วันนี้ (17 พฤศจิกายน) ที่ทำเนียบรัฐบาล จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงจุดยืนพรรคประชาธิปัตย์ในการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 7 ฉบับว่า พรรคประชาธิปัตย์ย้ำจุดยืนชัดเจนในการรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาลและของพรรคร่วมฝ่ายค้านรวม 2 ฉบับ ซึ่งมีหลักการตรงกับจุดยืนพรรคในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) มายกร่างรัฐธรรมนูญ รวมถึงต้องไม่แตะต้องบทบัญญัติในหมวดที่ 1 และ 2 ซึ่งหมวด 1 ว่าด้วยรูปแบบของรัฐและกำหนดรูปแบบการปกครองประเทศ รูปแบบของรัฐก็คือประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว แบ่งแยกไม่ได้ ประเทศไทยปกครองในรูปแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และหมวด 2 คือว่าด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งถือว่ามีความสำคัญยิ่ง อันนี้เป็นจุดยืนที่ชัดเจนของพรรคประชาธิปัตย์
ส่วนร่างของภาคประชาชน โดยกลุ่ม iLaw จะต้องรอให้มีการนำเสนอร่างนี้ต่อที่ประชุมรัฐสภา โดยเราขอฟังเหตุผลและการตอบข้อซักถามของสมาชิกรัฐสภาและการชี้แจงของกลุ่ม iLaw แล้วเราจะนำมาประกอบการพิจารณาอีกครั้งว่าเป็นอย่างไร
เมื่อถามว่าแรงกดดันจากกลุ่มผู้ชุมนุมของทั้งสองฝ่ายที่อยู่นอกรัฐสภาจะมีผลต่อการลงมติรัฐธรรมนูญหรือไม่
จุรินทร์กล่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์ต้องพิจารณาไปตามเนื้อผ้า เพราะต้องคำนึงถึงประเทศในระยะยาวด้วยว่าสุดท้ายต้องการเห็นประเทศของเราเดินหน้าไปอย่างไร ทั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์รับฟังความเห็นของทุกฝ่ายมาตลอดอยู่แล้ว และยืนยันจุดยืนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือมี สสร. แล ไม่แตะหมวดที่ 1 และ 2
ผู้สื่อข่าวถามว่าร่างของ iLaw มีเนื้อหาแตะหมวดที่ 1 และ 2 จะถือว่าขัดกับเงื่อนไขของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่
จุรินทร์กล่าวว่าเราขอฟังคำชี้แจงของเขาเสียก่อนว่าโดยเนื้อหาลึกๆ จริงๆ แล้วเป็นอย่างไร และเมื่อเราได้คำตอบมาแล้วก็จะนำมาหารือกันอีกครั้ง รวมทั้งไปหารือกับคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ต่อไปก่อนลงมติ
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์