วันนี้ (16 กันยายน) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการ ปปง. ขอให้พิจารณาไต่สวนดำเนินคดี พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส. แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นเจ้าพนักงานรัฐเรียกรับเงิน เข้าข่ายการกระทำผิดฐานฟอกเงิน
พร้อมขอให้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน พล.อ. ประวิตร รวมทั้ง ‘โอ๋’ และ ‘ป๊อด’ ซึ่งปรากฏชื่อในคลิปเสียง ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากกรณีคลิปเสียงหลุดคล้าย พล.อ. ประวิตร ซึ่งถูกนำมาเผยแพร่ทางรายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ช่อง 9 MCOT เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2567
พร้อมพงศ์กล่าวว่า พล.อ. ประวิตร ในฐานะที่เคยเป็นถึงรองนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และเป็น สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ถือเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ จึงต้องประพฤติตนโดยยึดถือผลประโยชน์ชาติเหนือกว่าส่วนตน ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ หรือมีพฤติการณ์ที่รู้เห็นหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้ตำแหน่งหน้าที่ของตนแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ
“พูดง่ายๆ พล.อ. ประวิตร ต้องไม่ขอ ไม่เรียก ไม่รับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดที่จะส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ เว้นแต่เป็นการรับจากการให้โดยธรรมจรรยา ซึ่งก็ต้องไม่เกิน 3,000 บาท ที่สำคัญจากบทสนทนาในคลิป น่าสงสัยว่าเงินที่ พล.อ. ประวิตร ถามหาเอาจากโอ๋ ไม่ใช่เงินที่เกิดจากมูลหนี้อันชอบด้วยกฎหมาย และแม้จะไม่มีหลักฐานยืนยันว่าสุดท้ายแล้วมีการมอบเงินให้กับ พล.อ. ประวิตร จริงหรือไม่ แต่ถือว่าเป็นความผิดสำเร็จแล้วตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1246/2510” พร้อมพงศ์กล่าว