วันนี้ (23 มกราคม) ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีสื่อเมียนมากล่าวโทษว่าไทยมีส่วนทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เติบโต รวมถึงมีนายทหารระดับสูงของไทยเข้าพบผู้นำหมายเลข 2 ของรัฐบาลเมียนมาในวันเดียวกันว่า การไปพบผู้นำเมียนมา เราทำหลายส่วน ส่วนหนึ่งคือกระทรวงการต่างประเทศไปคุยกับรัฐมนตรีของเมียนมา อีกส่วนคือคณะกรรมการชายแดนในพื้นที่พยายามจะคุยกับทางเกาะสอง รวมถึงส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อเจรจา
ภูมิธรรมย้ำว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากรัฐบาลไทยหรือประเทศไทยเพียงอย่างเดียว เพราะยังมีชายแดนที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านหลายส่วน ซึ่งเราพยายามประสานและคุยกันอยู่แล้ว
ส่วนการป้องกันชายแดนของรัฐบาลในครั้งนี้ ภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่ใช่แค่ป้องกันปัญหายาเสพติด แต่รวมถึงอาชญากรรมข้ามชาติ คอลเซ็นเตอร์ และการค้ามนุษย์ ถ้าสามารถป้องกันชายแดนได้ โอกาสที่ปัญหาจะเกิดขึ้นจากฝ่ายไทยก็จะลดลง ซึ่งเรื่องนี้กำชับและบอกทุกคนไปแล้ว โดยให้นโยบายไปแล้วว่าต้องทำเต็มที่ ซึ่งการป้องกันชายแดนจะมีส่วนช่วยทั้งหมด ดังนั้นการที่ไปคุยไม่ได้มีเรื่องใดเฉพาะเจาะจง แต่เพื่อหาความร่วมมือซึ่งกันและกัน
ส่วนกรณีรัฐบาลเมียนมาเนรเทศแก๊งคอลเซ็นเตอร์ประมาณ 50,000 คนออกจากประเทศ และในจำนวนนี้มีคนไทยรวมอยู่ด้วย 600 คนนั้น ภูมิธรรมระบุว่า ส่วนที่ออกมาได้ในครั้งที่แล้ว เราให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเข้าไปสอบสวน เนื่องจากต้องพิจารณาการเข้าเมืองอย่างถูกกฎหมาย นอกจากนี้ก็จะดูว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาอาชญากรรมอื่นๆ หรือไม่ หากไม่มีก็ปล่อยไปตามระเบียบ ส่วนคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมก็จะสกัดตัวไว้เพื่อสืบให้ถึงต้นตอ ขณะนี้จึงอยู่ในกระบวนการของราชการ
นอกจากนี้ ภูมิธรรมยังกล่าวถึงกรณีที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศว่าจะแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ให้สำเร็จภายในปีนี้ว่า รัฐบาลพยายามแก้ปัญหา เบื้องต้นเชื่อว่าจะสามารถทำให้ปัญหาลดลง รวมถึงความเข้มงวดและจริงจังของส่วนราชการต่างๆ จะช่วยแก้ไขปัญหาได้
