×

KEY SUCCESS: “You will not always be strong, but you can always be brave.”

11.08.2024
  • LOADING...

โอลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024 มหกรรมกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในโลกกำลังจะปิดฉากลงอย่างเป็นทางการในวันนี้ (11 สิงหาคม) โดยตลอดการแข่งขันกว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา THE STANDARD SPORT เกาะติดการแข่งขันทั้งนักกีฬาไทยและนักกีฬาต่างประเทศในมหกรรมครั้งนี้ เราพบว่ามีแง่คิดและบทเรียนต่างๆ ที่น่าสนใจ 

 


 

1. Dream Big 

 

“ครั้งนี้หนูมาเอาประสบการณ์ ครั้งหน้าหนูจะมาเอาเหรียญโอลิมปิกเกมส์” เป็นคำพูดจากนักกีฬาที่อายุน้อยที่สุดของทัพนักกีฬาทีมชาติไทย แต่เป็นเป้าหมายและความฝันที่ยิ่งใหญ่สำหรับ น้องเอสที-วารีรยา สุขเกษม นักสเกตบอร์ดไทยวัย 12 ปีที่มาร่วมการแข่งขันในฐานะนักกีฬาไทยคนแรกที่เข้ามาแข่งขันกีฬาชนิดนี้ได้ในโอลิมปิกเกมส์ 

 

โดยเอสทีจบอันดับที่ 17 จากผู้แข่งขันทั้งหมด 22 คน ด้วยคะแนน 200.75 คะแนน ในรอบแรก แต่พอจบการแข่งขัน เอสทียังคงมีรอยยิ้มพร้อมกับความสนุกตื่นเต้นที่ได้เป็นคนเปิดประตูให้ธงชาติไทยมาอยู่ในสนามสเกตบอร์ดเป็นครั้งแรก และเธอได้รับกำลังใจจากแฟนกีฬาทั้งไทยและต่างประเทศที่เข้ามาแสดงความยินดีกับการมาโอลิมปิกครั้งแรกของเธอ 

 

รวมถึงสื่อต่างประเทศและเพจ Paris 2024 เองยังเขียนถึงเรื่องราวของเธอในการแข่งขันครั้งนี้อีกด้วย 

 

ซึ่งเอสทีได้ยืนยันกับ THE STANDARD SPORT ว่าฝันของเธอไม่จบแค่นี้ เพราะครั้งหน้าที่ LA 2028 เธอจะกลับมาเอาเหรียญรางวัลให้ได้ 

 


 

2. One Step at a Time 

 

“ดูไปทีละคะแนนครับ” คือสิ่งที่ วิว-กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดมินตันไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์มาครองได้สำเร็จ บอกกับเราว่าคือเคล็ดลับในการรับมือกับการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์สมัยแรก ในฐานะนักกีฬาที่เคยคว้าแชมป์โลกแบดมินตันชายเดี่ยวมาแล้ว 

 

วิวยอมรับว่า ก่อนเริ่มโอลิมปิกเกมส์ทุกคนรวมถึงตัวเขาเองกังวลว่าเขาจะไม่ผ่านการแข่งขันรอบ 8 คนสุดท้าย เพราะเป็นการพบกับ ฉือหยู่ฉี นักแบดมินตันมือหนึ่งของโลกจากจีน แต่ด้วยการโฟกัสงานที่อยู่ข้างหน้า ไม่คิดไปไกลเกินไป และไม่เสียดายโอกาสที่ผ่านไปแล้ว 

 

วิวเปิดเผยในตอนจบทัวร์นาเมนต์ว่า แท้จริงแล้วเขาไม่ได้มองแค่ทีละรอบ แต่เขามองไปทีละคะแนนที่ลงแข่งขัน เพราะเขาเชื่อว่าการอยู่กับปัจจุบันคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการแข่งขันมหกรรมกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างโอลิมปิกเกมส์ 

 


 

3. The Game Before the Game 

 

ชัยชนะของการแข่งขันแต่ละกีฬาไม่ได้เกิดขึ้นในสนามแข่งขันเพียงอย่างเดียว แต่เกิดขึ้นตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณตัดสินใจจะลงแข่งขันและเริ่มต้นเตรียมตัวฝึกซ้อมมา คือความเชื่อที่นักกีฬาชั้นนำของโลกหลายคนมี 

 

เช่นเดียวกัน เมื่อเราถาม พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาไทยคนแรกที่ป้องกันแชมป์เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ได้สำเร็จ ว่าคำแนะนำสำหรับนักกีฬาไทยในอนาคตที่จะมาแข่งขันโอลิมปิกเกมส์คืออะไร เทนนิสก็ได้ให้คำตอบเดียวกับแนวคิดดังกล่าว 

 

“เต็มที่ ซึ่งหมายถึงทั้งตอนฝึกซ้อมและตอนแข่งขัน ตอนฝึกซ้อมหนูว่าสำคัญมากๆ เพราะว่าถ้าไม่เต็มที่ตอนซ้อมจะมาสู้เขาได้อย่างไร เพราะฉะนั้นตอนซ้อมต้องเต็มที่ให้มากที่สุดเท่าที่คนคนหนึ่งจะทำได้ แล้วตอนแข่งขันก็สนุกไปกับมัน ไม่ต้องกดดัน ไม่ต้องกังวลกับผลที่จะเกิดขึ้น แค่สนุกไปกับเกม แล้วก็อยู่กับปัจจุบันเข้าไว้” 

 

แต่การเตรียมพร้อมของเทนนิสไม่ใช่แค่การเก็บตัวฝึกซ้อมไม่กี่เดือนก่อนมาแข่งขัน แต่คือการเสียสละหลายๆ อย่าง ทั้งร่างกาย จากกีฬาต่อสู้และการควบคุมน้ำหนัก ที่เธอยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ยากลำบากตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา เธอแค่เข้าใจว่านี่คือความจำเป็นที่ต้องทำ เป็นหน้าที่ที่สำคัญเพื่อแลกมากับความสำเร็จ เธอจึงได้ให้คำตอบกับคำถามของเราที่ว่า พอยุติเส้นทางอาชีพแล้วอยากจะทำอะไร 

 

“อ้วน ก็หนูอดข้าวมาหลายปี ตอนเย็นไม่ได้กินแป้งเลย อยากกินข้าวเยอะๆ” เทนนิสกล่าวแบบติดตลก แต่หลังจากนั้นเธอได้โพสต์ภาพหุ่นนักกีฬารุ่น 49 กิโลกรัมหญิง พร้อมบอกลาเทนนิสในรุ่นน้ำหนักนี้อย่างเป็นทางการ 

 


 

4. Victory belongs to the most Tenacious 

 

บนคอร์ดดินแห่งโรลังด์ การ์รอส มีชายคนหนึ่งกำลังก้มหน้าลงร้องไห้อย่างหนัก กล้องจับไปที่มือของเขาที่มีอาการสั่นออกมาอย่างชัดเจน ทั้งที่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาคว้าแชมป์ระดับเมเจอร์ เพียงแค่นี่คือแชมป์ระดับเมเจอร์รายการสุดท้ายที่เขายังไม่เคยได้สัมผัส 

 

คนคนนั้นคือ โนวัค ยอโควิช ที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิกในการแข่งขันเทนนิสชายเดี่ยวได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในวัย 37 ปี 

 

วันนี้เขาเอาชนะ การ์ลอส อัลการาซ นักเทนนิสดาวรุ่งหน้าใหม่ของวงการที่เพิ่งเอาชนะเขามาได้ในรอบชิงชนะเลิศวิมเบิลดันแบบขาดลอย 

 

มาถึงรอบชิงชนะเลิศครั้งนี้ โนวัคได้เล่นเกมคุณภาพระดับสูงสุด แม้ว่าอัลการาซจะอยู่ในฟอร์มที่ดี และต่อสู้ได้เป็นอย่างดีตลอดทั้งเกม แต่สุดท้ายก็แพ้ประสบการณ์และความแข็งแกร่งของโนวัค 

 

ในช่วงท้ายของยุคสมัย Big Three แห่งวงการเทนนิส ทั้ง โรเจอร์ส เฟเดอเรอร์, ราฟาเอล นาดาล และ โนวัค ยอโควิช สื่อต่างประเทศมองว่า นี่อาจจะเป็นโนวัคร่างที่โหดที่สุด และนี่อาจจะเป็นคู่แข่งที่โหดที่สุดในอาชีพของ การ์ลอส อัลการาซ ในวันที่นักเทนนิสระดับตำนานทยอยวางมือ และนักเทนนิสรุ่นใหม่ยังไม่มีใครก้าวขึ้นมาปกครองยุคสมัยใหม่ได้แบบเด็ดขาด 

 

ทำให้เกมนี้เหมาะสมแล้วที่โนวัคจะคว้าเหรียญทองแรกในอาชีพ ภายใต้คำที่เขียนอยู่ด้านบนอัฒจันทร์ของ ฟิลิปป์ ชาตริเยร์ ว่า Victory belongs to the most Tenacious หรือชัยชนะจะตกเป็นของผู้ที่เด็ดขาดมากที่สุดเท่านั้น 

 


 

5. “You will not always be strong, but you can always be brave.”

