×

พริษฐ์ขอรัฐบาลอย่าโทษคนอื่น หากเทหมดหน้าตัก ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ แล้วไม่สำเร็จ

โดย THE STANDARD TEAM
17.07.2024
  • LOADING...

วันนี้ (17 กรกฎาคม) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 5 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต

 

ในช่วงท้าย พริษฐ์ วัชรสินธุ สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ลุกขึ้นอภิปรายเป็นคนสุดท้ายของพรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยตั้งข้อสังเกตถึงการเทหมดหน้าตักเพื่อโครงการดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล พร้อมชี้ว่านโยบายดังกล่าวแทบจะเป็นนโยบายเดียวที่รัฐบาลระบุถึงอย่างชัดเจนพร้อมตัวเลขกำกับในเอกสารแถลงนโยบาย เมื่อเทียบกับนโยบายอื่นที่เขียนไว้อย่างกว้างๆ

 

“แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงคือ ไม่ถึง 4 เดือน หลังจากรัฐสภาอนุมัติงบประมาณปี 2567 ด้วยวงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท นายกรัฐมนตรีจะกลับมาขอให้รัฐสภาเติมเงินเพิ่มให้อีก เพื่อต่อลมหายใจให้โครงการดิจิทัลวอลเล็ต” พริษฐ์กล่าว

 

พริษฐ์กล่าวต่อไปว่า การเปลี่ยนแปลงรายละเอียดมากมายของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตยิ่งตอกย้ำว่า แม้จะเป็นนโยบายเรือธง แต่ก็ไม่ใช่นโยบายที่คิดมาอย่างดี แต่เป็นการคิดไปทำไป โจทย์ในวันนี้จึงไม่ใช่การลงมติวินิจฉัยว่าเศรษฐกิจดีหรือไม่ หรือเพื่อทำนายว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะแก้ปัญหาได้จริงหรือไม่ แต่คือคำถามว่า การเทหมดหน้าตักให้โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเป็นการตัดสินใจและมาตรการทางเศรษฐกิจที่คุ้มค่าที่สุดแล้วหรือไม่

 

“ผมจะขออนุญาตสรุปมุมมองของพรรคก้าวไกลที่อภิปรายตลอดวันที่ผ่านมาใน 1 ประโยค พรรคก้าวไกลมองว่าดิจิทัลวอลเล็ตเป็นโครงการที่ได้ไม่คุ้มเสีย เพราะประโยชน์ที่ประเทศและพี่น้องประชาชนจะได้ยังเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม ในทางกลับกัน ราคาที่ประชาชนและประเทศจะต้องจ่ายแลกไปกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตกลับเต็มไปด้วยเครื่องหมายตกใจ” พริษฐ์กล่าว

 

พริษฐ์ชี้ว่าประเทศไทยจำเป็นต้องเสียค่าเสียโอกาสตั้งแต่วันนี้ในรูปแบบของนโยบายและมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชน ที่รัฐบาลต้องตัดไปเพื่อนำมาใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต คิดเป็นกว่า 1.75 แสนล้านบาท พร้อมชี้ให้เห็นว่าหากรัฐบาลดึงดันเดินหน้าทำโครงการต่อไป รัฐบาลเพื่อไทยเองอาจไม่มีงบประมาณเพียงพอมาทำนโยบายอื่นๆ ที่สัญญาไว้กับประชาชน ซึ่งอาจแก้ปัญหาได้ตรงจุดกว่าด้วยซ้ำ

 

“เมื่อรัฐบาลไม่สามารถหาเงินมาทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ตตามที่โม้ไว้ในเอกสารที่ส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าจะหาได้ 2.6 แสนล้านบาทในปี 2567 และหาเพิ่มได้อีก 1 แสนล้านบาท จากผลคูณทางเศรษฐกิจของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต รัฐบาลก็ดูไม่เคอะเขินที่จะเทหมดหน้าตัก เพื่อรักษาหน้าตัวเอง” พริษฐ์กล่าว

 

พริษฐ์ยกตัวอย่างความเดือดร้อนของประชาชนที่อาจต้องแลกมาเพื่อโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ได้แก่ การเทหมดหน้าตัก อาจแลกมากับการมีนักเรียนหลุดออกจากระบบการศึกษามากกว่าเดิม สถิติบ่งบอกชัดว่าครึ่งหนึ่งของเด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษามีสาเหตุมาจากความยากจน ทว่างบประมาณในกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาปีล่าสุดกลับสูงกว่างบในรัฐบาลที่แล้วไม่ถึง 1 พันล้านบาท หรือคิดเป็นเพียง 11-12% จากเป้าหมายที่พรรคเพื่อไทยตั้งไว้

 

อีกตัวอย่างคือเสียงสะท้อนจากประชาชนที่ฝากให้รัฐบาลดูแลเรื่องค่าไฟอย่างเร่งด่วน ซึ่งมาจากกระเป๋าเงินเดียวกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตด้วย ประชาชนไม่ใช่เพียงลุ้นว่าจะได้เงินดิจิทัลหรือไม่ แต่ยังต้องลุ้นว่าค่าไฟจะทะลุมากขึ้นด้วยหรือไม่ อีกทั้งนายกฯ ยังยืนยันในการตอบกระทู้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า งบกลางที่เหลืออยู่จะต้องกันไว้สำหรับนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ทำให้ไม่รู้เลยว่าจะเหลืองบกลางอีกกี่บาทมาช่วยเหลือเรื่องค่าไฟฟ้าหรือค่าน้ำมัน

 

พริษฐ์ยังยกตัวอย่างสุดท้ายว่า การเทหมดหน้าตักของรัฐบาลอาจต้องแลกมาด้วยสวัสดิการที่ถูกแช่แข็ง ทั้งที่ทางพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลก็เคยสัญญาว่าจะเพิ่มงบสวัสดิการผู้สูงอายุ แต่ก็ยังไม่เห็นว่ารัฐบาลจะขยับเรื่องสวัสดิการกี่โมง หรือในวันนี้ พอท่านหันมาหมกมุ่นเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ก็ทำให้กลับมาพอใจกับระดับของสวัสดิการในปัจจุบัน

 

“ท่านไม่ต้องส่งให้กฤษฎีกาตีความหรอกครับว่า iPad นี้คือ iPad หรือไม่ ผมว่าท่านส่งให้กฤษฎีกาตีความดีกว่าว่า พรรคเพื่อไทยในวันนี้เป็นพรรคเพื่อไทยเดียวกันกับที่ส่งเอกสารให้ กกต. ก่อนการเลือกตั้งหรือไม่” พริษฐ์ระบุ

 

พริษฐ์ยังฝากถึงสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลให้ลองคิดว่า เมื่อนายกฯ เชิญพรรคท่านมาร่วมรัฐบาล ได้พูดอย่างตรงไปตรงมาหรือไม่ว่า ไม่ได้คิดไว้ก่อนว่าจะนำงบประมาณส่วนใดมาดำเนินนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต และได้รับประกันหรือไม่ว่า งบประมาณที่ต้องตัดเพื่อโยกไปทำดิจิทัลวอลเล็ตจะไม่เป็นการตัดงบประมาณนโยบายเรือธงของพรรคท่าน

 

พริษฐ์ระบุว่า วันนี้ขอเพียง 2 ประการไปยังสมาชิกจากพรรคเพื่อไทย และคณะรัฐมนตรี (ครม.) คือ หากท่านยังคงเดินหน้าต่อ ขอให้ยืนยันว่าเพราะท่านเชื่อจากใจจริงว่านโยบายนี้จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ไม่ใช่เพราะกลัวจะถูกมองว่าเป็นคนไม่รักษาคำพูดหากล้มเลิกนโยบายดังกล่าว เพราะหากจะแนะนำกันตรงๆ ต้องยอมรับว่าท่านเองก็ผิดคำพูดมาหลายครั้งแล้ว กว่าจะได้เป็นรัฐบาลและดำรงอยู่จนทุกวันนี้ การทำนโยบายในวันนี้ก็ไม่ได้ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ

 

และอีกประการที่ต้องการขอคือ หากเชื่อว่านโยบายนี้เป็นทางรอดของประเทศจริง ขอให้เดินไปให้สุด แล้วยืนยันว่าไม่ต้องมาโทษคนอื่น หากท่านทำไม่สำเร็จ ไม่ต้องมาโทษพรรคฝ่ายค้าน เพราะเสนอแนะอะไรไป รัฐบาลก็มีเสียงข้างมากในสภา ไม่ต้องโทษนักวิชาการ เพราะเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์นโยบาย หน่วยงานรัฐหรือข้าราชการที่ทักท้วงเรื่องความเสี่ยงทางกฎหมาย เพราะอำนาจแก้กฎหมายก็อยู่ในมือรัฐบาล

 

นอกจากนี้ พริษฐ์ยังยืนยันว่า คุณค่าที่พรรคก้าวไกลยึดถือเหนือความเห็นต่างทางนโยบายคือ เราจะไม่ใช้อำนาจนอกระบบมาล้มคำสัญญาเชิงนโยบายที่ท่านให้ไว้กับประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศ

 

“หากถึงวันนี้ท่านยังคงดึงดันจะเทหมดหน้าตักกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ผมเพียงแค่ขอให้ท่านพร้อมรับผิดชอบกับผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นจากการตัดสินใจของท่าน และพร้อมน้อมรับคำพิพากษาของประชาชนในการเลือกตั้งครั้งต่อไป” พริษฐ์กล่าวทิ้งท้าย

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising