ซีอีโอ Pfizer เผย เตรียมขออนุญาตใช้วัคซีนต้านโควิด-19 ครอบคลุมเด็กอายุ 2-11 ปี เป็นกรณีฉุกเฉิน กันยายนนี้

วานนี้ (4 พฤษภาคม) อัลเบิร์ต เบอร์ลา ซีอีโอของผู้ผลิตและพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ที่จับมือกับพันธมิตร ผลิตวัคซีน Pfizer-BioNTech เตรียมยื่นเรื่องขออนุญาตใช้วัคซีนต้านโควิด-19 สำหรับเด็กอายุ 2-11 ปี เป็นกรณีฉุกเฉิน (EUA) ต่อองค์การอาหารและยา หรือ อย. สหรัฐอเมริกา (FDA) ในเดือนกันยายนปีนี้ นับเป็นความพยายามของทีมผู้ผลิตและพัฒนาที่ต้องการใช้วัคซีนต้านโควิด-19 ให้ครอบคลุมทุกช่วงอายุมากยิ่งขึ้น

อีกทั้ง Pfizer ยังเตรียมยื่นเรื่องขออนุญาตใช้วัคซีนต้านโควิด-19 สำหรับบุคคลอายุ 16-85 ปี เต็มรูปแบบในเดือนพฤษภาคมนี้ หลังจากได้รับอนุญาตให้ใช้เป็นกรณีฉุกเฉินได้ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2020 ที่ผ่านมา ขณะที่วัคซีนต้านโควิด-19 ที่ครอบคลุมเด็กที่อายุ 6 เดือนถึง2 ปี กำลังอยู่ในช่วงศึกษาและทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัย คาดจะยื่นเรื่องขออนุญาตใช้เป็นกรณีฉุกเฉินในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2021 นี้

โดยเบอร์ลายังเผยอีกว่า ข้อมูลใหม่ที่จะใช้ประกอบการยื่นขออนุญาตการใช้งานระบุว่า วัคซีนต้านโควิด-19 ของ Pfizer-BioNTech สามารถยืดอายุการใช้งานผ่านการจัดเก็บภายในอุณหภูมิตู้เย็นได้นานยิ่งขึ้น ขณะนี้วัคซีนจาก Pfizer-BioNTech ต้องเก็บในอุณหภูมิที่เย็นจัด -80 ถึง -60 องศาเซลเซียส หรือจัดเก็บในอุณหภูมิ -25 ถึง -15 องศาเซลเซียสได้นาน 2 สัปดาห์ จะเพิ่มเป็นสามารถจัดเก็บภายในอุณหภูมิตู้เย็น (2-8 องศาเซลเซียส) ได้นานถึง 4 สัปดาห์ ลดความซับซ้อนในการจัดเก็บและกระจายวัคซีน

ล่าสุด ทางการสหรัฐฯ อนุมัติการใช้งานวัคซีน 3 ตัวจาก Pfizer-BioNTech, Moderna และ Johnson & Johnson เป็นประเทศที่ฉีดวัคซีนให้พลเมืองมากที่สุดในเชิงปริมาณ เป็นอันดับที่ 2 รองจากจีน ฉีดไปแล้ว 247.7 ล้านโดส พลเมืองราว 147.8 ล้านราย หรือคิดเป็น 44.5% ของประชากรทั้งประเทศ เข้ารับวัคซีนต้านโควิด-19 แล้วอย่างน้อย 1 โดส โดยมี 32% ของประชากรเข้ารับวัคซีนครบโดสแล้วขณะนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง: