วันนี้ (11 กันยายน) ที่ประชุมร่วมกันของสมาชิกรัฐสภา ครั้งที่ 5 (สมัยสามัญประจำปี ครั้งที่ 1) เป็นพิเศษ ในการแถลงนโยบายของรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมีสมาชิกรัฐสภาเข้าร่วมประชุมทั้งหมด 746 คน แบ่งเป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว.) และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.)
วันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวอภิปรายว่า ตนเองอยู่ในเหตุการณ์การโหวตนายกรัฐมนตรีทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา การเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ เศรษฐา ทวีสิน ในครั้งนี้ถือว่าไม่ใช่เรื่องธรรมดา เป็นความบรรจงลงตัว เป็นฉันทมติของสมาชิกรัฐสภา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยดลบันดาลประทานให้มาเป็น เพื่อเข้ามาแก้ความทุกข์เข็ญให้กับประชาชน ตนเองไม่ใช่คนงมงาย ขนาดดาวมฤตยูที่ทับดวงเมืองมา 7 ปียังต้องย้าย ราหูยังต้องไป จึงมีคำกล่าวที่ว่า “นายกฯ เศรษฐามา ราหูไป” ความศิวิไลซ์จะบังเกิด และสิ่งที่ไม่เคยเห็นจะได้เห็น สิ่งที่ไม่เคยเป็นจะได้เป็น และรัฐบาลชุดนี้คือความหวังของประเทศที่ประชาชนรออยู่
วันชัยกล่าวอภิปรายต่อไปว่า นายกรัฐมนตรีได้มีการแถลงนโยบายบางช่วงบางตอนถึงนโยบายทางด้านการเมืองและการปกครองที่ยังมีความเห็นต่างและความแตกแยกทางความคิด โดยเฉพาะเรื่องรัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐบาลมุ่งมั่นที่จะสร้างความสามัคคีปรองดองให้ได้ ตนเองสนับสนุนนโยบายนี้อย่างเต็มที่ และขอให้สำเร็จตามที่มีการแถลงไว้ เนื่องจากหลายรัฐบาลที่ผ่านมาก็ความมุ่งมั่นที่จะดำเนินการ แต่ยังไม่สำเร็จ มีการทะเลาะยาวนานมากกว่า 20 ปี มีผู้เสียชีวิตกว่าร้อยชีวิต บาดเจ็บอีกหลายพันคน อีกทั้งยังถูกดำเนินคดีอีกมาก สร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจเป็นเงินกว่า 2 ล้านล้านบาท และยังสร้างความเสียหายทางจิตใจที่ไม่สามารถประเมินค่าได้ ซึ่งล้วนมาจากการเมืองทั้งสิ้น
วันชัยกล่าวต่อว่า วันนี้รัฐบาลได้มีการสลายขั้ว สลายความขัดแย้ง เข้ามาเป็นรัฐบาลร่วมกัน สร้างความสามัคคีปรองดองที่เป็นรูปธรรมในรอบ 20 ปี เมื่อนักการเมือง รัฐมนตรีสามารถปรองดองกันได้แล้ว ขออย่าให้หยุดแค่นี้ ขอให้ช่วยลบล้าง สลายบาดแผลที่มีความร้าวลึกทุกกลุ่มทุกฝ่าย ให้หันหน้ามาสามัคคีปรองดองเหมือนพรรคร่วมรัฐบาลในขณะนี้ ด้วยคดีความที่มีต่อกันซึ่งมีสาเหตุมาจากความขัดแย้งทางการเมือง หากเลือกได้ขอให้เลิก แค่มีรัฐบาลที่สลายขั้วจากทุกภาคทุกสี ประชาชนก็เริ่มรู้สึกว่าประเทศชาติเรามีความรักและความสามัคคีแล้ว
ขณะเดียวกัน วันชัยยังกล่าวอธิบายถึงนโยบายทางด้านการศึกษา นอกจากรัฐบาลจะให้ความสำคัญกับครูทั่วประเทศแล้ว อยากให้รัฐบาลเห็นความสำคัญของอาจารย์ในมหาวิทยาลัยด้วย พร้อมยกตัวอย่างว่า ในหลายมหาวิทยาลัยมีการแบ่งฝ่าย ก่อเกิดการเมืองในสถาบันการศึกษาที่หมักหมมเป็นระยะเวลานาน จึงขอ ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เข้าไปดูแลตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย
“ผมอยากให้รัฐบาลนี้อยู่ครบเทอม เพราะท่านเป็นความหวังของประชาชน อย่าให้ประชาชนผิดหวัง รัฐบาลที่ผ่านมาไปไม่รอด ส่วนใหญ่มาจาก 1. พรรคร่วมรัฐบาลทะเลาะกันเอง 2. มีการโกงกิน มีการทุจริตคอร์รัปชัน และ 3. ไม่มีผลงาน ประชาชนไม่ยอมรับ ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นกับรัฐบาลเศรษฐา ผมจะติดตามและคอยดู” วันชัยกล่าวทิ้งท้าย