วันนี้ (14 พฤษภาคม) ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงข้าว 10 ปี ในโครงการรับจำนำข้าวว่า วานนี้ได้เขียนความในใจให้สาธารณชนได้รับรู้แล้ว แต่ขอเน้นย้ำว่า เรื่องนี้ได้พิสูจน์ก่อนที่จะนำเข้ามาปล่อยประมูลโดยโปร่งใส กว้างขวาง และไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับกระบวนการ
ส่วนที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี ออกมากล่าวหาว่า มีการสลับข้าว ไม่ใช่ข้าวในโครงการรับจำนำข้าวนั้น ภูมิธรรมกล่าวว่า ข้าวทุกกระสอบมีตราทั้งหมด ไม่มีอะไรต้องปิดบัง แต่อยากให้คนวิจารณ์ในหลักข้อเท็จจริง ไม่ใช่คิดไปเองหรือสร้างนิยายในอากาศ มันไม่เป็นประโยชน์ เพราะข้าวเป็นสินทรัพย์ของประเทศไทย สามารถสร้างรายได้ส่งออกจำนวนมาก อย่ามาด้อยค่าโดยไม่รู้ข้อเท็จจริง เพราะจะเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศ ก่อนจะย้ำว่าตนพร้อมพิสูจน์ความจริง
ภูมิธรรมกล่าวอีกว่า ตามขั้นตอนของการประมูลข้าว ผู้ซื้อจะต้องมาตรวจสอบคุณภาพข้าว ซึ่งเขายอมรับได้ ตนไม่ได้ย้อมแมวขาย เพราะเขาจะเอาไปขายในตลาดแอฟริกา ไม่จำเป็นจะต้องเป็นข้าวใหม่ ก่อนจะย้อนถามว่าคนที่จะมาซื้อ เขาจะยอมซื้อข้าวเน่าหรือ ธุรกิจเขาเป็นหมื่นๆ ล้าน เขาจะมายอมให้ธุรกิจเขาพังได้อย่างไร
“ที่ออกมาพูดแบบไม่มีความรู้ เท่ากับว่าเป็นการให้ข้อมูลเท็จเข้าไปในคอมพิวเตอร์ ผิดกฎหมาย แต่ผมคิดว่าเจตนาไม่มีอะไร ผมจึงไม่ได้ฟ้อง แต่ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วยังไม่หยุด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็คงต้องไปจัดการให้มันเหมาะสม นี่ไม่ใช่คำขู่ แต่อย่าด้อยค่าข้าวของประเทศเลย ผมไม่คิดว่าจะต้องมาฟอกข้าวเน่าข้าวเสียเพื่อมาขายให้ได้ราคาดี ถ้ามันเน่าจริงก็ต้องขายตามสภาพ จะขายเป็นปุ๋ยหรืออุตสาหกรรมก็อยู่ที่ข้อเท็จจริง ซึ่งมันพิสูจน์ได้ไม่มีอะไรต้องปิดบัง” ภูมิธรรมกล่าว
สารรมข้าวใช้ทั่วโลก-ไม่กระทบผู้คน
ภูมิธรรมกล่าวว่า เมื่อมีการประมูลต้องให้ผู้ที่ส่งออกเขามาพูดเองว่าจะเอาหรือไม่เอา หรือจะเอาไปทำอะไร ส่วนสารอะลูมิเนียมฟอสไฟด์ เป็นสารที่เขาใช้รมข้าว ไม่ใช่สารที่จะเอามาพูดกันให้เลอะเทอะ เป็นสารที่ยอมรับกันทั่วโลก ใครๆ ก็ใช้ ไม่มีผลต่อชีวิตของผู้คน ส่วนสารอะฟลาท็อกซินที่เกาะติดอยู่กับรำข้าวและข้าวเปลือกหรือข้าวสาร จะต้องผ่านกระบวนการขัดสีและปรับคุณภาพข้าว ซึ่งจะหลุดออกไปเอง
ท้าพิสูจน์ ไม่จริงต้องรับผิดชอบ
“เราขายข้าวให้ได้ราคาดี เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร มันไม่ดีเหรอ ที่มาพูดกันเรื่อยเปื่อยใช้จินตนาการทั้งนั้น ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม เป็นการทำลายข้าวไทย คุณสะใจเหรอครับ เป็นการด้อยค่า คุณหมอวรงค์อยากทำแบบนี้เหรอครับ หรืออีกหลายๆ คนอยากทำแบบนี้เหรอครับ มาจูงมือผมแล้วไปพิสูจน์ ถ้าไม่ใช่แล้วสามารถเข้าสู่กระบวนการได้ คุณต้องรับผิดชอบมากกว่านี้ ฉะนั้นผมอยากให้ยุติได้แล้ว” ภูมิธรรมกล่าว
ภูมิธรรมกล่าวอีกว่า “กระบวนการหลังจากนี้ไป ผมจะประกาศให้มีการประมูล และให้เข้าสู่กระบวนการ จะไม่เกี่ยวกับผมแล้ว ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ แต่ผมไปกินข้าวมาแล้ว ทั้งหมดอยู่ในสายตาของสื่อ ที่กินน้อยเพราะมีโรคประจำตัว แต่ก็กินข้าวอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยทั้ง 2 จาน จะพิสูจน์อะไรอีก ยังมีปัญหาอะไรอีก ยังทำลายประเทศไทยไม่พอหรือ”
ภูมิธรรมกล่าวต่อว่า การส่งข้าวตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะเป็นกระบวนการที่จะต้องเกิดขึ้นอยู่แล้วในการประมูล แต่ถ้ามีปัญหามากจริงๆ ใครก็สามารถไปยื่นกับหน่วยงานต่างๆ ให้เข้าสู่กระบวนการที่มีมาตรฐานได้ แต่ไม่ใช่นายโน่นนายนี่ มันไม่ใช่หน้าที่ ถ้ามีหน้าที่จริงคือไปยื่นกระทรวงฯ ตนจะไปดำเนินการให้ จะพาเขาไปเจาะข้าวในโกดังที่มีคนกล่าวหาว่าสร้างสตอรี เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการ
“ผมพร้อมทั้งหมด แต่ขอให้พูดกันตรงๆ อย่าเอาไปพูดเรื่อยเปื่อย พูดกันจนตอนนี้ศักดิ์ศรีข้าวไทยจะไม่เหลืออยู่แล้ว อยากจะให้ปิดเรื่องนี้สักที ผมมีเรื่องที่ต้องทำอีกมาก ผมต้องการที่จะปิดตำนานเรื่องนี้ให้เป็นไปในสิ่งที่ควรจะเป็น ใช้สมองคิดบ้างหรือเปล่าครับที่พูดออกมา” ภูมิธรรมกล่าว
ย้อนถามตัวอย่างข้าวเอามาจากไหน
เมื่อถามว่า ตอนนี้เริ่มมีการรื้อในโซเชียลว่ามีข้าวเอาไปให้บริษัทนั้นบริษัทนี้แจกพนักงาน ภูมิธรรมกล่าวว่า ข้าวที่เอาออกมาจากโกดังมีเพียง 2 ถุงที่เอาไปให้คุณกิตติและคุณสรยุทธที่เป็นสื่อ กินแล้วจะได้เข้าใจ ไม่ใช่ไปฟังจากคนอื่น ข้าวเป็นข้าวหลวงหากจะนำออกมาต้องมีกระบวนการ ความจริงแล้วเอาออกมาก็ถือผิดกฎหมายทั้งนั้น แต่ตนไปกับเจ้าหน้าที่ของรัฐจึงสามารถนำออกมาได้ เพื่อให้มีการพิสูจน์ทราบ แต่คนอื่นๆ ที่ไปเอาข้าวตรงนั้นตรงนี้ เอามาจากไหนก็ไม่รู้ จึงขอให้มาขออย่างเป็นทางการ ตนไม่มีปัญหาอยู่แล้ว
ภูมิธรรมยังกล่าวด้วยว่า ตนไม่ได้โมโห แต่พูดจากอารมณ์และใจจริง ของมันขึ้น ตนรู้สึกว่ามันน่าเบื่อหน่าย แทนที่จะมาช่วยกันให้ขายได้ราคา ถ้าพิสูจน์ได้ว่าไม่เน่ามันจะไปกระทบกระเทือนใคร อยากรู้แค่นี้ หมอวรงค์หรือใครก็ตาม ออกมาปกป้องสิ่งที่เคยทำผิดไว้หรือเปล่า ตนไม่ทราบ
ภูมิธรรมกล่าวว่า ตอนนี้ตนได้ให้องค์การคลังสินค้าเตรียมการเปิดประมูลข้าวแล้ว ซึ่งเป็นการเปิดทั่วไปทั้งหมด ถ้าไม่มีคนมาประมูลเลยจริงๆ ค่อยมาว่ากัน หรือจะมาขอซื้อกันในราคา 5 บาท ตนก็โอเค ยินดีขายในราคา 5 บาท แต่ถ้าขายในราคา 10 กว่าบาทขึ้นไป หรือเป็นราคาที่ไม่ใช่ข้าวเน่า จะเป็นอย่างไร อย่าไปคิดว่าเขาจะเอาไปหลอกขายรัฐบาลแอฟริกา เพราะแอฟริกามีอะไรที่เจริญมากกว่าประเทศที่เจริญแล้วหรือประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างไทย ไม่มีใครยอมจ่ายเงินแพงเพื่อซื้อข้าวเน่า