×

เครือข่ายสันติศึกษาฯ เรียกร้องให้รัฐบาลไทยและกัมพูชาเคารพข้อตกลงหยุดยิง ใช้แนวทางสันติวิธีในการแก้ปัญหาความขัดแย้งชายแดน

โดย THE STANDARD TEAM
29.07.2025
  • LOADING...

วันนี้ (29 กรกฎาคม) เครือข่ายสถาบันวิชาการสันติศึกษา องค์กรด้านสันติภาพและสิทธิมนุษยชน ต่อกรณีปัญหาความขัดแย้งและเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ออกแถลงการณ์ ขอรัฐบาลทั้งสองเคารพข้อตกลงหยุดยิง เพื่อใช้แนวทางสันติวิธีในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง เรียกร้องให้มีตัวกลางทางการทูตเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างโปร่งใสและไม่เลือกข้าง

 

วอนประชาชนทั้งสองประเทศหยุดการประณามเหมารวมและสื่อสารความเกลียดชังต่อกัน และฝากความหวังให้สื่อยึดหลักความรับผิดชอบทางวิชาชีพ ไม่ส่งต่อข่าวลวงและการโฆษณาชวนเชื่อ เพื่อเป็นพื้นที่การสื่อสารที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์

 

จากการประชุมร่วมไทย-กัมพูชา ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ที่ทั้งสองฝ่ายได้มีความเห็นพ้องให้มีการหยุดยิงทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข เครือข่ายสถาบันวิชาการสันติศึกษา องค์กรด้านสันติภาพและสิทธิมนุษยชน ขอให้สนับสนุนความพยายามของทั้งสองประเทศที่ได้ใช้แนวทางสันติวิธีในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งรุนแรงที่เกิดขึ้นตลอดห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และเพื่อให้กระบวนการสร้างสันติภาพมีความยั่งยืน สถาบันและองค์กรในเครือข่ายจึงขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลทั้งสองฝ่ายและผู้เกี่ยวข้อง ดังนี้

 

1. ขอให้รัฐบาลทั้งสองฝ่ายเคารพในข้อตกลงหยุดยิงที่ได้ทำกันไว้ ยุติการปะทะด้วยกำลังอาวุธ และใช้การเจรจาทางการทูตเป็นแนวทางการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน

 

การมี ฝ่ายที่สาม หรือ ความร่วมมือแบบพหุภาคี ไม่ว่าจะเป็นตัวกลางทางการทูต หรือผู้สังเกตการณ์ซึ่งเป็นที่ยอมรับร่วมกัน จะเป็นกลไกที่ช่วยให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจและตรวจสอบได้ในกระบวนการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นธรรม โปร่งใส และไม่เลือกข้าง เพื่อเปิดทางออกสู่การแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยการไม่ใช้ความรุนแรงและแปรเปลี่ยนความขัดแย้งด้วยการประสานผลประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย

 

2. ขอให้รัฐบาลทั้งสองฝ่ายพึงรักษาความไว้วางใจซึ่งกันและกัน และสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดแก่ทุกฝ่าย ทั้งคู่เจรจาและประชาชน ข้อตกลงในการหยุดยิงทันที จะต้อง พิสูจน์ให้เห็นได้ จากการปฏิบัติจริงตามกระบวนการที่ยอมรับร่วมกัน และมีกระบวนการติดตามตรวจสอบผลการปฏิบัติที่เป็นจริง

 

3. เปิดพื้นที่การสื่อสารและสานความสัมพันธ์ของประชาชนทั้งสองประเทศ

 

ความสัมพันธ์ไทย–กัมพูชาไม่ควรถูกลดทอนด้วยความขัดแย้งเฉพาะหน้า ความขัดแย้งทางการเมืองไม่ควรทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ ดังนั้น การเปิดพื้นที่การสื่อสารระหว่างประชาชน ทั้งผ่านสื่อ การศึกษา วัฒนธรรม และความร่วมมือภาคพลเมือง จะช่วยสกัดกั้นการแพร่กระจายของข้อมูลที่บิดเบือน เหมารวมและปลูกฝังความเกลียดชัง

 

ในฐานะเพื่อนบ้าน ประชาชนของทั้งสองประเทศมีประวัติศาสตร์ ความผูกพัน ความใกล้ชิด และความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมที่แน่นแฟ้น การมองกันในฐานะศัตรูจะบั่นทอนศักยภาพของความร่วมมือกันในอนาคต

 

4. ชดเชยเยียวยาผู้สูญเสียและผู้ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงอย่างเหมาะสมและโดยเร็ว ดำเนินการชดเชยเยียวยาผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับผลกระทบจากความรุนแรง รวมถึงการฟื้นฟูผลกระทบทางด้านจิตใจ ด้านเศรษฐกิจและด้านสังคม โดยมีกระบวนการที่โปร่งใสและครอบคลุม

