×

ตัดสินเลย! เสียงจาก เป๊ป กวาร์ดิโอลา หวังหยุดคำครหา 115 ข้อหาการเงินของแมนฯ ซิตี้

24.05.2023
  • LOADING...
เป๊ป กวาร์ดิโอลา

HIGHLIGHTS

6 min read
  • ข้อหาทางการเงิน 115 ข้อหาที่ถูกพรีเมียร์ลีกตั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ คือสิ่งที่ทำให้ความสำเร็จใดๆ ก็ตามของซิตี้ยังมี ‘คำครหา’ อยู่ และนั่นเป็นสิ่งที่ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ต้องการให้เรื่องนี้ได้รับการสะสางให้เรียบร้อย
  • ในมุมของผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ากระบวนการตรวจสอบนั้นจะใช้ระยะเวลายาวนานไม่ใช่แค่วันสองวัน แต่อาจจะยาวนานตั้งแต่ 2-4 ปีได้เลยทีเดียว เนื่องจากมีข้อหาจำนวนมาก และมีเอกสารหลักฐานจำนวนมากที่จะต้องทำการตรวจสอบ
  • มีโอกาสที่กว่าเรื่องจะจบ เป๊ปก็อาจจะไม่ได้อยู่กับซิตี้แล้วด้วยซ้ำไป เพราะเมื่อถูกสอบถามถึงอนาคตในการทำงาน เป๊ปเอง ‘บ่ายเบี่ยง’ ที่จะให้คำมั่นอะไร

บรรยากาศในเมืองแมนเชสเตอร์มีความคึกคักกันพอประมาณหลังจากที่ยืนยันได้อย่างเป็นมั่นเหมาะแล้วว่าฝั่งสีฟ้าของเมืองคือแชมป์พรีเมียร์ลีกประจำฤดูกาล 2022/23 จากการที่คู่แข่งอย่างอาร์เซนอลสะดุดขาตัวเองอีกครั้งในเกมกับน็อตติงแฮม ฟอเรสต์

 

แชมป์ครั้งนี้คือแชมป์สมัยที่ 5 ในรอบ 6 ฤดูกาลหลังสุดของพวกเขา ที่ทำให้เริ่มมีการพูดถึงความสำเร็จในยุคของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ใน 2 มุมมองที่น่าสนใจ

 

หนึ่งคือเราพอจะพูดได้ไหมว่านี่คือยุคสมัยของทีมฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมที่สุด ประสบความสำเร็จมากที่สุด เหนือกว่ายอดทีมของอังกฤษในอดีต

 

และอีกหนึ่งคือ 5 แชมป์ใน 6 ปีของซิตี้ กำลังทำให้เกิดการ ‘ผูกขาด’ ในพรีเมียร์ลีกในแบบเดียวกับบาเยิร์น มิวนิกและบุนเดสลีกา, ปารีส แซงต์ แชร์กแมงและลีกเอิง หรือยูเวนตุสและเซเรียอา (ในช่วงก่อนหน้านี้) หรือเปล่า?

 

อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกประเด็นหนึ่งที่มีการตั้งคำถามกัน และอาจจะเป็นคำถามที่มีความสำคัญสูงกว่า 2 เรื่องด้านบนด้วย

 

ตกลงแล้วความสำเร็จทั้งหมดทั้งมวลของแมนฯ ซิตี้ ตลอดช่วงระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมาที่สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองได้ถึง 7 สมัย และแชมป์ฟุตบอลถ้วยในประเทศอีกมากมายนั้น มันเป็นความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากการทำทีมที่บริสุทธิ์ยุติธรรมหรือไม่?

 

ข้อหาทางการเงิน 115 ข้อหาที่ถูกพรีเมียร์ลีกตั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์คือสิ่งที่ทำให้ความสำเร็จใดๆ ก็ตามของซิตี้ยังมี ‘คำครหา’ อยู่ และนั่นเป็นสิ่งที่ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ต้องการให้เรื่องนี้ได้รับการสะสางให้เรียบร้อย

 

เสียงซุบซิบติฉินนินทาต่างๆ จะได้เลิกเสียที!

 

เป๊ป กวาร์ดิโอลา

 

ย้อนกลับไปในเดือนกุมภาพันธ์ วงการฟุตบอลอังกฤษต้องตะลึงกับการที่พรีเมียร์ลีกประกาศตั้งข้อหาความผิดทางการเงินของแมนฯ ซิตี้ ที่มีการละเมิดกฎจำนวน 115 ข้อหา ซึ่งเป็นการกระทำผิดตลอดช่วงระยะเวลา 9 ปี นับตั้งแต่ปี 2009 จนถึง 2018

 

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ หากแต่เป็นภาคต่อของการต่อสู้กันระหว่างองค์กรที่มีหน้าที่กำกับดูแลการแข่งขันให้เป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมอย่างพรีเมียร์ลีก ที่ขอเดินหน้าต่อในสิ่งที่สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (UEFA) ไม่สามารถจัดการกับแมนฯ​ ซิตี้ได้ในการดำเนินคดีทางการเงิน ‘Financial Fair Play’ ในแบบเดียวกันในปี 2020

 

ครั้งนั้น UEFA ได้มีคำสั่งลงโทษพวกเขาด้วยการห้ามลงแข่งขันในรายการสโมสรยุโรปเป็นเวลา 2 ปี แต่แมนฯ ซิตี้ได้ต่อสู้กลับด้วยการยื่นอุทธรณ์เรื่องนี้ต่ออนุญาโตตุลาการกีฬา (CAS) ด้วยการจ้างทีมทนายที่ว่ากันว่าเก่งที่สุดในโลกมาต่อสู้คดีให้

 

ผลปรากฏว่าทางด้าน CAS ได้กลับคำตัดสินเรื่องของโทษแบน โดยหนึ่งในจุดสำคัญคือเรื่องของหลักฐานที่นำมาใช้ ซึ่งมาจาก Football Leaks กรณีการแฮ็กข้อมูลที่สะเทือนโลกฟุตบอลนั้นเก่าเกินไป ไม่สามารถนำมาใช้ตัดสินได้

 

เรื่องนี้ทำให้แมนฯ ซิตี้รอดพ้นจากความผิดได้อย่างฉิวเฉียด และนำไปสู่คำถามของโลกลูกหนังว่านี่จะเป็นเหมือน ‘ใบอนุญาต’ ให้สโมสรที่มีแบ็กอัพทางการเงินระดับอันลิมิต และเป็นสโมสรฟุตบอลที่ควรถูกจัดว่าเป็น ‘State-Owned’ หรือสโมสรฟุตบอลที่เป็นสมบัติของรัฐ (ในขณะที่สโมสรอื่นเป็นสโมสรของเอกชน) สามารถทำในสิ่งที่พวกเขาทำอยู่ได้โดยไม่ผิดและไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดหรือไม่

 

อย่างไรก็ดี พรีเมียร์ลีกกลับมาพยายามอีกครั้งที่จะจัดการเรื่องนี้ให้อยู่ในครรลองคลองธรรม ด้วยการสั่งดำเนินคดีของซิตี้ทั้งหมด 115 ข้อหาด้วยกัน หลังจากที่มีความพยายามตรวจสอบมา 4 ปี โดยมีจุดสำคัญที่ถูกจับตามองคือในกรณีของพรีเมียร์ลีกที่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้นั้น หลักฐานที่นำมาใช้จะไม่มีวันหมดอายุ

 

นั่นหมายถึงซิตี้จะไม่สามารถรอดตัวไปได้ในแบบเดียวกับที่รอดจาก UEFA อย่างแน่นอนในขั้นต้น

 

เว็บไซต์แนบลิงก์บทความที่เกี่ยวข้องตรงนี้

 


 

บทความที่เกี่ยวข้อง:

 


 

ในวงนอกมีการพูดถึงอย่างมากว่าแล้วแบบนี้หากพบว่ากระทำผิดจริง แมนฯ ซิตี้ควรจะต้องเจอบทลงโทษอย่างไร? มีการพูดกันตั้งแต่

 

  • ริบแชมป์ในอดีตและนำมามอบให้แก่ทีมที่เป็นรองแชมป์แทน
  • ปรับตกชั้น (แบบเดียวกับที่ยูเวนตุสเคยเจอ แต่เป็นคดีการล้มบอล)
  • ตัดแต้ม
  • ปรับเงิน
  • การตัดสิทธิ์ลงแข่งในรายการสโมสรยุโรป

 

แต่ในมุมของผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ากระบวนการตรวจสอบนั้นจะใช้ระยะเวลายาวนาน ไม่ใช่แค่วันสองวัน แต่อาจจะยาวนานตั้งแต่ 2-4 ปีได้เลยทีเดียว เนื่องจากมีข้อหาจำนวนมาก และมีเอกสารหลักฐานจำนวนมากที่จะต้องทำการตรวจสอบ

