วันนี้ (2 กันยายน) มนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และ สส. นครพนม พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนเรื่องการยุบสภา ว่า ต้องรอฟัง ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ และช่วงบ่ายวันนี้จะมีการประชุมพรรคเพื่อไทย
ส่วนเป็นห่วงหรือไม่ว่า หากมีการยุบสภาไปแล้วจะมีการไปร้องศาลตามมาอีก มนพรกล่าวว่า บางทีฝนไม่ตกอย่าเพิ่งกางร่ม ต้องรอฟังก่อน ส่วนที่ตอนนี้มีสมาชิกในพรรค เพื่อไทยเริ่มมีสัญญาณว่าจะทิ้งพรรคจะตรึงสมาชิกเหล่านี้ให้อยู่ได้อย่างไร เท่าที่ทราบ และได้มีการตรวจสอบแล้วตอนนี้บางคนก็ยังอยู่กับพรรค หลายคนที่มีข่าวว่าจะตาม ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ สส. กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย ไปพรรคภูมิใจไทย เมื่อสอบถามก็ยังอยู่กับพรรคเพื่อไทย เราต้องพยายามรักษา สส. เดิมของเราไว้ หรือในบางพื้นที่ที่เราไม่มี สส. เราก็เอาคนที่มั่นใจจะลงสมัครกับเราไปลงพื้นที่มาตลอด
ส่วนหากยุบสภาตอนนี้คิดว่าจะเป็นผลดีหรือผลเสียกับพรรค มนพรกล่าวว่า ต้องรอดู เพราะเราเป็นนักการเมืองประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้ง ฉะนั้น อย่ากลัวว่าจะมีการเลือกตั้ง ส่วนกระแสข่าว สส. ต่ำกว่าร้อยนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เป็นกลยุทธ์ของแต่ละพรรคการเมืองและการสื่อสารกับพี่น้องประชาชนว่า ในฐานะ 2 ปีที่เรามาเราทำอะไรให้กับพี่น้องประชาชนบ้าง
ทั้งนี้ มีหลายนโยบายที่เราทำไว้ ยังไปไม่ถึงจุดสิ้นสุดของความสำเร็จ แม้อาจจะอยู่ไม่ครบเทอม 4 ปี หรือจะอยู่ครบเทอม ค่อยดูกันอีกที
‘วราวุธ’ ชี้หากตั้งรัฐบาลไม่ได้ จำเป็นต้องยุบสภาฯ
ด้าน วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า เรื่องของการยุบสภาหรือไม่นั้นถือเป็นสิทธิ์ของนายกรัฐมนตรีในการตัดสินใจกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่วนตัวไม่มีความคิดเห็น ซึ่งการทำงานของพรรคชาติไทยพัฒนาหลังจากได้รับเทียบเชิญจากพรรคเพื่อไทย ในการทำงานร่วมรัฐบาล ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองปี 2567
ทางพรรคถือแนวทางปฏิบัติเมื่อได้รับคำเชิญก็ทำงานร่วมกัน จนถึงตอนนี้ก็ยังให้พรรคเพื่อไทยเป็นคนดำเนินการ ซึ่งมีการพูดคุยกันตามปกติ แต่ไม่ใช่เป็นการพูดคุยกันเรื่องส่วนตัว เป็นการให้เกียรติสมาชิกทุกคน ส่วนหากยังไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้และจะต้องยุบสภาขอให้พี่น้องประชาชนทั้งประเทศเป็นผู้ตัดสินใจน่าจะเหมาะสม คือการคืนอำนาจให้กับประชาชน
‘สมศักดิ์’ ยืนยันยังอยู่เพื่อไทย ขออย่าไปคิดว่าอยู่กับใครต้องเป็นรัฐบาล
ขณะที่ สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าหากไปอยู่ร่วมพรรคใด พรรคนั้นก็มีแนวโน้มที่จะได้รับการเลือกเป็นรัฐบาล ว่า เข้าใจว่าต้องดูจากเวลาการเลือกตั้งมากกว่า ไม่ใช่ระหว่างทาง จะนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างการดำรงตำแหน่งในช่วงดังกล่าวมาคิดไม่ได้ พร้อมย้ำว่ายังอยู่กับพรรคเพื่อไทย
ส่วนประวัติการเมืองที่ผ่านมาไม่เคยเป็นฝ่ายค้านเลยนั้น สมศักดิ์กล่าวว่า เป็นจังหวะพอดีไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะการเมืองไทยมีอุบัติเหตุทางการเมืองอยู่เสมอ ขออย่าไปคิดเลยว่าตนไปไหนก็ต้องเป็นรัฐบาลตลอด
ส่วนที่มีการประเมินทิศทางทางการเมือง ว่านายกรัฐมนตรีคนต่อไปจะเป็นพรรคภูมิใจไทยหรือพรรคเพื่อไทย สมศักดิ์กล่าวว่า ตนไม่ได้คิดเรื่องนี้ เพราะมองว่าอย่างไรก็อยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน ไม่ต้องไปคิดเสียเวลา แต่ช่วงเวลาที่เราดำรงตำแหน่งอยู่จะทำอะไรให้เกิดประโยชน์และเกิดความเป็นธรรมต่อระบบการบริหารจัดการให้ดีที่สุด ซึ่งส่วนตัวไม่ห่วง เรื่องการโหวตนายกรัฐมนตรีเตรียมตัวในการเลือกตั้งดีกว่า
‘ทวี’ พร้อมหนุนเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก
พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาชาติ เปิดเผยจุดยืนของพรรคประชาชาติว่า พรรคประชาชาติเราเป็นพรรคเล็กต้องอยู่กับพรรคใหญ่ ซึ่งก็คือพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล จึงให้พรรคเพื่อไทยเป็นหลักในการไปรวบรวมว่าจะมีพรรคการเมืองใดมาสนับสนุน
ส่วนเรื่องความมั่นใจในการจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ พ.ต.อ. ทวีกล่าวว่า ภาพที่ปรากฏเหมือนว่าเสถียรภาพของการเมืองไม่ดี ทางที่ดีที่สุดกับประชาชนคือยุบสภา ดังนั้น ถ้าจะมีรัฐบาลใหม่ก็ต้องเป็นรัฐบาลที่มีนโยบายเดียวคือยุบสภา เหมือนอย่างสมัย นายกรัฐมนตรีอานันท์ ปันยารชุน จึงต้องให้เจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริงคือประชาชนได้กำหนดจากการเลือกตั้ง และต้องเป็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรมด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคประชาชาติได้มองทางเลือกไหนไว้บ้างระหว่างโอกาสที่จะเป็นฝ่ายค้านหรือโอกาสที่จะยุบสภา พ.ต.อ. ทวีระบุว่า ตอนนี้พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าสามารถรวบรวมเสียงได้ ซึ่งมีกติกาว่าอย่ามีพรรคร่วมรัฐบาลเป็นเสียงข้างน้อย ซึ่งผิดหลักประชาธิปไตย เราก็ต้องหาทางออกอย่าให้ใครมาครอบงำ
ทั้งนี้ หากไม่สามารถดีลกับพรรคประชาชนได้ควรเป็นทางเลือกในการยุบสภาหรือไม่ ขึ้นอยู่ที่พรรคเพื่อไทย ถ้าเขาจัดตั้งรัฐบาล เราสนับสนุนพรรคใหญ่ ตามระบอบประชาธิปไตยเราใช้ระบอบเสียงข้างมาก แต่ถ้าเป็นพรรคที่มีเสียงน้อยแล้วไปรวบรวมมาถือว่าไม่เป็นไปตามหลักประชาธิปไตย
พ.ต.อ. ทวีระบุอีกว่า การเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลก็เป็นเรื่องที่มีเกียรติ และเราไม่สามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ จึงขอดูแนวทางที่ตรงตามกับอุดมการณ์ของพรรคเรา
ส่วนอำนาจในการยุบสภาจะมีหรือไม่นั้น พ.ต.อ. ทวีกล่าวว่า ประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล รัฐสภา หรือ ศาล ทั้ง 3 องค์กรต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และหลักนิติธรรม
