วันนี้ (19 สิงหาคม) ที่อาคารรัฐสภา สัญญา นิลสุพรรณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดนครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย พ.ต.ท. ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส. จังหวัดจันทบุรี พรรคพลังประชารัฐ และ จิตภัสร์ กฤดากร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวถึงการที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ ซึ่งได้เชิญ พล.ต.ท. ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) มาชี้แจงต่อ กมธ.การตำรวจ ในประเด็นภาพรวมการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการควบคุมฝูงชนและสลายการชุมนุมสาธารณะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.)
จิตภัสร์กล่าวว่า พล.ต.ท. ภัคพงศ์ได้ยืนยันกับทาง กมธ.การตำรวจว่า ในส่วนของตำรวจได้ปฏิบัติตามแผนโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติเพื่อรักษาความสงบในการควบคุมสถานการณ์ และสำหรับการดำเนินการเพื่อควบคุมสถานการณ์ชุมนุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจในปัจจุบัน แม้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 จะไม่ได้นำมาบังคับใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงยึดหลักขั้นตอนการดำเนินการตามแผนการดูแลการชุมนุมสาธารณะ ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558
ขณะเดียวกันในการเข้าดำเนินการควบคุมของเจ้าหน้าที่ทุกครั้ง ผบช.น. ได้กล่าวชี้แจงว่าตำรวจจะต้องมีเหตุผลและความจำเป็นในการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและของทางราชการ
นอกจากนี้ยังได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชน (คฝ.) ไม่ให้เข้าไปติดตามผู้ก่อการที่ทำให้เกิดความวุ่นวายและหลบหนีเข้าไปในที่พักอาศัยของประชาชน และเกือบทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้นั้นส่วนมากจะพบหลักฐานอาวุธในที่เกิดเหตุด้วย
ทั้งนี้ ในส่วนของการรักษาความปลอดภัยให้กับพี่น้องสื่อมวลชนนั้นทาง กมธ.การตำรวจ ได้รับเรื่องร้องเรียนเข้ามา 2-3 รายแล้ว ซึ่งประเด็นดังกล่าวทาง ผบช.น. ได้กล่าวชี้แจงว่าก่อนเข้าพื้นที่ได้จัดให้สื่อมวลชนลงทะเบียนและรับปลอกแขน
ด้าน สัญญา นิลสุพรรณ กล่าวยอมรับว่าพอใจกับการชี้แจงของเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันนี้ เพราะได้มีการนำพยานหลักฐานมายืนยันต่อ กมธ.การตำรวจ ชัดเจน และการปฏิบัติกับผู้ชุมนุมยังอยู่ภายใต้หลักสากล โดยยืนยันว่าการเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจและการตรวจสอบของ กมธ.การตำรวจ วันนี้ไม่ได้เป็นการฟังความข้างเดียวหรือเป็นมวยล้มต้มคนดู และในฝั่งของผู้ชุมนุมยังไม่มีผู้เข้ามาร้องเรียน ทั้งนี้ หากมีข้อมูลหรือหลักฐานที่แสดงว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กำลังเกินกว่าเหตุสามารถส่งมาให้กับ กมธ.การตำรวจ และยินดีที่จะตรวจสอบต่อไป