การกลับมาคว้าเหรียญทองว่ายน้ำผลัดฟรีสไตล์ 200 ม. หญิง ของทีมว่ายน้ำไทย ถือเป็นความสำเร็จอีกหนึ่งอีเวนต์ที่น่าประทับใจมากๆ เพราะนอกจากกลับมาคว้าแชมป์ได้ครั้งแรกในรอบ 18 ปีแล้ว
ขุมกำลังชุดนี้ 4 สาวไม่มีใครอายุ 20 ปีเลยสักคน จิณห์จุฑา ผลแจ่มจำรัส (20 ปี), มาเรีย เนดเดลกา (17 ปี), กมนชนก ขวัญเมือง (20 ปี) และ นภัสวรรณ จริตกล้า (20 ปี) และนี่คือสัญญาณที่ดีของทีมว่ายน้ำไทย ถ้าต่อยอดดีๆ เชื่อว่าจะมีโอกาสประสบความสำเร็จเพิ่มมากขึ้นได้ในอนาคต
แล้วเหตุการณ์เมื่อวานนี้เกิดอะไรขึ้นบ้างในแต่ละผลัด เราพาไปย้อนเรื่องราวและค้นหาเบื้องหลังความสำเร็จครั้งนี้จากนักกีฬาไทยกัน
เปิดผลัดแรกของไทย ได้แก่ จิณห์จุฑา ผลแจ่มจำรัส นักว่ายน้ำที่อยู่ในชุดคว้าเหรียญเงินอีเวนต์นี้ 2 ครั้งหลังสุด ต้องขับเคี่ยวกับ Gan Ching Hwee เจ้าของเหรียญทองฟรีสไตล์ 200 เมตร
เมื่อรู้ดีว่าความเร็วนั้นเป็นรอง จิณห์จุฑา จึงเลือกใช้ประสบการณ์ว่ายประคองเกาะกลุ่มผู้นำจนเข้ามาเป็นติด 1 ใน 3 หลังจบผลัดแรก
“กดดันนิดนึงค่ะ ตอนอยู่ในห้องเตรียมตัวเห็นทุกคนเครียด แต่ก็พยายามช่วยกัน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราเต็มที่แล้ว เพื่อให้ผลงานออกมาดีที่สุด” จิณห์จุฑา เปิดใจกับ THE STANDARD SPORT
ช่องว่างประมาณ 2 ช่วงตัวถือว่าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่จะเป็นไปไม่ได้ มาเรีย เนดเดลกา ดาวรุ่งวัย 17 ปี กับซีเกมส์ ครั้งที่ 2 เจ้าของเหรียญทองแดงฟรีสไตล์ 200 ม. ลงว่ายเป็นผลัดที่ 2 ของไทย
โดยเธอใช้เทคนิคการว่ายที่ถนัดในระยะนี้ จนช่วยลดช่องว่างจากตามหลัง 2 ช่วงตัว มากลับตัวพร้อมผู้นำอย่างสิงคโปร์ในช่วง 50 เมตรสุดท้าย และเปลี่ยนผลัดได้พร้อมกัน
นาเดล เนเดลก้า ให้สัมภาษณ์ด้วยรอยยิ้มว่า “หนูดีใจจนพูดไม่ออกเลย โคตรภูมิใจเลย ก่อนลงแข่งพวกหนูไม่ใช่ตัวเต็งด้วยซ้ำ แต่วันนี้ทุกคนทำได้ดีมาก ทุกคนสุดยอด ทำเต็มที่กันมากๆ”
มาถึงผลัดที่ 3 สถานการณ์เข้มข้นสุดๆ ผู้นำยังคงเป็นสิงคโปร์ ตามด้วยไทย และฟิลิปปินส์ ที่ผลัดนี้ส่ง Kayla Sanchez ดีกรีเหรียญเงินโอลิมปิกลงมาสู้
กมนชนก ขวัญเมือง เงือกสาววัย 20 ปี ที่คว้าไปแล้ว 2 เหรียญทอง พลิกแซงได้ตั้งแต่กระโดดลงสระ ทำให้ไทยเบียดขึ้นมาเป็นผู้นำอยู่เล็กน้อย เธอพยายามดึงสโตรกยาวๆ เพื่อรักษาช่องว่าง 150 เมตรแรก ก่อนจะมาเร่งสโตรกและฉีกผู้ตามอย่าง สิงคโปร์ แชมป์เก่า 8 สมัย ช่วง 50 เมตรสุดท้ายไป 1 ช่วงตัว
กมนชนก กล่าวว่า “วันนี้พวกเราร่วมแรงร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อที่จะคว้าเหรียญนี้ให้ได้ พูดตรงๆ ตอนเห็นรายชื่อคู่แข่ง เราคุยกันแล้วว่าขอแค่ได้ยืนบนโพเดียมก็พอ ไม่ว่าจะได้เหรียญสีอะไรก็ความสุขมากๆ”
