วันนี้ (27 มกราคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังการแถลงโครงการสูงวัยชื่นมื่น เงินหมื่นถ้วนหน้า โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ โดยระบุว่า โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการแจกเงินในระยะที่ 2 วงเงินประมาณ 3 หมื่นล้านบาท จะช่วยให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ขยายตัวได้ประมาณ 0.1% ซึ่งจากข้อมูลของการแจกเงินระยะที่ 1 ในปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นโครงการที่ช่วยให้เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจ ประชาชนนำไปใช้จ่ายและลงทุนต่อยอด ซึ่งทำให้เศรษฐกิจไทยมีโมเมนตัมที่ดี เป็นการเตรียมความพร้อมของเศรษฐกิจในช่วงต่อไปทั้งในช่วงไฮและโลว์ซีซัน
ขณะที่ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลโอนเงินกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 ลงไปในระบบเศรษฐกิจ โดยโอนเงินแล้ว 3.02 หมื่นล้านบาท ถือเป็นส่วนสำคัญของการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ผ่านมารัฐบาลโดยกระทรวงการคลังก็ให้ความสำคัญกับการเตรียมเม็ดเงินลงไปช่วยเหลือประชาชน และช่วยให้มีสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจ โดยการแจกเงินในวันนี้ซึ่งเป็นวันจ่ายในเทศกาลตรุษจีนให้กับกลุ่มผู้สูงอายุก็จะทำให้มีการใช้จ่ายเงินออกไป ถือว่าเป็นการใส่เงินในช่วงที่ถูกต้อง
ส่วนจะโอนเงินไม่สำเร็จมากน้อยขนาดไหนจะแจ้งให้กระทรวงการคลังทราบ โดยในช่วงเย็นของวันนี้ หากโอนเงินไม่สำเร็จก็จะโอนซ้ำให้กับผู้ที่ได้รับสิทธิอีก 3 ครั้งในวันที่ 28 ของแต่ละเดือน ได้แก่ วันที่ 28 กุมภาพันธ์, 28 มีนาคม และ 28 เมษายน
ทั้งนี้ หากย้อนดูรัฐบาลก็มีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องการเติมเงินในระยะที่ 1 วงเงิน 1.45 แสนล้านบาทในเดือนกันยายนปีก่อน ต่อมาในช่วงปลายปีก็มีเงินจากโครงการไร่ละ 1,000 บาทที่โอนให้กับชาวนา จากนั้นก็มีโครงการคุณสู้ เราช่วย ที่ช่วยเพิ่มสภาพคล่องลดหนี้ให้กับประชาชน และโครงการให้ใช้จ่ายเพื่อลดหย่อนภาษี (Easy e-Receipt) ที่มีเม็ดเงินกว่า 7 หมื่นล้านบาท จะลงสู่ระบบเศรษฐกิจในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ก่อนจะมาเป็นโครงการแจกเงินเฟสที่ 2 ในวันนี้
ส่วนความคืบหน้าการแจกเงินในระยะที่ 3 และการแจกเงินให้กับผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนจะได้ความชัดเจนของไทม์ไลน์และขั้นตอนภายใน 2 สัปดาห์นี้ โดยการแจกเงินในเฟสที่ 3 เตรียมเม็ดเงินไว้กว่า 1.6 แสนล้านบาท ซึ่งอยู่ในงบกลางเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2568 ส่วนจะต้องใช้งบปี 2569 หรือไม่ ต้องพิจารณาอีกที
แนวทางการแจกเงินเฟสที่ 3 ยังยืนยันว่าจะแจกให้ได้ภายในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ผ่านระบบแอปพลิเคชันที่เป็นการแจกเงินดิจิทัลและ Smart Contract ที่เป็นระบบบล็อกเชนอยู่เบื้องหลัง โดยก่อนหน้านี้ทำความเข้าใจกับธนาคารพาณิชย์และธนาคารของรัฐแล้วในการใช้งานระบบ Open Loop ร่วมกัน
ส่วนกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน จุลพันธ์กล่าวว่า กลุ่มนี้รัฐบาลจะกำหนดรายละเอียดขั้นตอนต่างๆ และแถลงให้ทราบเร็วๆ นี้ โดยคาดว่าใช้เวลาไม่นาน สามารถทำคู่ขนานไปกับระยะที่ 3 ได้ โดยกลุ่มนี้มีคนที่เข้าข่ายไม่มากนัก คาดว่าไม่เกิน 1 ล้านคน