วันนี้ (16 กันยายน) สำนักข่าวท้องถิ่นฟิลิปปินส์รายงาน ทางการท้องถิ่นของเมืองมาริกินา ชานเมืองทางด้านตะวันออกของกรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์ จัดแคมเปญ ‘จับหนูแลกเงินสด’ (Rat to Cash) อีกครั้ง เชิญชวนให้ประชาชนจับหนูช่วยทางการ และนำมาแลกเงินสด เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคฉี่หนู (Leptospirosis) โรคอันตรายที่มักมาพร้อมฤดูฝน จับเป็นจับตาย อาจแลกรับเงินสดสูงถึงตัวละ 200 เปโซฟิลิปปินส์ (ราว 130 บาท) ต่อหนูที่มีน้ำหนักอย่างน้อย 150 กรัม
ทางด้าน มาร์เซลิโน เตโอโดโร นายกเทศมนตรีเมืองมาริกินา เผยว่า จนถึงเมื่อวานนี้มีประชาชนจับหนูมาส่งทางการมากถึง 3,737 ตัว และใช้จ่ายงบประมาณไปกับแคมเปญนี้กว่า 3 แสนเปโซฟิลิปปินส์แล้ว
ข้อมูลล่าสุดของกระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์ ชี้ว่า ฟิลิปปินส์มีผู้ป่วยโรคฉี่หนูสูงถึง 1,770 รายแล้วในปีนี้ นับตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นกว่าช่วงระยะเวลาเดียวกันในปี 2021 ถึง 36%
มีผู้คนจำนวนไม่น้อยมองว่า แคมเปญดังกล่าวอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีมากนัก และอาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก หวั่นเกิดเหตุการณ์ Cobra Effect ดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นในอินเดียช่วงที่จักรวรรดิอังกฤษเข้าปกครอง และมีความพยายามในการควบคุมประชากรงูเห่าในอินเดีย จึงเชิญชวนประชาชนฆ่างูเห่าแล้วนำมาแลกเป็นเงิน ส่งผลให้มีผู้คนบางกลุ่มอาศัยช่องโหว่เพาะพันธ์ุงูที่ทางการต้องการ ก่อนที่จะฆ่าแล้วนำไปส่งให้ทางการเพื่อแลกรับเป็นเงิน รวมถึงโอกาสที่จะสัมผัสกับเชื้อโรคก็มีเพิ่มสูงขึ้น
โดยแคมเปญดังกล่าวได้รับการประกาศใช้ครั้งแรกเมื่อปี 2020 ซึ่งปีนี้นับเป็นปีที่ 3 แล้ว แม้จะได้รับเสียงทัดทานอยู่บ้าง แต่ทางการมาริกินาก็ยังคงมองว่า แคมเปญนี้สามารถควบคุมประชากรหนู รวมถึงควบคุมการแพร่ระบาดของโรคฉี่หนูที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นได้
ภาพ: Ezra Acayan / Getty Images
อ้างอิง:
