วันนี้ (19 กุมภาพันธ์) ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังหารือกับ หลิวจงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมผู้ช่วยทูตทหารของจีน ทูตทหารจีน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ที่กระทรวงกลาโหม โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า
ภูมิธรรมระบุว่า หลิวจงอี้ยืนยันว่า การทำงานของตนในประเทศไทยเป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ และเคารพในอธิปไตยและกฎหมายท้องถิ่นของไทย พร้อมกล่าวขอโทษคนไทยที่ทำให้ดูเหมือนว่าเข้ามารุกล้ำอธิปไตยตามที่วิพากษ์วิจารณ์กัน ซึ่งอาจเป็นความเร่งร้อนและมุ่งมั่นมากเกินไป เพราะห่วงประชาชนของตัวเอง
ซึ่งตนได้บอกกับหลิวจงอี้ว่าไม่เป็นไร เพราะรู้ว่ามีความตั้งใจและความมุ่งมั่น ซึ่งมีข้อตกลงก่อนหน้านี้ที่จะทำงานร่วมกันอยู่แล้ว นอกจากนี้ หลิวจงอี้ยังชื่นชมมาตรการตัดไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต และน้ำมัน ของรัฐบาลไทย พร้อมทั้งขอบคุณผ่านนายกรัฐมนตรีที่เห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ และร่วมกันทำงานจนได้ผล ทำให้เห็นความเปลี่ยนแปลงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา
ทั้งนี้ ภูมิธรรมระบุว่า จาก 4 ข้อเสนอของหลิวจงอี้ มี 3 ข้อที่รับข้อเสนอคือ
- การเสริมสร้างกลไกไตรภาคีที่เป็นรูปธรรม โดยความร่วมมือระหว่างไทย เมียนมา จีน ให้เป็นแบบอย่างในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ หากชัดเจนภายในสัปดาห์หน้าจะจัดประชุมไตรภาคี ซึ่งขณะนี้กระทรวงกลาโหมกำลังประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศ
- ฝ่ายไทยจะช่วยเหลือในการส่งกลับคนจีนที่มีทั้งเหยื่อและผู้ร่วมขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปัจจุบันมีชาวจีนที่ผ่านการคัดกรองอยู่บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 600 คน ซึ่งจีนจะส่งเครื่องบินมารับทั้งหมด 3 เที่ยว แบ่งเป็นเที่ยวละ 200 คน ห่างกัน 3 วัน ส่วนเหตุที่จะต้องใช้สนามบินแม่สอด จังหวัดตาก เนื่องจากเส้นทางในเมียนมาไม่ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ไทยมีเงื่อนไขว่าการส่งตัวกลับต้องขึ้นเครื่องกลับไปโดยทันที ไม่มีการพักคอยที่อำเภอแม่สอด และฝ่ายจีนรับปากว่า หากสอบสวนได้ข้อมูลว่ามีส่วนใดเกี่ยวโยงกับประเทศไทยจะแจ้งให้ทางการไทยรับทราบ เพื่อนำไปสู่การขุดรากถอนโคนเครือข่ายต่อไป
- ฝ่ายไทยตอบรับมาตรการตัดไฟ อินเทอร์เน็ต และน้ำมัน ในจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมาต่อไป จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์เบาบางจนถึงหมดไป เพื่อสกัดไม่ให้อาชญากรย้ายฐานไปที่อื่น อย่างไรก็ตาม ฝ่ายไทยร้องขอเครื่องมือพิเศษจากจีนในการตรวจตู้คอนเทนเนอร์ เพราะจีนกังวลว่าจะมีสินค้าต้องห้ามเล็ดลอดออกไป ซึ่งจีนรับปากว่าจะนำไปพิจารณา
และ 1 ข้อที่ปฏิเสธ ได้แก่ ข้อเสนอที่ให้ปิดกั้นสิ่งอุปโภคบริโภคไปยังเมียนมา เพราะไทยต้องคำนึงถึงหลักมนุษยธรรม และไม่อยากให้กระทบกับประชาชนที่ไม่มีส่วนรู้เห็นของทั้ง 2 ประเทศ
สำหรับวันพรุ่งนี้ (20 กุมภาพันธ์) จะมีการส่งกลับคนจีน 4 เที่ยวบิน ซึ่งภูมิธรรมพร้อมรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงกลาโหม และจเรตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายจีนนำโดยหลิวจงอี้และคณะ ฝ่ายเมียนมานำโดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมเมียนมาและคณะ จะเดินทางจากกองบิน 6 ดอนเมือง ในเวลา 15.00 น. ไปยังสนามบินแม่สอด เพื่อส่งคนจีนกลับประเทศ เพื่อให้เห็นถึงความร่วมมือระหว่าง 3 ประเทศ ไม่ให้เกิดดราม่าเรื่องการรุกล้ำประเทศไทย
เมื่อถามถึงการคัดกรองเหยื่อและขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ภูมิธรรมระบุว่า การดำเนินการทั้งหมดเป็นกระบวนการร่วมกันภายใน ไม่อยากเปิดเผยให้ทราบมาก เพราะเป็นกระบวนการที่ยังต้องต่อเนื่อง ยังไม่มีที่สิ้นสุด ขออนุญาตไม่พูดถึงรายละเอียด
ส่วนการรับมือกับชาวต่างชาติที่ไม่ใช่ชาวจีน ยังไม่สามารถดูได้ว่าจะนำออกมาจัดการได้เท่าไร เพราะต้องมีกระบวนการกลไกการส่งต่อระดับชาติ (NRM) และให้ดำเนินการที่ฝั่งเมียนมา