วันนี้ (12 พฤศจิกายน) ภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส. จังหวัดเชียงใหม่ และรองโฆษกพรรคประชาชน กล่าวถึงการเตรียมการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ของรัฐบาลว่า แม้ขณะนี้สถานการณ์ฝุ่นในหลายพื้นที่ยังไม่รุนแรง แต่เริ่มเห็นแนวโน้มว่าปัญหากำลังกลับมา อย่างไรก็ตาม การเตรียมการหรือมาตรการที่ชัดเจนจากรัฐบาลยังคงเป็นเครื่องหมายคำถาม ทำให้กังวลว่าท้ายที่สุดประชาชนต้องเจอสถานการณ์ฝุ่นแบบวนลูปเหมือนปีที่ผ่านๆ มาอีกหรือไม่
ภัทรพงษ์กล่าวว่า เคยเสนอโมเดล ‘ตึก 5 ชั้น’ ในการอภิปรายนโยบายรัฐบาลตั้งแต่สมัยอดีตนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน พร้อมข้อเสนอแนะ Action Plan ตามช่วงเวลาอย่างชัดเจนในการเตรียมพร้อมรับมือเพื่อแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่ต้นตอ แบ่งเป็น 5 ด้าน
- ด้านสาธารณสุข รัฐต้องจัดให้มีสวัสดิการตรวจมะเร็งปอดและโรคทางเดินหายใจแบบถ้วนหน้าให้ประชาชนในพื้นที่ที่เจอวิกฤตฝุ่นควันมาอย่างต่อเนื่อง
- การจัดการการเผาทางการเกษตรทั้งในและนอกประเทศ โดยเฉพาะการออกประกาศห้ามนำเข้าสินค้าที่มีที่มาจากการเผาทุกชนิด
- การบริหารจัดการไฟป่า วางแผนเฉพาะเจาะจงกับพื้นที่ไฟป่าขนาดใหญ่และไฟป่าซ้ำซากเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนเจ้าหน้าที่และงบประมาณ
- การจัดเก็บข้อมูลที่สามารถนำไปวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์และแจ้งเตือนค่า PM2.5 ให้กับประชาชน
และ 5. การกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นเป็นผู้นำในการบริหารจัดการพื้นที่
ทั้งที่ปัญหาฝุ่นกระทบคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างรุนแรง แต่ผ่านไปกว่า 1 ปีของรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย เราได้เห็นความคืบหน้าในเรื่องเหล่านี้น้อยมาก โดยขอตั้งคำถามต่อว่า รัฐบาลมีมาตรการส่งเสริมเกษตรกรชาวสวน ไร่นา ไร่อ้อย ไร่ข้าวโพด อย่างไรบ้าง เพื่อให้ปรับตัวเข้ากับมาตรการไม่รับซื้อสินค้าเผาที่รัฐบาลประกาศไว้
นอกจากนี้ รัฐบาลมองว่าจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีด้านไฟป่าอย่างเพียงพอหรือไม่ เตรียมแผนการจัดสรรงบกลางป้องกันและจัดการไฟป่าอย่างไรบ้าง และ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมประชุมระหว่างประเทศบ่อยครั้ง เป็นเรื่องดีหากใช้เป็นโอกาสทำเพื่อผลประโยชน์ของคนไทย จึงอยากทราบว่านายกรัฐมนตรีได้ใช้เวทีระหว่างประเทศหารือกับเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาว และเมียนมา เพื่อร่วมแก้ปัญหาฝุ่นบ้างหรือไม่ โดยเฉพาะเวที ASEAN Summit ที่ผ่านมา