 

 

นอกจากนี้ทางด้านซิตี้เองยังมีการฟ้องร้องกลับพรีเมียร์ลีก โดยหนึ่งในประเด็นที่มีการยกขึ้นมาคือพบว่า เมอร์เรย์ โรเซน ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนเป็นแฟนบอลอาร์เซนอล ซึ่งการต่อสู้คดีตรงนี้อาจจะทำให้เรื่องนี้ล่าช้าไปอีก

 

ความล่าช้าตรงนี้เองที่ทำให้หลายฝ่ายกังวลใจ รวมถึง เป๊ป กวาร์ดิโอลา ที่แม้ผลงานในสนามจะเป็นที่ประจักษ์ถึงความเป็นหนึ่งไม่มีสอง ในการสร้างแมนฯ ซิตี้ให้กลายเป็นสุดยอดทีมที่สามารถพิชิตแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ถึง 5 สมัยใน 7 ฤดูกาล ที่มาทำงานในอังกฤษและกำลังมีโอกาสจะสร้างตำนานด้วยการนำซิตี้คว้า ‘เทรเบิลแชมป์’ ได้เหมือนที่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ทำให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเมื่อ 24 ปีที่แล้ว แต่คำครหานี้ทำให้เขาดีใจและภูมิใจได้ไม่สุด

 

เป๊ป กวาร์ดิโอลา

 

“สิ่งที่ผมอยากขอก็คือพรีเมียร์ลีกและคนที่มีหน้าที่ตัดสินจะช่วยตัดสินเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเลยจะได้ไหม” เป๊ปกล่าวล่าสุดก่อนเกมที่จะพบกับไบรท์ตันแอนด์โฮฟอัลเบียนในคืนนี้ ซึ่งเป็นเกมที่ไม่ได้มีความหมายอะไรแล้วต่อพวกเขา

 

“ถ้าเราทำอะไรผิด ทุกคนก็ควรจะได้รู้ไปเลย และถ้าเราเป็นในสิ่งที่เราเชื่อตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมาว่าเราไม่ได้ทำอะไรผิด ทุกคนก็จะได้เลิกพูดถึงเรื่องนี้อีก”

 

เป๊ปซึ่งมีสัญญากับซิตี้จนถึงปี 2025 เชื่อว่าเรื่องนี้ยิ่งตัดสินเร็วเท่าไรก็ยิ่งดี “จะวันนี้ พรุ่งนี้เลยก็ได้ ไม่ต้องรอถึง 2 ปีหรอก”

 

อย่างไรก็ดี การตรวจสอบเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนในระดับนี้ ตามกระบวนการยุติธรรมแล้วไม่สามารถที่จะเร่งระยะเวลาให้รวดเร็วทันใจขนาดนั้นได้ ซึ่งตรงนี้เป๊ปเองก็น่าจะรู้

 

โดยโอกาสที่กว่าเรื่องจะจบ เป๊ปก็อาจจะไม่ได้อยู่กับซิตี้แล้วด้วยซ้ำไป

 

เพราะเมื่อถูกสอบถามถึงอนาคตในการทำงาน เป๊ปเอง ‘บ่ายเบี่ยง’ ที่จะให้คำมั่นอะไรมากไปกว่าการบอกว่าต่อให้สร้างประวัติศาสตร์ได้เทรเบิลแชมป์จริงก็จะยังอยู่กับซิตี้ต่อไปในฤดูกาลหน้าอย่างแน่นอน ส่วนเรื่องอนาคตในระยะยาวนั้นเขาจะเคารพสัญญาที่เซ็นไว้กับสโมสร

 

เป๊ปบอกใบ้นิดเดียวในคำตอบว่าเขาจะอยู่กับทีมต่อไปอีก 3-4 ปีไหมว่า “ไม่ ไม่ แค่ 2 ปี (ตามสัญญาที่เหลือ) ก็พอแล้ว” และความจริงเขาจะขอดูเป็นปีต่อปีด้วย

 

สำหรับทีมคู่แข่งแล้ว บางทีนี่อาจจะเป็นคำตอบที่พวกเขาอยากได้ยินมากกว่าเรื่องการตัดสินคดีทางการเงินที่ไม่คิดจะคาดหวังอะไรให้มากมาย

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X