จากกรณีที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา โดยระบุว่า ได้ให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติเจรจาซื้อวัคซีนโควิด-19 เพิ่มเติมจากบริษัท Pfizer โดยมีความเป็นไปได้ที่จะส่งมอบวัคซีนได้ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงสิ้นปีนี้ จำนวนประมาณ 5-10 ล้านโดส ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเสนอราคาและเงื่อนไข เช่นเดียวกับ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ระบุในวันเดียวว่ากำลังเจรจากับทางบริษัท Pfizer เพื่อให้สามารถส่งมอบวัคซีน 10 ล้านโดสภายในเดือนมิถุนายนหรือกรกฎาคมนี้
ล่าสุดวันนี้ (29 เมษายน) เจษฎาณี เอี่ยมศุภสวัสดิ์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร (EM Asia) บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวกับ THE STANDARD ว่า Pfizer ยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับรัฐบาลไทยในการเร่งการผลิตและส่งมอบวัคซีนให้ได้ตามสัญญา แต่ยังไม่สามารถตอบได้ว่ากระบวนในขณะนี้คืบหน้าไปถึงไหน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจมากน้อยแค่ไหนว่าจะส่งมอบได้ตามแผนของรัฐบาล และพร้อมให้คนไทยได้ฉีดในช่วงเดือนสิงหาคมตามที่ระบุ ทาง Pfizer ตอบว่ายังไม่สามารถตอบได้ แต่จะพยายามเร่งให้ได้เร็วที่สุด ยืนยันว่าเห็นความมุ่งมั่นของรัฐบาลที่จะทำให้ได้ตามเป้าหมาย
สำหรับวัคซีน Pfizer-BioNTech เป็นวัคซีนสัญชาติอเมริกัน-เยอรมัน ชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA) ซึ่งเป็นสารพันธุกรรมของไวรัสทำหน้าที่คล้าย ‘แม่พิมพ์’ เมื่อฉีดเข้าไปแล้วจะถูกถอดรหัสเป็นโปรตีนส่วนหนาม (Spike) ออกมากระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ฉีดจำนวน 2 เข็ม ห่างกัน 3 สัปดาห์ ราคาโดสละ 19.5 ดอลลาร์ มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อแบบมีอาการได้ 94.8% สามารถเก็บในอุณหภูมิ -25 ถึง -15 องศาเซลเซียสได้ถึง 2 สัปดาห์ ขณะนี้วัคซีนได้รับอนุมัติให้ใช้ใน 48 ประเทศ
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัคซีน Pfizer ที่: https://thestandard.co/10-questions-to-ask-about-the-pfizer-vaccine/
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า