 

3 ปีก่อนในห้องแถลงข่าวของโอลิมปิกเกมส์ที่โอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ที่เลื่อนมาแข่งขันในปี 2021 เนื่องจากสถานการณ์โควิด เจ้าหน้าที่ของโอลิมปิกเกมส์ได้แถลงข่าวรับมือกับข่าวใหญ่ของโอลิมปิกเกมส์ที่ ซิโมน ไบลส์ หนึ่งในนักกีฬายิมนาสติกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโอลิมปิกเกมส์จากสหรัฐฯ ประกาศว่าเธอจะไม่ลงแข่งขันรายการที่เหลือในโอลิมปิก เนื่องจากสภาพจิตใจที่ไม่พร้อม และอาการที่เรียกว่า Twisties ที่ร่างกายไม่สามารถทำงานร่วมกับจิตใจได้กลางอากาศระหว่างการแข่งขัน ซึ่งจะเป็นอันตรายมากสำหรับนักกีฬายิมนาสติก 

 

ในช่วงแรกเธอโดนวิจารณ์จากหลายฝ่ายว่าเป็นนักกีฬาที่อ่อนแอ เป็นคนยุคใหม่ที่สภาพจิตใจบอบบาง แต่ก็มีหลายคนให้กำลังใจเธอว่า เธอตัดสินใจทำถูกแล้วที่ปกป้องสุขภาพทั้งกายและใจของตัวเอง 

 

กลับมาโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ เธอมาพร้อมกับความมั่นใจและประกาศชัดว่า เธอมีจิตแพทย์ดูแลเธออยู่ถึง 3 คนระหว่างแข่งขัน จนสุดท้ายมาครั้งนี้เธอคว้าไปได้ 3 เหรียญทอง 

 

สิ่งที่ซิโมนทำตรงกับสิ่งที่เธอเคยกล่าวไว้ว่า “You will not always be strong, but you can always be brave.”

 

คุณไม่จำเป็นต้องแข็งแกร่งตลอดเวลา แต่คุณเป็นคนที่กล้าได้ตลอดเวลา 

 

เพราะซิโมนกล้าที่จะออกมายอมรับว่าเธอไม่แข็งแกร่งทางด้านจิตใจจนต้องถอนตัวในโตเกียว และเธอยอมรับว่าเธอต้องรักษาสุขภาพจิตใจระหว่างแข่งขันที่ปารีส 2024 

 

ซิโมนพูดถึงปัญหาสุขภาพจิตใจว่าแตกต่างกับปัญหาสุขภาพร่างกาย เพราะปกติถ้าเราป่วย หมอจะให้ยารักษา และคาดการณ์ได้ว่าเราจะหายเมื่อไร 

 

แต่สำหรับสุขภาพจิตใจ คือการรักษาอย่างต่อเนื่อง และสิ่งที่เธอได้ทำที่โตเกียว ทำให้นักกีฬาชั้นนำของโลกหลายคนกล้าออกมาพูดว่าพวกเขาก็ปรึกษาจิตแพทย์ทั้งกีฬาและจิตใจ เพื่อการแข่งขันที่เต็มไปด้วยความคาดหวังและแรงกดดัน 

 

บทเรียนของปารีส 2024 จากเราคือการได้เรียนรู้จากนักกีฬาชั้นนำของโลกทั้งจากไทยและต่างประเทศว่า “You will not always be strong, but you can always be brave.”

 

เรายังไม่เก่งวันนี้ ไม่ได้แปลว่าเราจะไม่เก่งในวันหน้า และเราอาจจะไม่สามารถแข็งแกร่งได้ตลอดเวลา แต่เราสามารถที่จะมีความกล้าที่จะต่อสู้เพื่อชัยชนะ ต่อสู้เพื่อเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ได้ด้วยการไปทีละก้าวสั้นๆ และกล้าที่จะต่อสู้เพื่อตัวเราในแบบของเราเองได้เช่นเดียวกัน

 


 

ติดตามการแข่งขัน โอลิมปิก ปารีส 2024 – Paris 2024 Olympic Games ได้ที่

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X