วันนี้ (27 กรกฎาคม) ภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลัง โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ยื่นข้อเสนอให้ไทยและกัมพูชาหยุดยิงโดยอ้างถึงการเจรจามาตรการทางภาษี ว่า หลังจากได้รับการประสานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จะคุยด้วย ตนได้มีการเชิญให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ,รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้าฟัง และได้มีการสอบถามทางกองทัพบกไปด้วย การหารือครั้งนี้จึงเป็นการหารือบนพื้นฐานของการทำงานร่วมกันของทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ ยังได้หารือกับ อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ได้พูดคุยในลักษณะเดียวกันคืออยากเห็นสันติภาพเกิดขึ้น เพราะเป็นห่วงพลเรือน และห่วงการสูญเสีย
สำหรับการพูดคุย ได้เริ่มต้นเล่าให้ฟังว่า ที่ผ่านมาเรายืนยันในหลักสันติภาพและการเจรจามาตลอด การที่ โดนัลด์ ทรัมป์ อยากเห็นการหยุดยิงและสันติภาพนั้น เราทำมาตลอด แต่การยิงเข้ามาพื้นที่พลเรือนโดยไร้เป้าหมายทางทหาร ทำให้เรามีการตอบโต้ไปในฐานเป้าหมายทางทหารและปืนยุทธวิถีจรวดที่เป็นฐานที่ยิงเข้ามาทำลายประชาชน เนื่องจากทำให้พลเรือนไทยเสียชีวิตประมาณ 15 คน และบาดเจ็บกว่า 50 คน และมีการอพยพกว่า 130,000 คน
ขณะที่ โดนัลด์ ทรัมป์ เองเห็นว่าสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นความรุนแรงที่เขาไม่ประสงค์อยากจะเห็นพร้อมระบุว่า หากยังไม่หยุดยิงก็ไม่สามารถเจรจาทำการค้ากับทั้งสองประเทศได้ ซึ่งตนได้ยืนยันว่าไม่มีปัญหา เพราะเป็นไปตามหลักการอยู่แล้ว แต่เงื่อนไขของเราคือต้องการให้กัมพูชาสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนไทย ไม่ใช่การว่ายอมหรือไม่ยอม แต่เรายึดถือประชาชนเป็นหลัก ซึ่งการพูดคุยเป็นไปด้วยดีและหลังจากนี้ก็จะรับเงื่อนไขไปเจรจากับกัมพูชาต่อไป
ภูมิธรรมย้ำด้วยว่า เงื่อนไขของเราขณะนี้ไม่ได้ต้องการให้ประเทศที่ 3 เข้ามาแทรกแซง แต่ขอบคุณที่ห่วงใย ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาต้องไปพูดคุยเงื่อนไขให้จบว่าจะมีมาตรการอย่างไร ในการที่จะหยุดยิง ถอยกำลังทหารออก รวมไปถึงยุทโธปกรณ์วิถีไกล
ส่วนจะมีการพูดคุยกับกัมพูชาจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่นั้น ภูมิธรรมระบุว่า หากวันนี้นัดได้ก็จะมีการพูดคุยในช่วงประมาณเที่ยง แต่ช่วงเช้าวันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะลงพื้นที่ร่วมกับตนไปที่จังหวัดตราด ซึ่งเป็นจุดที่เปิดยุทธการใหม่ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเราจะคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาให้จบก่อน
ภูมิธรรมระบุด้วยว่า ขอให้ประชาชนคลายกังวล ทราบดีว่าเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบาก และประชาชนโดยเฉพาะตามแนวชายแดนได้รับผลกระทบ เรื่องที่เกิดขึ้นจากการกระทำของกัมพูชา เราได้ประณามไปแล้วว่าเป็นอาชญากรรมระหว่างประเทศที่มีการทำร้ายพลเรือน ซึ่งผิดข้อกฎหมายระหว่างประเทศทั้งหมด พร้อมย้ำว่า ชีวิตของคนชายแดนคือสิ่งที่รัฐบาลคำนึงถึงมาโดยตลอด
