วานนี้ (14 สิงหาคม) ภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังรับทราบคำตัดสินคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีให้ เศรษฐา ทวีสิน พ้นสภาพการเป็นนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) สิ้นสภาพทั้งคณะ ว่า ได้พูดคุยกับเศรษฐา โดยได้แสดงความเสียใจและเสียดายในความตั้งใจที่จะทำงานของนายกรัฐมนตรี แต่ก็เคารพต่อคำวินิจฉัยของศาล
ภูมิธรรมระบุว่า ขั้นตอนต่อจากนี้ ตนในฐานะรองนายกรัฐมนตรีอันดับที่ 1 จะทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี โดยได้มีการเปลี่ยนเที่ยวบินเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยทันทีหลังเสร็จสิ้นภารกิจการพบหารือกับนายกรัฐมนตรีคาซัคสถานเป็นภารกิจสุดท้าย และจะเดินทางถึงประเทศไทยในช่วงเช้าวันที่ 15 สิงหาคมนี้
ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องรีบดำเนินทันที 3 ด้าน คือ การประชุม ครม., ประชุมพรรคเพื่อไทย และหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อหารือแนวทางการทำงานหลังจากนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้การทำงานต่อเนื่องและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนสูงสุด
อย่างไรก็ตาม ตนก็มีความเป็นห่วงต่อนโยบายที่ค้างอยู่ ไม่ว่าจะเป็นโครงการดิจิทัลวอลเล็ตหรือการจัดทำงบประมาณปี 2568 ก็จะไปหารือกับพรรคในรายละเอียดต่อไป
ภูมิธรรมยังระบุด้วยว่า สำหรับการประชุมกับสมาชิกพรรคเพื่อไทย จะหารือเกี่ยวกับการหาแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคที่ตอนนี้มีอยู่ 2 รายชื่อ คือ แพทองธาร ชินวัตร และ ชัยเกษม นิติสิริ โดยขณะนี้พรรคมีบุคคลที่มีศักยภาพพร้อมอยู่ 2 คน ในส่วนของชัยเกษมทราบว่าสุขภาพกลับมาแข็งแรงแล้ว ที่ผ่านมาก็เข้ามาปฏิบัติช่วยทำงานกับพรรคมาโดยตลอด
ส่วนการประชุม ครม. ก็จะวางแนวทางการทำงานและเดินหน้าทำงานต่อไป ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุม ครม.สัญจร ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยอยู่ในฐานะรัฐบาลรักษาการ ซึ่งจะทำงานภายใต้กรอบอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด ขณะที่การหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล ก็จะมีการหารือและสานต่อนโยบายที่จะทำร่วมกันต่อไป
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีคนใหม่จะมาจากพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ภูมิธรรมระบุว่า อย่าเพิ่งคิดไปไกลเกิน ต้องดำเนินการไปตามกฎหมายก่อน และจะนานแค่ไหนตนไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับที่ประชุมรัฐสภาเป็นคนตัดสินใจ เพราะเป็นกลไกตามกฎหมาย
ส่วนประเด็นคำถามที่ว่า จะต้องมีการหารือเรื่องนี้กับ ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ภูมิธรรมกล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกัน เพราะทุกอย่างต้องรอมติของกรรมการบริหารพรรค จากนี้ไปก็เป็นการบริหารจัดการร่วมกันของพรรค ซึ่งจะต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศ