จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เดินทางตรวจราชการจังหวัดภูเก็ตและพังงา พร้อมเป็นประธานการประชุมกำกับติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคที่ท่าอากาศยานภูเก็ต ในวาระการก่อสร้างสนามบินพังงา
โดยภายหลังการประชุม จุรินทร์กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ทำหน้าที่เป็นประธานรับผิดชอบ วันนี้ได้เดินทางมากับ ถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีและคณะ ประเด็นสำคัญก็คือ การติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างสนามบินพังงา ซึ่งสถานการณ์ผู้โดยสารและการท่องเที่ยวในเขตอันดามันมีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก
แต่ปัจจุบันสนามบินหลักที่ต้องรองรับผู้โดยสารจำนวนมากที่สุดก็คือ สนามบินภูเก็ต ปรากฏว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันหลังจากที่ได้มีการขยายทุกอย่างแล้ว นาทีนี้ ศักยภาพของสนามบินภูเก็ตสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 12 ล้านคน แต่ข้อเท็จจริงขณะนี้มีผู้โดยสารรวมกันแล้ว 18 ล้านคน ซึ่งเกินศักยภาพที่จะรองรับได้ไป 5.5 ล้านคน
จึงเป็นที่มาที่จำเป็นต้องมีสนามบินอีกแห่งในเขตอันดามันที่มารองรับนักท่องเที่ยวและผู้โดยสารที่ล้นจากสนามบินภูเก็ต โครงการสนามบินจังหวัดพังงาจึงเกิดขึ้น ซึ่งได้มีการศึกษาเบื้องต้น เตรียมการที่จะก่อสร้างสนามบิน จะรองรับผู้โดยสารเที่ยวรวมกันที่ 25 ล้านคน ซึ่งผลจากการหารือร่วมกันกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ได้ข้อสรุปว่า
1. มีความจำเป็นในการสร้างสนามบินเพื่อร่วมกันทำงาน เพื่อรองรับผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นทุกวันในฝั่งอันดามันรวมทั้งนักท่องเที่ยว
2. ที่ประชุมมีมติรัฐมนตรีช่วยคมนาคมประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการหาข้อสรุปว่า จากดำเนินการเพื่อให้สนามบินพังงามีความคืบหน้าต่อไป ภายใต้การดำเนินการของหน่วยงานในส่วนของกระทรวงคมนาคมหน่วยใด ระหว่างกรมการท่าอากาศยานกับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
3. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาติดตามเรื่องนี้โดยใกล้ชิดต่อไป
4. ให้ผู้ตรวจสำนักนายกรัฐมนตรีติดตามรายงานการตรวจราชการนี้
สำหรับการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่นั้นมีความจำเป็นต้องใช้พื้นที่ในการก่อสร้างสนามบินประมาณกว่า 7,300 ไร่
จากการสำรวจพบว่า พื้นที่ภายในจังหวัดภูเก็ตไม่มีพื้นที่ว่างเพียงพอ และไม่มีสภาพภูมิศาสตร์ที่เหมาะสม จึงพิจารณาหาพื้นที่ในจังหวัดพังงา
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล