×

เพนตากอนเตรียมคุมเข้ม-ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัย หลังเอกสารลับรั่วไหล

06.07.2023
  • LOADING...

กระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา หรือ ‘เพนตากอน’ เตรียมคุมเข้มและยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัย หลังเอกสารลับทางการสหรัฐฯ รั่วไหลครั้งใหญ่

 

ทางการสหรัฐฯ จึงแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ควบคุมระดับการเข้าถึงข้อมูลลับสุดยอด รวมถึงติดตั้งระบบตรวจจับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อติดตามการเผยแพร่ไฟล์ลับผ่านช่องทางออนไลน์โดยไม่ได้รับอนุญาต เบื้องต้น แจ็ก เตเซรา อดีตนักบินวัยเพียง 21 ปี ถูกตั้งข้อหาเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว ซึ่งเขายังคงให้การปฏิเสธ

 

เพนตากอนได้รับคำสั่งจาก ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ คนปัจจุบัน ให้ทบทวนนโยบายและขั้นตอนการปฏิบัติงานต่างๆ ของตนเป็นระยะเวลา 45 วัน หลังเกิดเหตุข้อมูลลับรั่วไหลครั้งใหญ่ ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการเพิ่มการกำกับดูแลผู้ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลลับด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ให้มากยิ่งขึ้น 

 

ด้านเจ้าหน้าที่อาวุโสประจำกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เผยว่า ระบบรักษาความปลอดภัยของเพนตากอนมีปัญหาในการก้าวให้ทันกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนบุคลากรที่ผ่านการตรวจสอบและจำนวนอุปกรณ์อำนวยความสะดวกทั้งหลายที่สามารถเข้าถึงข้อมูลลับระดับต่างๆ ได้ แม้ว่านโยบายที่มีอยู่บางส่วนจะได้รับการเสริมความแข็งแกร่ง แต่นโยบายของเพนตากอนก็ถือว่ายังมีช่องโหว่อยู่บ้าง และรอการปรับปรุงแก้ไขให้มีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น

 

ขณะนี้ เตเซรายังอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดี หลังจากที่เขาถูกจับกุมตัวเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากถูกกล่าวหาว่ามีความผิดฐานเผยแพร่เอกสารลับของทางการสหรัฐฯ บนแพลตฟอร์มห้องแชตออนไลน์อย่าง Discord ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่เกมเมอร์ทั้งหลาย

 

อัยการในคดีนี้เปิดเผยว่า เตเซราได้เผยแพร่ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ ในห้องแชตออนไลน์ โดยเตเซราเดิมทีเป็นสมาชิกหน่วย Air National Guard 102nd Intelligence Wing ที่ตั้งอยู่ในรัฐแมสซาชูเซตส์ของสหรัฐฯ ซึ่งเขาอาจเผชิญบทลงโทษจำคุกสูงสุด 15 ปีในข้อหาเผยแพร่ข้อมูลลับด้านกลาโหมโดยไม่ได้รับอนุญาต 

 

นับเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ท้าทายระบบความมั่นคงของมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ จากภายในประเทศ ซึ่งจำเป็นที่จะต้องเร่งปรับปรุงแก้ไขโดยเร็ว

 

แฟ้มภาพ: Frontpage / Shutterstock

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising