วันนี้ (8 ธันวาคม) วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เปิดเผยถึงการเปิดประชุมสมัยวิสามัญในวันที่ 10-11 ธันวาคม เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยระบุว่า ได้มีการหารือกันแล้วว่าไม่มีอะไร จึงไม่ได้เรียกประชุมวิปสามฝ่าย เพราะเป็นการพิจารณาในวาระ 2 ก็เป็นไปตามที่คณะกรรมาธิการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐสภา กับสมาชิกรัฐสภาที่สงวนความเห็น และสงวนคำแปรญัตติ ก็ว่าไปตามนั้น ดังนั้น ในเรื่องเวลาอภิปรายเราก็ไม่จำกัด โดยเริ่มพิจารณาตั้งแต่เวลา 09.00 น. ส่วนจะเลิกกี่โมงก็แล้วแต่หน้างาน และสมาชิกจะมีความเห็นอย่างไร
“คิดว่าแต่ละวันก็คงจะเลิกประมาณ 21.00-22.00 น. หรือเลิกก่อนก็ได้ ซึ่งต้องดูว่าการอภิปรายไปเร็วหรือไม่ เพราะเป็นการพิจารณาเรียงตามมาตรา และจำนวนผู้แปรญัตติ สงวนความเห็นแต่ละมาตรา รวมทั้งอยู่ที่กรรมาธิการฯ ที่จะตอบด้วย” ประธานรัฐสภากล่าว
ส่วนเวลา 2 วันคิดว่าเพียงพอหรือไม่ เพราะมีบางคนฝ่ายคาดว่า อาจจะเกินไปถึงวันที่ 12 ธันวาคม วันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า ไม่แน่ใจ แม้คนสงวนคำแปรญัตติ ซึ่งมีหลายคนก็จริง แต่เมื่อถึงเวลา เขาอาจจะไม่มาอภิปราย หรืออาจจะไม่ติดใจก็ได้ ถ้าไม่ติดใจมากๆ การพิจารณาก็ไปเร็ว เพราะดูแล้วว่ามีคนสงวนคำแปรญัตติไว้หลายคนก็จริง แต่เป็นประเด็นคล้ายๆ กัน
สำหรับการประชุมจะเรียบร้อยหรือไม่นั้น วันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า การพิจารณาวาระ 2 คงไม่มีอะไร และเมื่อวาระ 2 จบแล้ว ก็ต้องเว้นไว้ 15 วัน เพื่อจะลงมติในวาระสาม ซึ่งวาระ 3 ก็ไม่มีอะไรอีก ก็ขานชื่อแต่ละคนว่าเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ จึงคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ด้าน มงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ในฐานะรองประธานรัฐสภา เปิดเผยว่า การทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม คิดว่าไม่มีปัญหาอะไร เพราะตามข้อบังคับ ประธานจะแสดงความคิดเห็นอะไรไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้น ตนเองแค่เตรียมใจและเตรียมร่างกายเท่านั้น ส่วนความเรียบร้อยในการประชุมก็อยู่ที่สมาชิกรัฐสภา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่กรรมาธิการฯ พิจารณาเสร็จแล้ว มีทั้งหมด 8 มาตรา ข้อย่อย 39 ข้อ โดยในประเด็นข้อย่อยจะเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องกลไกลการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ได้แก่ กรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ และกรรมาธิการรับฟังความคิดเห็นและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชนในการร่างรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ กรรมาธิการฯ ส่วนใหญ่ได้สงวนความเห็นไว้ ขณะที่สมาชิกรัฐสภาที่เสนอคำแปรญัตติมีทั้งหมด 6 คน ซึ่งรายละเอียดเป็นเพียงประเด็นปลีกย่อย เช่น การเปิดโอกาสให้นักการเมืองเข้าไปเป็นกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ และกรรมาธิกรรรับฟังความคิดเห็นฯ ได้ โดยไม่ต้องเว้นระยะการพ้นตำแหน่งมาก่อน และกำหนดข้อห้ามคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำรัฐประหารมาเป็นกรรมาธิการ ทั้ง 2 คณะ เป็นต้น
