วันนี้ (31 มีนาคม) แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส. เชียงใหม่ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง, ดนุพร ปุณณกันต์ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และโฆษกพรรคเพื่อไทย, ชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย, วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ สส. เชียงราย และรองประธานกรรมาธิการ คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย, พลนชชา จักรเพ็ชร กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย และ ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้การต้อนรับ หลิวเจี้ยนเชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิเทศสัมพันธ์แห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน และ หานจื้อเฉียง เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ณ สำนักงานใหญ่พรรคเพื่อไทย กรุงเทพมหานคร
แพทองธาร ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิเทศสัมพันธ์แห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนและเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยในการนี้ว่า ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับมิตรที่มีความสัมพันธ์อันดีมายาวนาน และถือเป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน ไม่ว่าจะเป็นในด้านเศรษฐกิจ นโยบายการต่างประเทศต่างๆ หรือการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ซึ่งประเทศจีนถือเป็นประเทศแรกนอกอาเซียนที่ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ไปเยือนหลังได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นการแสดงถึงความสำคัญที่รัฐบาลไทยชุดใหม่มีต่อประเทศจีน
แพทองธารได้ร่วมพูดคุยถึงประเทศไทยภายใต้การนำของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่มีแผนการดำเนินนโยบายเพื่อส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ผ่านการวางโครงสร้างการขนส่งทั้งระบบรถไฟและโครงการแลนด์บริดจ์ ที่จะเชื่อมต่อเส้นทางการค้าไทย-จีนให้สะดวกมากขึ้น ในปัจจุบันจีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย ในขณะที่ไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 13 ของจีน โดยมีมูลค่าการค้ารวม 105,404 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้การลงทุนของนักลงทุนชาวจีนยังถือว่าเป็นชาวต่างชาติที่ลงทุนรายใหญ่ที่สุดในไทยประจำปี 2565 ตนหวังว่านอกจากการสนับสนุนการสร้างงานและสินค้าท้องถิ่นไทยแล้ว บริษัทจากประเทศจีนจะช่วยส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อพัฒนานวัตกรรมไทยในระยะยาวอีกด้วย
แพทองธาร ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ ยังได้ใช้โอกาสนี้พูดถึงนโยบายซอฟต์พาวเวอร์และ 30 บาทรักษาทุกที่ ที่พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก และหวังว่าในอนาคตนโยบายทั้งสองจะเป็นส่วนที่ทำให้ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-จีนเติบโต รวมทั้งมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและวิจัยทางการแพทย์ร่วมกัน
ขณะที่หลิวเจี้ยนเชากล่าวว่า ไทยเป็นมิตรแท้ของจีนมาโดยตลอดตั้งแต่สมัยรัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร และรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และรู้สึกประทับใจที่แพทองธาร ซึ่งเป็นนักการเมืองหญิงรุ่นใหม่ มาต้อนรับอย่างอบอุ่นด้วยตัวเอง และยังมีวิสัยทัศน์ด้านความร่วมมือระหว่างไทย-จีนที่ครอบคลุมรอบด้าน ทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องความเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาค ซึ่งสอดคล้องกับโครงการสายแถบและเส้นทางของจีน (BRI) โดยฝ่ายจีนยินดีร่วมกันทำงานอย่างใกล้ชิดกับไทย เพื่อเร่งผลักดันให้รถไฟฟ้าความเร็วสูง ระยะที่ 1 และระยะที่ 2 ที่จะเชื่อมโยงจีน-ลาว-ไทย อย่างมีนัยสำคัญ จึงต้องวางแผนล่วงหน้าเพื่อให้โครงการนี้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ ฝ่ายจีนยังได้แสดงความยินดีที่ทางมาเลเซียได้ตอบรับการเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟฟ้าไทย-มาเลเซียอย่างแข็งขันอีกด้วย เพราะจะเป็นการสานต่อให้รถไฟในภูมิภาคเอเชียเกิดขึ้นจริงได้
โดยสุดท้ายหลิวเจี้ยนเชากล่าวว่า จีนพร้อมให้ความร่วมมือกับไทยในทุกมิติ และทราบว่าแพทองธารเป็นประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่สำคัญสำหรับการดึงดูดของนักท่องเที่ยวและส่งเสริมแบรนด์สินค้าท้องถิ่น โดยฝ่ายจีนเชื่อว่าประเทศจีนเป็นหุ้นส่วนที่ดีที่สุดของประเทศไทย และยังไม่มีคณะกรรมาธิการซอฟต์พาวเวอร์ จึงหวังที่จะแลกเปลี่ยนและศึกษาเรียนรู้จากประเทศไทย ด้วยการเสนอให้ไทยจัดตั้งศูนย์ซอฟต์พาวเวอร์ไทยในกรุงปักกิ่ง พร้อมเชิญแพทองธารเยือนจีนอย่างเป็นทางการในโอกาสแรก เพื่อส่งเสริม ผลักดัน และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศในทุกมิติต่อไป