 

5. ขอเรียกร้องให้สื่อนำเสนอข้อมูลข่าวสารด้วยความรับผิดชอบ ยึดหลักความถูกต้อง รอบด้าน และ เป็นธรรม เปิดพื้นที่การสื่อสารที่ปลอดภัยสื่อพึงระมัดระวังการใช้ถ้อยคำที่เป็นการยั่วยุ เร้าอารมณ์หรือมีอคติ และขอให้สังคมใช้วุฒิภาวะในการรับฟังข้อมูลข่าวสารอย่างรอบด้าน ตระหนักและรู้เท่าทันข่าวสารและความคิดเห็นที่แฝงอคติหรือยั่วยุให้เกิดความเกลียดชัง เปิดพื้นที่การสื่อสารที่ปลอดภัยด้วยข้อมูล ข้อเท็จจริง เพื่อร่วมกันแสวงหาทางออกจากความขัดแย้งด้วยวิถีทางแห่งสันติภาพ

 

ความขัดแย้งทำให้ผู้คนเชื่อว่า ไม่มีทางเลือกอื่นในการตอบโต้ความรุนแรงนอกจากการใช้ความรุนแรง แต่ประชาชนทั้งสองประเทศมีทางเลือกเสมอที่จะฝันถึงอนาคตที่จะอยู่อย่างเกื้อกูลกัน และสร้างความสมานฉันท์ได้

 

แน่นอนว่ากระบวนการสันติภาพนั้นอาจไม่ได้เป็นเส้นตรง แต่เราก็คาดหวังว่ารัฐบาลของทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันประคับประคองกระบวนการสันติภาพนี้ให้บรรลุผล และขอยืนยันอีกครั้งว่า สันติภาพมิใช่เป็นเพียงเป้าหมายเท่านั้น หากแต่เป็นกระบวนการที่ต้องร่วมกันลงมือทำด้วยตั้งแต่วันนี้

 

เครือข่ายสถาบันวิชาการสันติศึกษา องค์กรด้านสันติภาพและสิทธิมนุษยชน ประกอบด้วย

 

  1. สถาบันสันติศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
  2. สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล
  3. ศูนย์ข่าวสารสันติภาพ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  4. ศูนย์ศึกษาและพัฒนาการสื่อสารสันติภาพ คณะวิทยาการสื่อสาร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
  5. ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  6. ศูนย์มุสลิมศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  7. เครือข่ายเพื่อนรักต่างศาสนาเพื่อสันติภาพ มหาวิทยาลัยมหิดล
  8. มูลนิธิความร่วมมือทรัพยากรสันติภาพ (PRC)
  9. สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) 10.สถาบันสื่อเด็กและเยาวชน (สสย.)
  10. มูลนิธิสันติภาพและวัฒนธรรม
  11. มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (มสพ.)
  12. สมาคมเพื่อสันติภาพและการพัฒนา
  13. มูลนิธิวัฒนธรรมเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย
  14. มูลนิธิการศึกษาเพื่อสร้างพลเมืองไทย (Thai Civic Education)
  15. เครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ
  16. มูลนิธิสถาบันการจัดการวิถีพุทธเพื่อสุขและสันติ
  17. เสมสิกขาลัย (Spirit in Education Movement: SEM)
  18. สภาประชาสังคมชายแดนใต้
  19. สมาคมประชาสังคมนราธิวาส
  20. สมาคมร่วมสร้างชุมชนศรัทธา กัมปงตักวา
  21. วิทยาลัยประชาชน
  22. สมาคมเพื่อสันติภาพภาคประชาชน
  23. สมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้
  24. กลุ่มด้วยใจ
  25. ผศ.ดร.อัมพร หมาดเด็น คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  26. วิลาสินี โสภาพล นักวิจัย Centre of Excellence for the Elimination of Violence against Women (CEVAW), Griffith University, Australia
  27. ไฟโรส อยู่เป็นสุข ประธานมูลนิธิโรงเรียนศาสนูปถัมภ์
  28. หลักสูตรนักธุรกิจไทย-ตะวันออกกลาง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  29. สถาบันพัฒนาธุรกิจการค้าแห่งมหาวิทยาลัยเกริก
  30. สมาคมเครือข่ายที่ปรึกษาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
  31. มูลนิธิเพื่อเอสเอ็มอีไทย
  32. บริษัท เอฟวายพีกรุ๊ปเซอร์วิส จำกัด
  33. บริษัท เดเสร์ทฮอริซอน จำกัด
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising