วันนี้ (11 เมษายน) ภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า “วันนี้จบภารกิจวัคซีนรอบแรก กับจำนวนผู้รับวัคซีนประมาณ 94,000 คน เมื่อเอาตัวเลขมาเข้าสูตรเฉลี่ยพบว่า วันนี้ภูเก็ตมีผู้ได้รับวัคซีน 22% ของประชากร ซึ่งเมื่อไปเทียบกับประเทศที่ประกอบการด้านการท่องเที่ยวเหมือนกัน อย่างเซเชลส์ ที่แตะ 65.60% และมัลดีฟส์ ที่ 47.34% เราก็ยังห่างจากเขาพอประมาณ
“แต่เดือนหน้า หากไม่มีอะไรผิดพลาด เราจะเติมผู้รับวัคซีนได้อีก 100,000 คน และจะทำให้จำนวนสัดส่วนกระเถิบขึ้นเป็น 47% และหากทุกอย่างเป็นไปตามแผน ภูเก็ตจะแตะ 70% ในวันที่ 15 มิถุนายนนี้
“ถ้าดูกราฟของเซเชลส์ น่าจะรักษาระดับที่ 70% ส่วนมัลดีฟส์ อัตราเร่งไม่มาก แต่จะแตะ 70% ใกล้ๆ ภูเก็ต ในระหว่างนี้ทีมบริหารการระบาดได้เตรียมโรงพยาบาลสนาม มีอีกหลายทีมเตรียมการเพื่อให้ประชาชนชาวภูเก็ตที่ยังไม่ได้รับวัคซีนได้รับเร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัยกว้างขวางและทั่วถึง”
ก่อนหน้านี้คณะรัฐมนตรีมีมตินำร่องให้ภูเก็ตเปิดรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนแล้วไม่ต้องกักตัว หรือภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ที่จะเริ่มในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ สิ่งที่ต้องเตรียมการจากนี้จะมี 3 เรื่องหลัก ได้แก่
- การรณรงค์ให้คนในภูเก็ตฉีดวัคซีน ซึ่งต้องใช้วัคซีน 933,174 โดส เพื่อฉีดให้ประชากร 466,587 คน โดยรัฐบาลจะส่งวัคซีนจำนวน 1 แสนโดสถึงภูเก็ตในวันที่ 31 มีนาคมนี้ และจะทยอยส่งมาเรื่อยๆ จนครบทั้งหมดภายในเดือนมิถุนายนนี้
- การเตรียมเรื่อง SOP ในการเดินทางเข้ามาของต่างชาติ ทั้งเรื่องของการรับรองวัคซีน การจัดทำเรื่องวัคซีนพาสปอร์ตต่างๆ
- การเตรียมของความพร้อมของธุรกิจในการรองรับการเปิดรับนักท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันในภูเก็ตมีโรงแรมเปิดให้บริการอยู่ราว 30% หรือ 300 แห่ง จาก 1 พันกว่าแห่ง ก็จะทยอยกลับมาเปิดใหม่มากขึ้น รวมถึงร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก การเรียกแรงงานที่กลับภูมิลำเนากลับมาฉีดวัคซีน เป็นต้น
โดยทางสมาคมท่องเที่ยวภูเก็ตประเมินว่าในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ปีนี้ หากเปิดภูเก็ตได้โดยไม่กักตัว จะทำให้ภูเก็ตมีรายได้จากการท่องเที่ยวและเกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 8.4 หมื่นล้านบาท จากจำนวนนักท่องเที่ยวใน 2 ไตรมาสนี้ที่น่าจะอยู่ที่ 30-35% จากเดิม หรือได้อย่างน้อย 1.5 ล้านคน
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล