วันนี้ (16 ธันวาคม) พริษฐ์ วัชรสินธุ สส. แบบบัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน กล่าวถึงการนัดหมายรับประทานอาหารร่วมกันของพรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยระบุว่า พรรคร่วมเองต้องประสานทำงานกันอย่างใกล้ชิด เพราะพรรคที่ไม่ได้อยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลแต่ละพรรคอาจมีอุดมการณ์และนโยบายที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติ จึงต้องพูดคุยกันอย่างไม่เป็นทางการเป็นระยะ เพื่อให้การทำงานเชิงธุรการเกิดความราบรื่น
อย่างไรก็ตาม พริษฐ์ระบุว่า ยังไม่ทราบในรายละเอียดว่าจะมีพรรคใดเข้าร่วมบ้าง แต่ก็ยึดตามพรรคที่อยู่ในวิปฝ่ายค้าน พร้อมมองว่าการที่ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะไม่เข้าร่วมการหารือครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะ พล.อ. ประวิตร แทบจะไม่ได้เดินทางมาประชุมสภาผู้แทนราษฎรอยู่แล้ว
ส่วนพรรคร่วมฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐสามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่นั้น หรือจะแยกเป็นเอกเทศ พริษฐ์ระบุว่า ระบบรัฐสภา การทำงานร่วมกันของพรรคร่วมฝ่ายค้านไม่จำเป็นต้องทำงานเหมือนกัน เพราะการตัดสินใจร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาลจะต้องมีจุดยืนและนโยบายต้องสอดคล้องกันในระดับหนึ่ง เอกภาพค่อนข้างสูง แต่ฝ่ายค้านคือบรรดาพรรคการเมืองที่เหลืออยู่ที่ไม่ได้อยู่ในพรรคร่วมรัฐบาล เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องปกติมากที่พรรคการเมืองที่เหลืออยู่จะมีนโยบายและแนวทางที่ไม่เหมือนกัน
สำหรับประเด็นที่จะนำมาหารือนั้น พริษฐ์กล่าวว่า รายละเอียดขอรออย่างเป็นทางการอีกครั้งก่อน แต่ส่วนตัวคิดว่าการทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้านไม่เหมือนกับการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลที่ต้องตกลงหารือในทุกเรื่อง และแต่ละพรรคมีจุดยืนไม่เหมือนกัน แต่ในฐานะแกนนำพรรคฝ่ายค้าน คิดว่าสิ่งที่มุ่งมั่นตั้งใจ การประชุมสภาจะเปิดไปจนถึงช่วงสงกรานต์ ซึ่งมี 2 เรื่องสำคัญ คือทำหน้าที่ในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล และมีโควตาในการเปิดอภิปรายทั่วไปลงมติไม่ไว้วางใจ
พริษฐ์กล่าวด้วยว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านแต่ละพรรคย่อมได้รับการคาดหวังจากประชาชนที่จะตรวจสอบรัฐบาล แต่เมื่อชุดอุดมการณ์และนโยบายไม่เหมือนกัน มุมมองในการตรวจสอบอาจแตกต่างกันบ้าง พร้อมกับมองว่าในฐานะพรรคแกนนำฝ่ายค้าน ย้อนดูตั้งแต่สภาชุดที่แล้วมาจนถึงสภาชุดนี้ พรรคประชาชนย้อนไปถึงพรรคก้าวไกล มีการปรับเปลี่ยนพรรคร่วมฝ่ายค้านมาพอสมควร ส่วนตัวคิดว่าในมุมมองของพรรคประชาชน เราก็มีสมาธิเต็มที่ในการทำหน้าที่ แต่อะไรที่ต้องร่วมมือในเชิงธุรการ ในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้าน เราก็ให้ความร่วมมือกัน