วานนี้ (1 พ.ค.) นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และ นายชุมสาย ศรียาภัย รองโฆษก ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ กกต. ตรวจสอบคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังอนุมัติเงิน อสม. กว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งมี 4 รัฐมนตรีที่เป็นแกนนำพรรคพลังประชารัฐยังไม่ได้ลาออกจากตำแหน่ง และมีการโอนเงินเหล่านี้เข้าบัญชีของ อสม. ก่อนวันเลือกตั้ง 2 วัน เข้าข่ายจูงใจและอำนวยความสะดวกให้พรรคการเมืองที่มี พล.อ. ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 73(1) ในรัฐธรรมนูญ และมาตรา 78 ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่ และการกระทำดังกล่าวส่งผลให้การเลือกตั้งในเขตที่มีผู้สมัคร ส.ส. จากพรรคพลังประชารัฐไม่ได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมหรือไม่ และหาก กกต. วินิจฉัยแล้วมีความผิดจริง ก็ขอให้ กกต. มีมติสั่งระงับสิทธิรับสมัครเลือกตั้งของผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐในทุกเขตเลือกตั้งทั่วประเทศต่อไป และเขตเลือกตั้งใดที่ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐเข้าข่ายจะได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ก็ขอให้ยกเลิกการเลือกตั้งนั้น และมีการเลือกตั้งใหม่
จากหลักฐาน สอดคล้องกับนโยบายของพรรคพลังประชารัฐว่า จะเพิ่มเงินเดือนให้ อสม. จาก 600 บาท เป็น 1,000 บาท ขณะที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติเพิ่มเงินดังกล่าวโดยใช้งบกลาง ซึ่งเป็นงบที่จะใช้กรณีอุบัติภัยและความจำเป็นเร่งด่วนเท่านั้น ดังนั้น การอนุมัติงบ อสม. จึงผิดหลักเกณฑ์ของการใช้งบกลาง และพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งมาตรา 78 ได้ระบุว่า ห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพื่อเป็นคุณหรือเป็นโทษกับผู้สมัครหรือพรรคการเมือง และมีโทษจำคุก 1-20 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,0000 บาท และศาลเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งสูงสุด 20 ปี
ดังนั้น คณะรัฐมนตรีจะอ้างว่าไม่รู้กฎหมายไม่ได้ ตนจึงขอให้ กกต. ไต่สวนและวินิจฉัยตามที่พรรคเพื่อไทยร้อง กกต.
วันนี้ตนเชื่อว่า สังคมกำลังจับจ้องมาที่การทำงานของ กกต. และเรื่องนี้เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายอย่างชัดเจน จึงขอให้ กกต. รับเรื่องนี้และวินิจฉัยอย่างรอบคอบและรวดเร็ว ตนมั่นใจว่า หลักฐานต่างๆ ชัดเจน ซึ่ง นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ผู้สมัคร ส.ส. พรรคเพื่อไทย มีพยานหลักฐานชัดเจนว่า กรมบัญชีกลางโอนเงินเข้าบัญชี อสม. จริง ถือว่าดำเนินการไปแล้ว และความผิดสำเร็จไปแล้ว และหลังจากนี้ตนจะรอดูความคืบหน้าว่า กกต. จะพิจารณารับหรือไม่รับคำร้องภายในวันที่ 7 พฤษภาคม ก่อนที่จะพิจารณาหาช่องทางอื่นต่อไป
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
