วันนี้ (5 กันยายน) ตั้งแต่เวลา 09.40 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 20 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง เป็นพิเศษ แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส. อุบลราชธานี พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นเสนอญัตติ ขอให้นำเรื่องพิจารณาเห็นชอบบุคคลที่สมควรจะได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ในลำดับที่ 8 ของระเบียบวาระ เลื่อนขึ้นมาพิจารณาก่อน
แต่ วัชระพล ขาวขำ สส. อุดรธานี พรรคเพื่อไทย เห็นแย้งว่า ระเบียบวาระเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นวาระที่สำคัญมาก จึงต้องมีเวลาให้ สส.ตัดสินใจ ขณะที่การบรรจุระเบียบวาระโดยปกติหากเป็นเรื่องสำคัญจะต้องใช้เวลา 3 วัน และยังมีเรื่องสำคัญที่จะต้องพิจารณาอีก จึงไม่เห็นด้วย ขอให้พิจารณาวาระตามปกติ
ต่อมา จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส. เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ก่อนจะลงมติควรเปิดให้มีการอภิปรายตามประเพณีปฏิบัติของสภาฯ ซึ่งจุลพันธ์ได้กล่าวถึงสมาชิกพรรคเพื่อไทยว่า “ฝ่ายค้าน” ก่อนจะหยุดพูดและหัวเราะ ทำให้ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า “อย่าเพิ่งๆ” ก่อนที่จุลพันธ์จะแก้ไขว่า “ฝั่งนี้มีความพร้อมจะอภิปรายตามญัตติของท่านวัชระพล”
จากนั้นวันมูหะมัดนอร์จึงเปิดโอกาสให้สมาชิกอภิปราย แต่ สส. พรรคภูมิใจไทย แย้งว่า ผู้อภิปรายมีมากเกินไป คือจำนวน 9 คน ทำให้จุลพันธ์กล่าวขึ้นอีกว่า ท่านไม่ต้องกลัว การลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีอยู่ในระเบียบวาระอยู่แล้ว อย่างไรวันนี้ก็ต้องเดินไปถึง
“ถ้ามีเสียงครบ ท่านได้เป็นแน่นอน ใครมีบุญญาวาสนาถึง ท่านได้เป็น ไม่ต้องห่วง แต่อย่าเริ่มความอยากเป็นรัฐบาลด้วยการปิดปาก” จุลพันธ์กล่าว
ภราดร ปริศนานันทกุล สส. อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย หารือว่า ไม่ขัดข้อง หากจะให้มีการอภิปรายตามที่มีการลงชื่อไว้ แต่ขอหารือว่าต้องไม่รับลงชื่อผู้อภิปรายเพิ่มแล้ว ซึ่ง 9 ท่านนี้ จะใช้เวลาประมาณ 35 นาที และเดินหน้าสู่การลงมติ วันมูหะมัดนอร์จึงวินิจฉัยว่า ให้ผู้เสนอญัตติแต่ละฝ่ายอภิปรายฝ่ายละ 5 ท่าน ใช้เวลาท่านละ 5 นาที และขออย่าให้อภิปรายเสียดสี เพื่อลดการประท้วงให้เสียเวลา