วันนี้ (20 ตุลาคม) ช่างภาพข่าว THE STANDARD ลงพื้นที่สำรวจบริเวณธนาคารกรุงไทยในช่วงเช้าของวันแรกในการลงทะเบียนโครงการคนละครึ่งพลัสของรัฐบาล พบว่ามีประชาชนจำนวนมากมาเข้าแถวรอเข้าพบเจ้าหน้าที่ธนาคาร โดยสาเหตุหลักมาจากปัญหาหลากหลายอย่างในการใช้งานแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ ซึ่งเป็นช่องทางหลักในการลงทะเบียนและรับสิทธิ์ของโครงการ
จากการสอบถามประชาชนที่มาต่อคิว พบว่าปัญหาที่ทำให้ต้องมาธนาคารเพื่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่โดยตรง คือ ปัญหายืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้าไม่สำเร็จ ในแอปพลิเคชันเป๋าตัง โดยหลายรายพยายามสแกนซ้ำหลายครั้งตามคำแนะนำ เช่น ถอดหน้ากากอนามัย เปลี่ยนมุมแสงสว่าง หรือถือโทรศัพท์ให้เหมาะสม แต่ก็ยังไม่สามารถผ่านขั้นตอนการยืนยันตัวตนได้
ทำให้ประชาชนกลุ่มนี้ต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงมาติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทยเพื่อดำเนินการยืนยันตัวตนให้สำเร็จ ซึ่งธนาคารกรุงไทยได้มีการจัดเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือประชาชนในส่วนนี้
ปัญหาดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า แม้รัฐบาลจะมุ่งให้โครงการช่วยเหลือประชาชนสามารถทำผ่านช่องทางดิจิทัลได้ด้วยตนเอง แต่สำหรับผู้ใช้งานบางกลุ่ม โดยเฉพาะผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี การยืนยันตัวตนที่ซับซ้อนยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ต้องเดินทางมาที่ธนาคารจนเกิดความแออัด
ในขณะที่ประชาชนแห่มาที่สาขาธนาคารเพื่อแก้ปัญหาการลงทะเบียน รัฐบาลได้เน้นย้ำถึงกรณีประชาชนที่ไม่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 5 (ปี 2565) ว่าเมื่อลงทะเบียนแล้ว หากระบบขึ้นแจ้งว่ากำลังรอผลการลงทะเบียน ระบบจะแจ้งผลผ่านการแจ้งเตือนของแอปฯ เป๋าตัง หรือ SMS ภายใน 3 วัน ขอประชาชนอย่าเป็นกังวล โดยรัฐบาลได้มีการจองสิทธิไว้ให้ท่านแล้วในระบบ และขอให้รอผลการแจ้งในระยะเวลา 3 วัน โดยไม่ต้องลงทะเบียนซ้ำ
สำหรับผู้ที่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 5 (ปี 2565) เมื่อลงทะเบียนสำเร็จ ระบบจะแจ้งว่า คุณได้รับสิทธิคนละครึ่งพลัสสำหรับผู้ยื่นภาษี จำนวน 2,400 บาท (กรณีผู้เสียภาษี) หรือ คุณได้รับสิทธิคนละครึ่งพลัสแล้ว จำนวน 2,000 บาท (กรณีไม่เป็นผู้เสียภาษี)
โครงการคนละครึ่งพลัส 2568 กำหนดคุณสมบัติผู้เข้าร่วมดังนี้:
1. ต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย
2. มีอายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
3. มีบัตรประจำตัวประชาชน
4. ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามฐานข้อมูลของกระทรวงการคลัง ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2568
5. ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในโครงการของรัฐที่ผ่านมา (คนละครึ่ง เฟส 1 ถึง เฟส 5)