27 มิถุนายน ที่หอประชุมใหญ่ทีโอที ถนนแจ้งวัฒนะ มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยเป็นการอภิปรายถึงรายงานการดำเนินการตามแผนปฏิรูปประเทศ ในวันที่สอง ช่วงหนึ่ง ปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ ได้อภิปรายถึงการตรวจสอบกระบวนการสรรหา ส.ว. ที่ประธานสภาไม่บรรจุญัตติของฝ่ายค้านที่เสนอให้ตั้งกรรมาธิการตรวจสอบกระบวนการสรรหา ส.ว. ทำให้ผู้ทำหน้าที่ประธานในเวลานั้น คือ ศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ได้ขอใช้สิทธิ์อธิบายถึงการไม่บรรจุญัตติดังกล่าวเข้าสู่วาระว่า
กรณีไม่บรรจุญัตติพรรคร่วมฝ่ายค้าน 7 พรรคที่ขอตรวจสอบการสรรหา ส.ว. ได้หารือกับประธานและรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เข้าใจความรู้สึกของทุกท่าน แต่ต้องยึดข้อบังคับและรัฐธรรมนูญเป็นที่ตั้ง ตนเองขอรับประกันว่าพวกเราจะพยายามทำตัวให้เป็นกลางที่สุด ยึดกฎหมายและรัฐธรรมนูญเป็นที่ตั้ง
ขณะที่ก่อนหน้านี้ศุภชัยได้ชี้แจงไว้ว่า เรื่องนี้อยู่นอกเหนืออำนาจที่สภาฯ จะไปตรวจสอบได้ เพราะหน้าที่ของสภาฯ คือการตรวจสอบกระบวนการทำงานของรัฐบาล แต่ คสช. ไม่ใช่รัฐบาล จึงไม่สามารถไปตรวจสอบได้
ช่วงหนึ่งของการอภิปราย สุทิน คลังแสง ส.ส. มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ได้กล่าวถึงกรณีการไม่บรรจุญัตตินี้ว่า ตนจะขอใช้สิทธิตามกฎหมาย แจ้งความต่อประธานสภาฯ ฐานละเส้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 เพราะประชาชนต้องการทราบเพียงว่าคนที่จะมาเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ผู้แทนของเขานั้นมีขั้นตอนและหลักเกณฑ์อย่างไร เพราะรู้อยู่แล้วว่าไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงอะไรได้
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
