×

Penang 101: เยือนเมืองมรดกโลกปีนัง ชม ชิม เที่ยว ที่ไหนดีนะ

25.05.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

8 Mins. Read
  • รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยว ร้านของกิน และของซื้อของฝากติดไม้ติดมือ สำหรับคนที่คิดอยากไปเที่ยวเมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย
  • ความเจริญของปีนังสร้างปีนังให้กลายเป็นเมืองหลากเชื้อชาติ มีทั้งคนจีน คนมลายู คนไทย คนทมิฬ และด้วยเสน่ห์ทางวัฒนธรรมที่แตกต่างจากภูมิภาคอื่นของมาเลเซียอย่างชัดเจนนี่แหละ เมืองจอร์จทาวน์จึงถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม รับรองโดยองค์การ UNESCO ในปี พ.ศ. 2551
  • ภาพกราฟฟิตี้และงานลวดดัดทั้งหมดในเมืองจอร์จทาวน์ เป็นผลงานของ เออร์เนสต์ ซาชาเรวิก (Ernest Zacharevic) ศิลปินชาวลิทัวเนีย ซึ่งได้ร่วมมือกับ ศิลปินชาวมาเลย์ หลุยส์ โลว์ (Louise Low), ตัง เยือก คัง (Tang Yeok Khang), หลุยส์ กัน (Louise Gan) และศิลปินชาวไทย ณัฐพล ม่วงเกลี้ยง โดยแต่ละภาพจะแฝงไปด้วยเรื่องราวเก่าแก่ของเมืองหรือสะท้อนให้เห็นถึงสังคมและวัฒนธรรมในช่วงเวลานั้นๆ

“ไปมาค่อนโลก แต่ไม่เคยไปปีนัง” วลีค่อนแคะถูกส่งออกมาจากปากเพื่อนสนิทยามเมื่อฉันเอ่ยถามข้อมูลเที่ยวปีนัง เอ้า! ใครมันจะไปครบทุกสถานที่ทั่วโลกล่ะจริงไหม) ปีนัง (Penang) หรือ ปิแนง (อ่านออกเสียงตามคนมาเลเซีย) ถือเป็นจุดหมายปลายทางแรกๆ ของนักท่องเที่ยวไทยทุกยุคทุกสมัย เพราะสถานที่ท่องเที่ยวสวย ไปมาง่าย ราคาถูก จะนั่งรถตู้ก็ได้ รถไฟก็ดี ยิ่งกดตั๋วเครื่องบินยามโปรโมชันยิ่งถูกใหญ่ คิดดูฉันกดไปช่วงสงกรานต์ 4 วัน 3 คืน พร้อมที่พัก ได้ในราคา 7,000 กว่าบาทเอง ถูกมาก! ใครที่กำลังคิดไปปีนัง THE STANDARD รวบรวมมาให้ทั้งสถานที่ท่องเที่ยว ร้านของกิน และของซื้อของฝากติดไม้ติดมือ

 

พื้นฐานเรื่องปีนัง

เมืองปีนัง (Penang) เป็นเกาะเล็กๆ ทางตอนใต้ของแหลมมลายู 1 ใน 12 รัฐของประเทศมาเลเซีย แรกเริ่มเดิมที่ปีนังเป็นเพียงเกาะดิบที่มีป่าเขาและหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ภายใต้การปกครองของสุลต่านแห่งเคดะห์ ถือว่าล้าหลังกว่าเพื่อนมาก ต่อมาเมื่อกัปตันฟรานซิส ไลท์ (Francis Light) ตัวแทนของบริษัทอีสต์อินเดียของอังกฤษ เข้ามาบุกเบิกจัดทำสัญญาเช่าเป็นผลสำเร็จ จากเกาะรกร้างก็กลายเป็นชุมชนเมืองตามแบบแผนอาณานิคมอังกฤษ เปลี่ยนชื่อจากปูเลาปีนังเป็นปรินซ์ออฟเวลส์ (Prince of Wales Island) และพัฒนาจนกลายเป็นเมืองท่าที่เจริญที่สุดในเวลานั้น

 

 

ความเจริญของปีนังสร้างปีนังให้กลายเป็นเมืองหลากเชื้อชาติ มีทั้งคนพื้นที่ซึ่งเป็นคนมลายูที่ยังขนบธรรมเนียมดั้งเดิมอยู่ คนจีนเชื้อสายฮกเกี้ยนที่ตัดสินใจโล้สำเภาอพยพแสวงหาความเจริญในช่วงปลายราชวงศ์ชิง แต่งงานกับคนพื้นเมืองจนกลายเป็นพวกเปอรานากัน (Peranakan) ชาวทมิฬอินเดียใต้ที่เข้ามาเป็นแรงงานสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ให้รัฐบาลอังกฤษ รวมถึงชาวไทยที่มาตั้งรกรากจากการไปมาหาสู่กันจนคุ้นชิน และด้วยเสน่ห์ทางวัฒนธรรมที่แตกต่างจากภูมิภาคอื่นของมาเลเซียอย่างชัดเจนนี่แหละ เมืองจอร์จทาวน์ (George Town) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐปีนัง จึงถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม รับรองโดยองค์การ UNESCO ในปี พ.ศ. 2551

 

Where to Go: เที่ยวที่ไหน

 

 

ตามล่างานศิลป์เมืองจอร์จทาวน์

จอร์จทาวน์เป็นเมืองหลวงของรัฐปีนัง ที่เต็มไปด้วยอาคารสวยๆ สไตล์ชิโน-โปรตุกีสทั่วทั้งเมือง ตามตรอกซอกซอยแทรกแซงด้วยภาพกราฟฟิตี้สวยๆ ให้เห็นเต็มไปหมด หากคุณนึกภาพไม่ออกขอให้นึกถึงตัวเมืองเก่าภูเก็ตในสเกลที่ใหญ่กว่า 3-4 เท่า วิธีการเที่ยวจอร์จทาวน์ให้สนุก แนะนำให้หยิบแผนที่แจกฟรีในสนามบินมาด้วย เลือกฉบับที่เขียน ‘Street Art’ จากนั้นก็หาจักรยานปั่น หรือเดินล่าถ่ายภาพกราฟฟิตี้กันเลย โดยภาพกราฟฟิตี้และงานลวดดัดทั้งหมดเป็นผลงานของเออร์เนสต์ ซาชาเรวิก (Ernest Zacharevic) ศิลปินชาวลิทัวเนีย ซึ่งได้ร่วมมือกับศิลปินชาวมาเลย์ หลุยส์ โลว์ (Louise Low), ตัง เยือก คัง (Tang Yeok Khang), หลุยส์ กัน (Louise Gan) และศิลปินชาวไทย ณัฐพล ม่วงเกลี้ยง โดยแต่ละภาพจะแฝงไปด้วยเรื่องราวเก่าแก่ของเมือง หรือสะท้อนให้เห็นถึงสังคมและวัฒนธรรมในช่วงเวลานั้นๆ

 

Pinang Peranakan Mansion

 

Pinang Peranakan Mansion

อดีตแมนชั่นหลังโตของกะปิตันจุงเก็งกวี่ (Captain Chung Keng Kwee) หัวหน้าชุมชนจีนและเศรษฐีใหญ่ประจำเมือง ซึ่งถูกแปรเปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเรื่องราวชาวเปอรานากัน (Peranakan) อาคารหลังใหญ่สีเขียวไข่กาสร้างขึ้นเมืองปี พ.ศ. 2433 โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกเป็นอาคารหลักจำลองวิถีชีวิตและข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ของเจ้าบ้าน หลังรองจัดเก็บของเก่าของโบราณของชาวเปอรานากันในชีวิตประจำวัน ทั้งเครื่องแต่งกาย เครื่องนุ่งห่ม ส่วนที่ 3 เป็นศาลเจ้าประจำบ้าน ใหญ่โตโอ่อ่าราวกับวัดจีน

 

City Hall

 

ย่านราชการ

ถัดจากคฤหาสน์ของกะปิตันจุงเก็งกวี่ไปไม่ไกล เป็นสถานที่ตั้งของศูนย์ราชการเมืองปีนัง ใครที่ชอบสไตล์ยุโรปโอ่อ่า โคโลเนียลสวยๆ ให้มาเดินเล่นละแวกนี้ ไม่ว่าจะเป็นศาลาว่าการรัฐปีนัง (City Hall) โบสถ์หลังงาม 2 หลัง ป้อมปราการคอร์นเวลลิส (Fort Cornwallis) รวมไปถึงโรงเรียนสตรีคอนเวนต์ และสวนสาธารณะสวยๆ ไว้นั่งกินลมชมวิวทะเลกันด้วย

 

โบสถ์สองหลังประจำย่าน

 รางรถไฟรถรางขึ้น Penang Hill

 

Penang Hill

พื้นที่ส่วนใหญ่ของปีนังยังคงเป็นป่าดิบ โดยเฉพาะบริเวณตอนกลางประเทศ มีลักษณะเป็นเทือกเขาสูงทอดตัวเป็นแนวยาว ซึ่งหนึ่งยอดเขาที่รู้จักกันดีคือ ปีนังฮิลล์ (Penang Hill) ในอดีตถูกใช้เป็นสถานตากอากาศสำหรับข้าราชการและพ่อค้าคหบดี มีการสร้างรถรางและบ้านพักตากอากาศบนยอดเขาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2467 ถือเป็นรถรางขึ้นเขาที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาค ไต่ระดับความสูงจนถึง 823 เมตร ชมสุดยอดทิวทัศน์วิวเมืองจอร์จทาวน์ ด้านบนนอกจากวิวเมืองและบาร์คาเฟ่ ชวนให้เดินทอดน่องนั่งมองทอดอารมณ์ เราขอแนะนำกิจกรรมพิเศษสุดเป็นการเดินป่าของ ‘The Habitat’ ส่วนต่อขยายที่ต้องจ่ายค่าเข้าบริการเพิ่มเป็นพิเศษ แต่รับรองว่าสวยและได้ประสบการณ์ไม่เหมือนใคร

 

บริเวณจุดชมวิว

บน: ทางเดินชมธรรมชาติของ The Habitat

ล่าง: ป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์

 

The Habitat เป็นเส้นทางเดินป่าเยี่ยมชมป่าฝนที่มีระยะทางรวม 1.6 กิโลเมตร มีทั้งแบบเส้นทางเดินชมธรรมชาติ 230 เมตร และทางเดินบนยอดรวม 800 เมตร แนะนำให้มาตอนเย็นย่ำใกล้พระอาทิตย์ตก เพราะจะมีโปรแกรม Sunset Walk ส่องสัตว์ตอนกลางคืนแถมมาด้วย คุณจะได้เห็นพระอาทิตย์หล่นผ่านยอดไม้ พร้อมทั้งสัตว์หายากหลายชนิดที่ออกหากินในเวลากลางคืน ทั้งเส้นทางยังเดินง่ายมาก ปลอดภัย มีไกด์ชี้ชวนให้ดูโน้นนี่นั่นตลอดเส้นทาง

 

Tree Top Walk ทางเดินบนยอดไม้แบบ 360 องศา

บรรยากาศด้านใน พิพิธภัณฑ์ผีเสื้อ

 

พิพิธภัณฑ์ผีเสื้อ Entopia

อดีตฟาร์มผีเสื้อที่พัฒนาเป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับผีเสื้อและแมลงอันทันสมัย ตั้งอยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติปีนัง โดมแก้วขนาดใหญ่บรรจุผีเสื้อมากกว่า 15,000 ตัว จาก 200 สายพันธุ์ ผู้ชมสามารถเดินชมสวนสวยขนาด 140,000 ตารางฟุต ที่มีผีเสื้อบินรายล้อม ระหว่างทางก็มีสัตว์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในระบบนิเวศให้ชมด้วย มาถึงที่นี่แล้ว คุณจะได้เรียนรู้วงจรผีเสื้อตั้งแต่นับหนึ่ง เห็นการฟักไข่เป็นตัวหนอน แปลงกายเป็นดักแด้และลอกคราบเป็นผีเสื้อ รวมถึงสนุกสนานกับการดูแมลงนานาชนิด และนิทรรศการแมลงแบบอินเตอร์แอ็กทีฟ (ดูคลิปบรรยากาศได้ ที่นี่)

 

Where to Go: กินอะไร

 

Chulia Street Night Hawker Stalls

 

Street Food

อาหารสตรีทฟู้ดกับปีนังเป็นของคู่กัน ยิ่งคุณพักอยู่ย่านคนจีน กลางคืนจะคับคั่งไปด้วยของกินจากฮอว์เกอร์ (Hawker) หรือร้านรถเข็น หากไม่รู้ไปไหน ปักหมุดไม่ได้ ตัดสินใจร้านไม่ถูก มุ่งมาเลยที่ถนนจูเลีย (Chulia Street) หรือเสิร์ชคำว่า ‘Chulia Street Night Hawker Stalls’ ใน Google Maps ก็ได้ บริเวณนี้มีของกินให้เลือกเป็นสิบๆ ร้าน ทั้งจานอาหารจีนอย่าง บะหมี่เกี๊ยวหมูแดง โลบะ หอยทอด ล็อกล็อก (Lok Lok) จานอาหารอินเดีย ข้าวหน้าแกงต่างๆ สารพัดอย่าง แถมยังอยู่ใกล้กับย่านผับบาร์ถนนเลิฟเลน (Lovelane) อีกด้วย

 

บน: บรรยากาศร้านช่วงสาย

ล่าง: ติ่มซำนานาชนิด

 

Tai Tong Restaurant

ร้านติ่มซำขึ้นชื่อบนถนนเลบะห์ ซินตรา (Lebuh Cintra) ที่เปิดมานานแล้วกว่า 60 ปี เปลี่ยนมือมาแล้วถึง 2 รุ่น เปิดตั้งแต่ 6.30 น. เป็นต้นไป ได้รับความนิยมมากจากคนพื้นถิ่นและนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะมื้อเช้าที่ต้องการหาอะไรรองท้องอร่อยๆ เสริมกำลังของวัน ภายในร้านมีติ่มซำให้เลือกหลายชนิดทั้งของนึ่งและของทอด ส่วนใหญ่มักคุ้นเคยกันดี เช่น ขนมจีบ ฮะเก๋า ซาลาเปา ตีนเป็ดตุ๋นน้ำแดง ซี่โครงหมูเต้าซี่ เป็นอาทิ เวลาสั่งแค่นั่งอยู่กับโต๊ะ จะมีคุณป้าเข็นรถมาให้เลือกถึงที่ ไม่จำเป็นต้องลุกไปไหน แค่ชี้ๆ เลือกๆ แล้วก็กินได้เลย อิ่มเมื่อไรก็นำบิลไปจ่ายที่เคาน์เตอร์เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ร้านนี้ก๋วยเตี๋ยวหลอดและโจ๊กเนียนอร่อยมาก ใครมาถึงที่นี่เราขอแนะนำ

 

Toh Soon Cafe

 

Toh Soon Cafe

อาหารเช้าแนวมุสลิมสไตล์คนใต้บ้านเรา แต่บริหารโดยคนจีน Toh Soon Cafe เป็นร้านกาแฟแบบโกปี๊ ที่มีจุดขายอยู่ที่ขนมปังปิ้งไข่ลวกสูตรเด็ด ที่ใครมากินต้องสั่งทุกโต๊ะ ร้านนี้ตั้งอยู่บนถนนเลบะห์ แคมป์เบล (Lebuh Campbell) เปิดตั้งแต่ 8.00 น. ปิดทุกวันอาทิตย์ นี่เป็นร้านที่คิวยาวมาก จึงไม่แนะนำให้มาช่วงหิวจัด เมนูแนะนำได้แก่ Nasi Lemak ข้าวหุงด้วยกะทิใส่ใบเตยราดด้วยซอสซัมบัล เคียงด้วยปลาร้าสไตล์มลายู ไข่ต้มถั่ว แตงกวา ขนมปังปิ้งไข่ลวก ขนมปังราดซอสคาย่าโฮมเมด และชาชัก

 

บน: ขนมปังปิ้งไข่ลวก

ล่าง: ชา กาแฟ แบบโกปี๊ เห็นแบบนี้ไม่หวานนะ

บรรยากาศหน้าร้าน Tek Sen

 

Tek Sen Restaurant

ร้านอาหารจีนคุณภาพที่เรากล้าบอกเลยว่า ‘อร่อยที่สุดในทริป’ เปิดให้บริการมานานแล้วเกือบ 50 ปี และเปลี่ยนผู้ดูแลร้านมาถึง 2 รุ่น ตั้งอยู่บนถนนเลบะห์ คาร์นาร์วอน (Lebuh Carnarvon) ห่างจากถนนจูเลียเพียง 5 นาที จะขับรถหรือเดินผ่านก็สังเกตเห็นได้ง่าย มีคนยืนรอเต็มหน้าร้านตลอดเวลา ตัวร้านมีขนาด 2 คูหา จุคนได้ประมาณ 20 โต๊ะ โต๊ะละ 5-10 ที่นั่ง เวลามากินควรเผื่อเวลารอคิวประมาณครึ่งชั่วโมง แต่อาหารมาเร็วและอร่อยมาก เมนูเด็ดควรลองได้แก่ ปลากะพงแดงนึ่งซีอิ๊ว ซี่โครงหมูผัดซอสเปรี้ยวหวาน ข้าวผัดรวม ผัดเต้าหู้ ฯลฯ

 

Tek Sen Restaurant

 

Hakuna Matata

 

Hakuna Matata

ห่างจากร้าน Tek Sen เพียง 1 นาทีเดิน แค่ข้ามถนนมายังฝั่งตรงข้ามจะพบ Hakuna Matata ร้านกาแฟเล็กๆ ที่พาคุณหลีกหนีความวุ่นวายด้านนอกได้เป็นอย่างดี ภายในตกแต่งแบบลอฟต์ โชว์ปูนเปลือยและอิฐแดง ทว่าเสริมความอบอุ่มด้วยแสงไฟ และเฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้ม โครงสร้างอาคารยังคงเก็บบ้านดั้งเดิมสไตล์เปอรานากันไว้อยู่ สังเกตได้จากลานโล่งรับน้ำฝนที่ยามนี้ถูกตกแต่งด้วยบันไดวนและกระถางต้นไม้เขียวสะอาดตา กาแฟที่นี่มีให้เลือกชิมหลากหลายเมนู ทั้งจากเครื่องชงที่นิยมคุ้นชิน เช่น เอสเพรสโซ และกาแฟดิบจากเมล็ดพันธุ์หายากทั่วโลก ใครที่ไม่อยากดื่มกาแฟถ้าอยากดื่มอะไรดับร้อน ก็มีน้ำจำพวกโซดาสูตรพิเศษของทางร้านให้เลือกเช่นกัน

 

บรรยากาศร้าน Hakuna Matata

Awesome Canteen

 

Awesome Canteen

คาเฟ่ขนาดใหญ่ที่หลบซ่อนตัวอยู่บนถนนเลบะห์ วิกตอเรีย (Lebuh Victoria) ได้อย่างแนบเนียบ ชนิดถ้าไม่ทันสังเกตก็อาจเดินผ่านไปได้ดื้อๆ ที่นี่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวหรือคนเมืองที่อยากหาที่นั่งชิลยามบ่ายในบรรยากาศดีๆ ตัวร้านยังคงใช้โครงสร้างดั้งเดิมของตึกเก่า ผนังกำแพงเปลือยผิว อวดอายุและความเก๋า ต้นไม้สูงขนาด 3-4 เมตร อวดกิ่งก้านล้อแดดให้ดูอยู่ตามจุดต่างๆ ให้อารมณ์ความรู้สึกเหมือนนั่งเอื่อยอยู่กับธรรมชาติ นอกจากกาแฟที่นิยมสั่ง อาหารแนวพาลีโอ (Paleo) ก็ยังเป็นที่นิยมเช่นกัน ทั้งสลัด เบอร์เกอร์ สเต๊ก ฯลฯ (พาลีโอคือการเน้นรับประทานโปรตีนในปริมาณมาก เน้นทานผักผลไม้ ไขมันดีจากเมล็ดพืชและเนื้อสัตว์ที่เลี้ยงด้วยวิธีธรรมชาติให้มากที่สุด)

 

บรรยากาศภายในร้าน Awesome Canteen

 

ลอดช่องชื่อดัง Teochew Chendul

 

Teochew Chendul ลอดช่องในตำนาน

ร้านลอดช่องแบบฮอว์เกอร์หรือร้านริมทางที่ขายดีชนิดมีพนักงานถึง 5 คน ประจำตำแหน่งหน้าเคาน์เตอร์ คนหนึ่งตัก คนหนึ่งปั่นน้ำแข็ง คนหนึ่งแพ็ก คนหนึ่งเช็ด คนหนึ่งเก็บตัง ปัจจุบันแม้เปิดสาขาแฟรนไชส์ไปหลายจุดทั่วปีนัง แต่สาขาแรกก็ยังได้รับความนิยมอยู่ เมนูที่ขายมีเมนูเดียวคือ ลอดช่องทรงเครื่อง (เราขอเรียกว่าแบบนั้น) เป็นลอดช่องเส้นสีเขียวเรียวเล็ก เสิร์ฟพร้อมถั่วแดง น้ำแข็งบด และน้ำกะทิสูตรพิเศษ หวานหอมเย็นชื่นใจมาก เปิดทุกวัน 10.30-19.00 น. หรือจนกว่าของจะหมด

 

Where to Shop: ซื้ออะไรเป็นของฝาก

จริงๆ ของฝากปีนังกับบ้านเราดูไม่ค่อยแตกต่างเท่าไร ส่วนใหญ่เป็นจำพวกพืชพันธุ์ธัญญาหารอบแห้ง แต่หากใครมีเวลาแวะก่อนขึ้นเครื่อง เราแนะนำให้คุณแวะร้านนี้

 

Ming Xiang Tai

 

Ming Xiang Tai Confectionaries & Drink Sdn. Bhd.

ร้านขนมอบที่ตกทอดสูตรจากรุ่นสู่รุ่น เปิดให้บริการมาแล้วตั้งแต่ ค.ศ. 1975 เริ่มจากแผงเล็กๆ บนรถจักรยาน ก่อนขยายกิจการสู่ร้านถาวรได้ในที่สุด ขนมขึ้นชื่อเป็นพวกทาร์ตไข่ และเต้าส้อรสต่างๆ มีทั้งไส้ของคาวอย่างหมูแดง ไก่อบซอส ไปจนถึงไส้หวานที่นิยมทำขึ้นจากเมล็ดพืช ซื้อขนมแล้วอย่าลืมซื้อน้ำสมุนไพร เพราะไม่ใช่แค่เพียงต้มธรรมดาที่เราคุ้นกันในไทย แต่น้ำสูตรเฉพาะทางร้านที่ผ่านการต้มเคี่ยวด้วยสมุนไพรหลายชนิด วันนั้นลองอุดหนุนรสพื้นฐาน น้ำผึ้งผสมมะนาวไปหนึ่งขวด อร่อยมาก คลายร้อน ชุ่มคอดีนัก mingxiangtai.com.my

 

ขนมภายในร้าน Ming Xiang Tai

 

Photo: พลอยจันทร์ สุขคง

FYI

Getting There

  • มีหลายสายการบินเปิดให้บริการบินตรงจากกรุงเทพฯ สู่ปีนัง สอบถามราคาและเช็กตารางบินได้ที่ AirAsia, Thai Airways แต่แนะนำให้จองช่วงโปรโมชันพร้อมกับที่พักเพราะราคาจะถูกกว่ากันมาก

 

Tips:

  • ตั๋วรถเมล์ปีนังราคาถูก นั่งสบาย และวิ่งตรงเวลา แต่ถ้าแค่เที่ยวในเมืองปีนัง ใช้จักรยานหรือเดินเอาก็ได้ ถือเป็นการเดินทางที่สะดวกดี ซึ่งจักรยานส่วนใหญ่มีให้บริการฟรีจากที่พัก
  • หากเดินทางเป็นหมู่คณะราวๆ 3-4 คน (เหมาะสำหรับคันเล็ก) หรือ 5-6 ท่าน (เหมาะสำหรับคันใหญ่) แนะนำให้เรียก GrabCar เนื่องจากราคาถูกพอๆ กับบ้านเรา โดยหารเงินกันเหลือคนละไม่กี่สิบ ก็สามารถประหยัดเวลาได้มากกว่า 2 เท่าตัว
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X