวิชาชีพ
ขณะที่การเลือกตั้ง สสร. 100% แม้เป็นไปตามหลักประชาธิปไตย แต่จะทำให้คนที่เคยดำเนินการประสบความสำเร็จอยู่ฝ่ายเดียว ดังนั้นเรายินดีที่จะมีสภาร่างรัฐธรรมนูญจากประชาชน แต่กลไกที่ได้มาจะ 100% หรือไม่ จะต้องคำนึงถึงความแตกต่างและคนส่วนน้อยด้วย
ภูมิธรรมกล่าวว่า จะมีการประชุมอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (25 ธันวาคม) และจะสรุปเสนอให้คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาตัดสินใจอีกครั้ง โดยเฉพาะในส่วนตัวแทนวิชาชีพนั้นต้องไปดูในรายละเอียดว่าจะมี 23 คน ให้รวมกับตัวแทนจังหวัดทั้ง 77 จังหวัด เพื่อให้ครบ 100 คน หรืออาจจะมีส่วนอื่น ซึ่งการเสนอข้อมูลให้รัฐบาลจะเสนอทั้ง 2 ด้าน ทั้งความเห็นที่อยากให้เป็นและความเห็นที่มีส่วนขัดแย้ง และกรรมการก็จะมีข้อเสนอประกอบไปด้วย คาดว่าภายในไตรมาสแรกของเดือนมกราคมน่าจะผ่านและได้ข้อยุติ แม้การรับฟังความคิดเห็นจะยังไม่เป็นเอกภาพ มีหลายความเห็น
รัฐธรรมนูญ 4 ปี ต้องจบ อย่าให้เงินเป็นข้อจำกัด
ภูมิธรรมระบุว่า การทำประชามติ 3 ครั้ง เป็นหลักประกันที่ทำให้ผ่านได้โดยไม่ตก แต่ก็มีปัญหาว่าการใช้จำนวนครั้งที่มากก็มีค่าใช้จ่ายครั้งละ 3-4 พันล้านบาท ขณะนี้กำลังศึกษาและหาทางเจรจากับทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อยู่ว่าสามารถรวมกับการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เพื่อลดงบประมาณลง แต่ต้องมั่นใจว่าจะไม่มีผลกระทบและทำให้การยกร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ผ่านได้ ไม่เช่นนั้นจะเสียของ
“หากจำเป็นต้องทำ 3 ครั้ง และเสียงบประมาณ 3-4 พันล้านบาท ก็จำเป็นต้องจ่าย โดยจะไม่ให้เงื่อนไขเรื่องเงินเป็นข้อจำกัด แต่ถ้าทำให้ดีและค่าใช้จ่ายน้อยลงก็จะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด วันนี้จะดูให้ครบส่วนและจัดการให้ดีที่สุด โดยอยู่ในเงื่อนไขที่วางเอาไว้คือจะไม่แตะหมวด 1 และหมวด 2 และทำให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น เป็นรัฐธรรมนูญที่ต้องผ่านให้ได้ ภายใน 4 ปีต้องจบ และมีกฎหมายลูกให้เสร็จ พร้อมที่จะเลือกตั้งใหม่ในกติกาใหม่ทันที” ภูมิธรรมกล่าว
ขณะที่ข้อเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 โดยทำประชามติแค่ครั้งเดียวจะทำให้ลดค่าใช้จ่ายหรือไม่นั้น ภูมิธรรมกล่าวว่า เกรงว่าจะมีปัญหาว่าดึงเรื่องและทำให้ทุกอย่างล่าช้า ซึ่งมีเหตุผลและมีข้อวิพากษ์วิจารณ์ได้ทั้งนั้น
