วันนี้ (18 กรกฎาคม) ที่ศาลรัฐธรรมนูญ กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย และคณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.) ประมาณ 20 คน นำโดย สมยศ พฤกษาเกษมสุข รวมตัวชุมนุมด้านหน้าศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมยื่นหนังสือถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อคัดค้านการพิจารณาคำร้องของศาลรัฐธรรมนูญ จากกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้พิจารณาสมาชิกภาพสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล และคำร้องให้ยุบพรรคก้าวไกลจากนโยบายเสนอแก้ไขมาตรา 112 ว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง
โดยบริเวณที่มวลชนรวมตัวมีตำรวจและชุดควบคุมฝูงชนวางกำลังดูแลพื้นที่จุดที่ทำกิจกรรมและบริเวณโดยรอบอาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ โดยนำแผงเหล็กมากั้นบริเวณด้านหน้าห่างจากตัวอาคารประมาณ 50 เมตร
ทั้งนี้ แกนนำผู้ชุมนุมได้สลับกันปราศรัยและอ่านแถลงการณ์ ด้านสมยศกล่าวตอนหนึ่งว่า ปกติแล้วหลังการเลือกตั้งในหลายประเทศทั่วโลก ภายใน 1 สัปดาห์ก็สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ แต่ประเทศไทยผ่านมา 2 เดือนยังคงไม่จบสิ้น แต่เราพบว่า กกต. ใช้เวลาไม่นานในการเร่งรัดพิจารณากรณีการถือหุ้นสื่อของพิธา ก็ส่งเรื่องมาที่ศาลรัฐธรรมนูญเลย ซึ่งทั้งนี้วิญญูชนทั้งหลายเข้าใจว่าเป็นการใช้กฎหมายโดยไม่สุจริต ใช้กฎหมายเพื่อล้มล้างประชาธิปไตย
ดังนั้นวันนี้จึงมาเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญได้ไต่สวนความสัมพันธ์เชื่อมโยงของผู้ร้อง เพราะกระบวนการร้องเรียนเช่นนี้เกิดขึ้นแล้วศาลรัฐธรรมนูญหยิบมาพิจารณานั้น จะนำมาซึ่งความขัดแย้งในสังคม และจะนำมาซึ่งการทำลายประชาธิปไตย
สมยศกล่าวต่อว่า ขณะนี้ฝ่ายกฎหมายกำลังศึกษาข้อกฎหมายและรวบรวมความเห็นในการอภิปรายโหวตนายกฯ เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีการหยิบยกเรื่องมาตรา 112 ขึ้นมาเป็นข้ออ้างในการไม่โหวตพิธาเป็นนายกฯ เพราะมองว่าอาจจะเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง
กระบวนการที่สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กำลังดำเนินการนั้นเป็นการขัดขวางประชาธิปไตย บ่อนทำลายความมั่นคงของประชาธิปไตย ทำให้หลักการประชาธิปไตยในรัฐธรรมนูญและสากลนานาประเทศเสียหาย ฉะนั้นจะเห็นว่ากระบวนการล้มล้างการปกครองได้เกิดขึ้นแล้ว
ตนอยากให้ ส.ส.-ส.ว. ตระหนักถึงประชาธิปไตย หลักสิทธิเสรีภาพของประชาชน ต้องทำหน้าที่ปกป้องตรงนี้ด้วย ไม่ใช่แค่อ่านกฎหมายและวินิจฉัยไปในทางที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อระบบประชาธิปไตย
สมยศกล่าวว่า ในวันที่ 19 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีรอบที่ 2 ผู้ชุมนุมจะแต่งชุดดำและจัดกิจกรรมฌาปนกิจศพ ส.ว. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เวลา 17.00 น. เราจะประกาศศึกกับองค์กรอิสระ ทั้ง กกต. และศาลรัฐธรรมนูญโดยใช้สิทธิในการชุมนุม นำเสนอความคิดเห็นของประชาชน ไม่ปล่อยให้องค์กรเหล่านี้ทำตามอำเภอใจเพื่อตอบสนองต่อเผด็จการ
มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้สั่งเตรียมรถฉีดน้ำแรงดันสูงและรถน้ำ พร้อมรถบรรทุกควบคุมผู้ต้องหาขนาดใหญ่ 2 คัน มาจอดเตรียมพร้อมไว้ที่ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์หากมีการชุมนุมในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้
ซึ่งคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะประชุมพิจารณาว่าจะรับคำร้องที่ กกต. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพของ ส.ส. ของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ และหากศาลมีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยแล้ว จะมีคำสั่งให้พิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. หรือไม่