นภัสวรรณ จริตกล้า เป็นนักว่ายน้ำที่ถนัดในท่าผีเสื้อ แต่รับหน้าที่ผลัดสุดท้าย ด้วยช่องว่างที่นำหนึ่งช่วงตัวที่เพื่อนๆ ทำไว้ให้
เธอว่ายลงพร้อมแบกรับความกดดันไว้บนไหล่ ไม่ว่าแขนจะหนักสักเท่าไหร่ แต่ตลอดระยะ 200 ม. ต้องยอมรับว่าเธอใช้ความมุ่งมั่น ใช้หัวใจ ว่ายแบบไม่มีแผ่ว รักษาความเร็วจนแตะขอบสระได้เป็นทีมแรก คว้าเหรียญทองอีเวนต์นี้ให้กับว่ายน้ำไทยครั้งแรกในรอบ 18 ปี โดยหนสุดท้ายที่ทำได้ก็คือปี 2007 ที่ประเทศเป็นเจ้าภาพเช่นกัน
“ทุกคนฟอร์มดีหมด เพื่อนทั้ง 3 คนเปิดมาดีทั้งหมด ทำให้หนูมั่นใจมากขึ้น เห็นข้างๆ มีคู่แข่งไล่มา แต่ไม่ยอมให้แซงค่ะ ใส่เต็มที่เลย ก็ดีใจมาก ไม่คิดว่าวันนี้เราจะทำได้” นภัสวรรณ ให้เครดิตความสำเร็จครั้งนี้กับเพื่อนร่วมทีม
เบื้องหลังความสำเร็จอันน่าประทับใจครั้งนี้ กมนชนก ขวัญเมือง ได้บอกกับเราว่าเกิดขึ้นได้เพราะทีมเวิร์คและความมุ่งมั่นของทุกคนที่มีเป้าหมายเดียว
“ปัจจัยสำคัญเลยคือมายด์เซตค่ะ เพราะทั้ง 4 คน มีมายด์เซตตรงกัน ทุกคนอยากชนะ อยากเป็นที่ 1 มีแพสชั่นตรงกันก็เลยทำให้ผลงานออกมาดีวันนี้”
“มีความสุขมากๆ ครั้งแรกในรอบ 18 ปี ตอนที่ร้องเพลงชาติไทย ทุกคนก็มีน้ำตารื้นออกมา เหรียญนี้เซอร์ไพรส์สำหรับพวกหนูทุกคนด้วย”
เชื่อเหลือเกินว่าความสำเร็จครั้งนี้ไม่เพียงแต่สร้างเซอร์ไพรส์ แต่ยังสร้างความประทับใจให้กับคนไทยทุกคน โดยเฉพาะ อุ้ม-ณัชฐานันตร์ จันทร์กระจ่าง ตำนานนักว่ายน้ำทีมชาติไทย ที่ฝากผลงานไว้ 15 เหรียญทองซีเกมส์ เมื่อวานนี้ก็ได้เข้าไปให้กำลังใจน้องๆ ที่สนามแข่งขัน ซึ่งอุ้ม-ณัชฐานันตร์คือนักกีฬาชุดที่คว้าเหรียญทองผลัดฟรีสไตล์ 200 ม. ครั้งล่าสุดของไทยเมื่อ 18 ปีที่แล้ว
เรามีโอกาสได้คุยกันสั้นๆ ซึ่งเธอประทับใจผลงานของนักกีฬาชุดนี้มากๆ และยังเชื่อว่าจากความสำเร็จครั้งนี้ อนาคตทีมว่ายน้ำไทยมีโอกาสกลับมาทวงคืนความสำเร็จในหลายอีเวนต์เช่นกัน
“ทุกคนช่วยกันได้ดีมากๆ เข้มแข็ง ใจแข็ง ใจสู้ ดูแล้วทุกคนพยายามสร้างทีมให้ทีมแข็งแรงขึ้น”
“หลังจากเว้นวรรคไปช่วงหนึ่ง ที่น้องๆ หายไปพักหนึ่ง (ไม่มีดาวรุ่งขึ้นมา) จนมาถึงน้องๆ รุ่นนี้ที่ก้าวขึ้นมาทำได้ดี ก็รู้สึกดีใจเรากลับมาทำได้ดีอีกครั้ง หลังจากนี้ก็น่าจะค่อยๆ ขยับขึ้นมา ในอนาคตเราอาจจะกลับมาทวงคืนเจ้าสระได้”
เงือกอุ้มได้ฝากข้อคิดถึงน้องๆ ด้วยว่า “การจะได้รับชัยชนะหรือการจะรักษาไว้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะฉะนั้นอยากให้น้องๆ สู้และต้องอดทน การจะขึ้นมาเป็นมาอยู่ระดับแนวหน้า มันต้องพยายามมากขึ้นเรื่อยๆ ต้องอดทนและเจ็บปวดมากขึ้น อยากให้ทุกคนกัดฟันสู้ต่อไปให้ได้ และเป็นอนาคตของว่ายน้ำไทยต่อไป”


