วันนี้ (9 เมษายน) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ 30 สส.จากหลายพรรคการเมืองพร้อมใจเสนอญัตติด่วนด้วยวาจาเพื่อพิจารณาผลกระทบและแนวทางการรับมือกรณีสหรัฐอเมริกาประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยกว่า 36% ซึ่งสร้างความกังวลอย่างกว้างขวางต่อเศรษฐกิจไทย โดยมีการเสนอมากถึง 10 ญัตติ และเปิดโอกาสให้ สส. ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านอภิปรายอย่างกว้างขวางรวมแล้วกว่า 30 คน
นพดล ปัทมะ สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แถลงย้ำถึงหลักการดำเนินนโยบายต่างประเทศที่ต้องยึดผลประโยชน์ชาติเป็นอันดับแรก รักษาความสัมพันธ์ที่สมดุลกับทั้งสหรัฐฯ และจีน โดยดำเนินนโยบาย ‘อ่อนนอกแข็งใน’
พร้อมทั้งชื่นชมนายกรัฐมนตรีที่ดำเนินการเรื่องนี้อย่างทันการณ์และรอบคอบ ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ล่าช้า และได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อเจรจาแล้ว นายนพดลเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเจรจาอย่างมีเหตุผล มีชั้นเชิง และไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดได้ เนื่องจากเป็น ‘ไพ่ในมือ’ ที่ต้องใช้ในการต่อรอง
ด้าน ศิริกัญญา ตันสกุล สส. แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ฉายภาพผลกระทบที่รุนแรงและยาวนานจากการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่การผลิต แรงงาน ธุรกิจขนาดเล็ก และภาคการเกษตร
ศิริกัญญาตั้งคำถามถึงความชัดเจนและความรวดเร็วในการดำเนินการของรัฐบาล โดยเปรียบเทียบท่าทีที่ปรึกษานายกฯ ที่ให้รอดูท่าที กับคำกล่าวของนายกรัฐมนตรี เองที่เน้น ‘รู้เขา รู้เรา เร็ว และแม่นยำ’
นอกจากนี้ศิริกัญญายังกล่าวถึงประเด็นที่อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ เช่น กรณีการส่งชาวอุยกูร์กลับจีน และการจับกุมนักวิชาการชาวสหรัฐฯ ในความผิดข้อหามาตรา 112
ขณะที่ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีแนวคิดให้รัฐมนตรีเข้ามามีส่วนร่วม โดยจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้ามารับฟังข้อเสนอแนะ เพื่อนำไปเจรจากับสหรัฐอเมริกาต่อไป