วันนี้ (4 กรกฎาคม) เวลา 08.39 น. ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย เดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่เป็นวันแรก ภายหลังจากเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ เมื่อวานนี้ โดยมี ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย คณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ให้การต้อนรับ
ภูมิธรรม นำคณะ เข้าถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บริเวณหน้าพระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร และเข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะเจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่พระตำหนัก และเข้าสักการะเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ณ อาคารสัมฤทธิ์วิทยากร ภายในวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร
จากนั้น ภูมิธรรม และคณะ เดินทางเข้าสู่กระทรวงมหาดไทย โดยขึ้นยืนบนแท่นเพื่อรับความเคารพของกองเกียรติยศกองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน กระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดน กระทรวงมหาดไทย เสร็จแล้ว เข้าสักการะศาลพระชัยมงคล ศาลพระกาฬไชยศรี และพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
จากนั้นเดินเข้าสู่อาคารศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทยทางมุขหน้า แล้วสักการะพระรูปสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ บริเวณบันไดทางขึ้นห้องปฏิบัติงาน และเข้าสักการะพระรูปหล่อสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ บริเวณข้างห้องปฏิบัติงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แล้วถวายราชสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช และพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บริเวณห้องรับรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
เสร็จแล้วธีรรัตน์ และอรรษิษฐ์ เป็นผู้แทนข้าราชการกระทรวงมหาดไทย มอบแจกันดอกไม้เพื่อแสดงความยินดีให้กับภูมิธรรม และเดชอิศม์ ขาวทอง ที่ห้องรับรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
จากนั้น ภูมิธรรม และคณะ เดินเข้าสู่ห้องประชุมราชสีห์ เพื่อประชุมร่วมกับคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย โดยมี ปลัดกระทรวงมหาดไทย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย อธิบดี ที่ปรึกษาระดับทรงคุณวุฒิ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดปริมณฑลและจังหวัดใกล้เคียง 15 จังหวัด ร่วมประชุม
โดยเป็นการประชุมผ่านระบบ Video Conference ไปยังศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัด ซึ่งมีหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทยประจำภูมิภาค หัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทยส่วนกลางประจำภูมิภาค ร่วมประชุม และถ่ายทอดการประชุมไปยังที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง โดยมีนายอำเภอ ปลัดอำเภอ พัฒนาการอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมรับฟัง
ภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้เข้ากระทรวงมหาดไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งมาพร้อม 2 รัฐมนตรีช่วย พร้อมยืนยันว่าพวกเราทั้งสามคนจะร่วมกันทำงาน และแก้ปัญหาต่างๆด้วยดี ส่วนการพบกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด รวมถึงนายอำเภอ และข้าราชการ ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย รวมถึงหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัด
ได้ให้นโยบายเบื้องต้นว่า ตนมาทำงานอย่างง่ายๆ ไม่ต้องการผู้ติดตามที่ไม่เกี่ยวข้อง เพราะผลงานต้องสำคัญกว่าหน้าตา ไม่ต้องมาเจอหน้าบ่อย แต่ผลงานต้องเป็นรูปธรรม กระทรวงมหาดไทยต้องดีขึ้นกว่าเดิม และสิ่งที่สำคัญในการวัดประเมินผลตนไม่ต้องการตัวเลขอย่างเดียว แต่สิ่งที่อยากเห็นคือผลงานที่เป็นรูปธรรม เพราะตั้งแต่เป็นรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง การแก้ปัญหายาเสพติดตนก็เห็นตัวเลขมาเยอะ แต่ความรู้สึกของประชาชนในพื้นที่ยังไม่รู้สึก
ดังนั้นตนจึงบอกไปว่าประชาชนเขารู้หมด แต่ทำไมผู้ว่าฯ ตำรวจจึงไม่รู้ ดังนั้นตนจึงให้นโยบายยาเสพติดเป็นเรื่องใหญ่ และต้องร่วมมือกัน และสิ่งสำคัญที่ตนได้ให้ที่กระทรวงมหาดไทยคือ มองให้ไกล เพราะวันนี้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นไวมาก อะไรที่เป็นปัญหาเรื่องกฎระเบียบขอให้ออกมา หากจะมาแก้ไขปรับปรุงก็มาพูดคุยกัน เพราะประสบการณ์ตนที่เป็นรัฐบาลเห็นมาหลายอย่างแล้ว ว่ากลไกของระบบราชการก็สำคัญ ซึ่งต้องปรับปรุงสิ่งเหล่านี้เพื่อให้ขับเคลื่อนได้เร็ว
ฉะนั้นงานบริการที่กระทรวงมหาดไทยมีต้องเร็ว มีผลงานที่ประชาชนรับรู้ได้อย่างเป็นรูปธรรม ส่วนกฎระเบียบที่ขัดขวางการทำงานในการบริการประชาชนก็ต้องรีบแก้ไข และทั้งหมดทั้งปวงเศรษฐกิจฐานรากถือเป็นเรื่องสำคัญ ที่กระทรวงมหาดไทยต้องช่วยดูแลแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้พี่น้องประชาชนด้วย
“อยากจะเห็นภายใน 3 เดือนนี้มีรูปธรรมที่จับต้องได้ ถ้าไม่อย่างนั้นจะขออนุญาต ก่อนถึงเดือนกันยายน ผมจะขอปรับกำลังใหม่ เพื่อจะได้ให้คนที่เหมาะกับงาน สามารถตอบสนองการแก้ไขปัญหาได้ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการทุกระดับ ถ้าอยากจะเห็นอะไรดีขึ้นและคิดว่าเป็นปัญหาให้มาบอก ประตูห้องผมเปิดตลอดเวลา” ภูมิธรรม กล่าว
ภูมิธรรม กล่าวอีกว่าได้ฝากไปว่าสิ่งที่ตนเคยทำมา ให้ปลัดกระทรวง รองปลัดกระทรวง ผู้ตรวจราชการกระทรวง และอธิบดี รวมทั้งผู้ว่าฯทุกคน อยากเห็นกระทรวงมหาดไทยภายใต้ 3 รัฐมนตรีนี้เป็นอย่างไรขอให้บอก อะไรที่รู้สึกอึดอัดติดใจอยากทำแล้วไม่ได้ ทำขอให้มาบอก เพราะว่าอะไรก็ตามที่มันทำให้เกิดการไร้ประสิทธิภาพขอให้บอก ถ้ามาบอกแล้วกล้า ทำผมจึงให้ทำ ทำได้ผมจะสนับสนุนต่อ ทำไม่ได้แล้วได้พิสูจน์กันตามศักยภาพที่มี เพราะฉะนั้นภายในกันยายนนี้ได้เห็นแน่ ว่าใครทำอะไรถูกต้องเหมาะสมกับงานของตัวเองเพียงใด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ที่บอกกระทรวงมหาดไทยต้องดีกว่าเดิมหมายความว่าที่ผ่านมาไม่ดีใช่หรือไม่ ภูมิธรรม กล่าวว่า ที่บอกว่าดีกว่าเดิมไม่ใช่สมัยก่อนไม่ดี แต่ตนจะทำให้ดีกว่าเดิม
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำ ว่านโยบายเรื่องปราบยาเสพติดจะเข้มข้นเหมือนสมัยในยุครัฐบาลไทยรักไทยหรือไม่ ภูมิธรรม กล่าวว่า เข้มข้นเหมือนเดิมหรือไม่นั้น ไม่รู้ แต่การปราบยาเสพติดวันนี้ ต้องทำให้ประชาชนรู้สึกได้ว่าไม่เป็นปัญหาและภัยที่คุกคามเขา เพราะวันนี้มันคุกคามไปทุกชุมชนทุกหมู่บ้าน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่า จะประกาศให้ประชาชนสบายใจได้หรือไม่ว่าจะไม่มียาเสพติดหรือน้อยลง ภูมิธรรม กล่าวว่า ยืนยันจะทำอย่างเต็มที่รวดเร็ว และเด็ดขาด ในการแก้ไขปัญหาให้ยาเสพติดมันหมดไป และมีอะไรก็บอกตนได้ซึ่งจะใช้กระบวนการของประชาชน โดยจะใช้กลไกของ ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) กองอาสารักษาดินแดน (อส.) และกำนันผู้ใหญ่บ้าน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่าภายใน 3 เดือนนี้หากเจ้าหน้าที่ไม่มีผลงานจะโยกย้ายหรือไม่ ภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ต้องทำให้ดีกว่าเดิม ถ้าดีแล้วมีผลงานไม่ว่าเป็นใครเราก็สนับสนุน แต่ถ้ายังไม่ดีก็ขอปรับ ซึ่งอันนี้เป็นการทำให้ทุกคนตื่นตัว และทำงานได้เต็มที่ ซึ่งจะดูความตั้งใจในการทำงานและความยากลำบากของพื้นที่ด้วย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีแนวคิดสลายแบ่งสีสิงห์ อย่างกรณีสิงห์ดำหรือสิงห์แดง เข้าใจได้ว่าจบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่สิงห์น้ำเงินอาจดูเหมือนว่าหมายถึงบางพรรคการเมืองหรือไม่ว่า ภูมิ ธรรม กล่าวว่า ตนเข้ามา และฟังก็เห็นว่ามีทุกสี พร้อมย้ำว่าได้ยินว่า มีสิงห์น้ำเงินนะ แต่ตนคิดว่าสิ่งที่สำคัญอยู่ที่การตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนหรือไม่ ตนไม่อยากให้เวลาทำงานข้าราชการมาเดินตามตน อยากให้มีเวลาทำงาน หากใครมีความจำเป็นที่จะต้องมารายงานค่อยมารายงาน ตนก็อยากจะเปลี่ยนวิธีการทำงาน เพราะแบบนั้นไม่ใช่ตน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าในช่วงที่นายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ส่งผลให้ข้าราชการเกียร์ว่างหรือไม่ เนื่องจากมีการประเมินกันว่ารัฐบาลจะอยู่ได้ไม่กี่เดือน ภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่เกียร์ว่าง เพราะถ้าเกียร์ว่างก็ต้องมีการดำเนินการของแต่ละกระทรวงให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล เป็นหน้าที่ที่ต้องทำอยู่แล้ว ถ้าไม่ทำถ้าเกียร์ว่างก็เท่ากับโดนมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ซึ่งมีอยู่แล้ว แต่ตนเชื่อว่าข้าราชการทุกคนพร้อมที่จะทำงาน ซึ่งไม่ใช่รับใช้ใคร แต่เป็นการแก้ปัญหาวิกฤตของประเทศ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าฝ่ายนิติบัญญัติไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ เพราะใกล้จะมีการโหวตงบประมาณแล้ว ภูมิธรรม กล่าวว่า เราเป็นคนทำงาน ก็ควรจะคิดบวกและทำทุกอย่างให้เต็มที่ ถ้าคิดลบมันก็ท้อแท้ แย่ แต่การคิดลบถ้าเป็นจริงก็ต้องค้นคว้าหาข้อมูลแก้ปัญหา เราไม่ถือว่าทั้งหมดเป็นอุปสรรค แต่เป็นความท้าทายที่ต้องฝ่าฟันไป ตนเชื่อว่ารัฐมนตรีทุกคนพร้อมทำงานอย่างเต็มที่ อีกทั้งนายกฯ ก็ไม่ได้หลุดจากหน้าที่ในตอนนี้ เพียงแต่ยังพิสูจน์ทราบไม่ได้ว่าถูกผิดอย่างไร ถ้าเกียร์ว่าง กลไกของรัฐมนตรีมีอยู่แล้ว ไม่ต้องรองนายกฯ หรอก รัฐมนตรีก็สามารถทำงานได้
“คนเกียร์ว่าง แปลว่าไม่อยากทำงาน ก็ทำให้ไม่ต้องทำงาน” ภูมิธรรม กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงอำนาจหน้าที่ของรักษาราชการแทนนายกฯ ภูมิธรรม กล่าวว่า มีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ เมื่อถามย้ำถึงการยุบสภาฯ ทำได้หรือไม่ ภูมิธรรม กล่าวสั้นๆ ว่า ตามรัฐธรรมนูญ