ภูมิธรรมยังเน้นย้ำโซเชียลให้ระมัดระวังเรื่องการเผยแพร่ภาพโดยเฉพาะปัญหายุทธการด้านกองทัพ เพื่อประโยชน์ของประเทศและความปลอดภัยของทหารแนวหน้า ทั้งนี้ ยอมรับว่า เป็นเรื่องโกลาหล แม้จะเตรียมการแล้ว แต่จะพยายามแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ โดยทั้งหมดได้มีการปรึกษาหารือทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยและได้ให้อำนาจกับทหารเป็นแนวหน้า จึงอยากให้ทุกฝ่ายมั่นใจและเชื่อมั่น
ส่วนการเจรจายังไม่ลงตัวจะยังไม่มีสัญญาณหยุดยิงใช่หรือไม่ ภูมิธรรมกล่าวว่า ทหารของเราจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ จนกว่ารัฐบาลจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนเพื่อนำไปสู่สันติภาพ ซึ่งขณะนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ทำงานประสานกับทุกส่วน โดยทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าอยากให้ปัญหายุติ
ส่วนความไว้ใจต่อกัมพูชานั้น ภูมิธรรมระบุว่า ตนได้ยืนยันต่อ โดนัท ทรัมป์ ไปแล้ว ต้องทำให้เรามั่นใจว่าสิ่งที่ทำจะไม่มีการบิด เพราะฉะนั้นการเจรจาหยุดยิงพร้อมกับการเคลื่อนย้ายกำลังทหารและอาวุธร้ายแรงออกจากพื้นที่เดิมขณะนี้ จะเป็นหลักประกันที่แสดงถึงความจริงใจว่าอยากหยุดยิง แต่กัมพูชาพูดเสมอว่าเราเป็นฝ่ายรุกราน ขณะที่การพูดคุยกับนานาประเทศ รวมถึงสื่อต่างประเทศค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า กัมพูชาเป็นฝ่ายรุกรานก่อน
ส่วนเรื่องภาษี ที่สหรัฐจะประกาศใช้วันที่ 1 สิงหาคมนี้ หลังจากที่ได้พูดคุยกันแล้ว เมื่อวานเขา (สหรัฐ) ก็ได้พูดว่าตรงนี้ไม่ต้องห่วง และเชื่อว่าการหยุดยิงเป็นประโยชน์ต่อชาวโลกและเห็นว่าจะช่วยปกป้องพลเรือนได้ จึงได้ฝากเรื่องนี้ และบอกไปอีกว่า ไทยเป็นฝ่ายที่ยืนยันมาตลอดว่าเราเป็นฝ่ายรักสันติ สิ่งที่เราทำคือการปกป้องอธิปไตยของเรา ที่ต้องการปกป้องชีวิตและพลเรือนของไทย
ภูมิธรรมกล่าวอีกว่า ยังไม่สามารถพูดได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ว่าการเจรจาจะทันวันที่ 1สิงหาคมนี้หรือไม่ เพราะขึ้นอยู่ที่ฝ่ายกัมพูชาจะแสดงให้เรามั่นใจว่า ต้องการหยุดยิงจริงๆ หรือไม่ สำหรับเรานั้นพร้อมเจรจาอยู่ตลอดภายใต้เงื่อนไข เพราะขณะนี้สิ่งที่กัมพูชาทำคือการเปิดแนวรบตลอด 800 กิโลเมตร แนวชายแดนทั้งหมด ตั้งแต่ที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีลงมาจนถึง จังหวัดตราด ฉะนั้นถึงแม้จะหยุดยิงหรือประกาศอย่างไร ก็จะต้องมีเงื่อนไขว่าจะเคลื่อนออกอย่างไร
ส่วนแนวโน้มเรื่องภาษีสหรัฐนั้น ภูมิธรรมย้ำด้วยว่า ทิศทางน่าจะไปในทางบวก และส่วนตัวได้บอก โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าขอบคุณสหรัฐอเมริกาด้วยที่อยากให้เรื่องนี้ยุติลง และเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย รวมถึงต้องขอบคุณมาเลเซีย จีน ที่ยื่นมือเข้ามาด้วยความห่วงใยชีวิตประชาชนพลเรือน