วันนี้ (2 พฤศจิกายน) พล.ต.ต. พิทักษ์ อุทัยธรรม ผบก.ปทส. (กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) พร้อมคณะทำงาน ประชุมเพื่อสรุปสำนวนคดีของ ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส. ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กรณีครอบครองที่ดินในตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี
จากการรวบรวมพยานหลักฐาน พบความผิดใน 4 ข้อหา ประกอบไปด้วย
- ความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 และมาตรา 31 ร่วมกันยึดถือครอบครอง ทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ เก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเบ็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนชาติ โดยได้กระทำเป็นเนื้อที่เกิน 25 ไร่โดยไม่ได้รับอนุญาต
- ความผิดตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 ร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยได้กระทำเป็นเนื้อที่เกิน 25 ไร่ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
- ความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน ร่วมกันเข้าไปยึดถือ ครอบครอง รวมตลอดถึงการก่อสร้าง หรือเผาป่า กระทำด้วยประการใดให้เป็นการทำลาย หรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดิน ที่หิน ที่กรวด หรือที่ทราย ในบริเวณที่รัฐมนตรีประกาศหวงห้ามในราชกิจานุเบกษา หรือทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดอันเป็นอันตรายแก่ทรัพยากรในที่ดิน โดยได้กระทำเป็นเนื้อที่เกินกว่า 50 ไร่ โดยไม่ได้รับอนุญาต
และ 4. ความผิดตาม พ.ร.บ. น้ำบาดาล พ.ศ. 2520 ร่วมกันประกอบกิจการน้ำบาดาล ในเขตน้ำบาดาลใดๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองที่ดิน ในเขตน้ำบาดาลโดยไม่ได้รับอนุญาต
ซึ่งมีคดีบุกรุกป่า ที่มีอัตราโทษสูงสุดคือ จำคุก 4-20 ปี ปรับ 200,000-2,000,000 บาท
นอกจากนี้ ปารีณายังจะถูกดำเนินคดีในฐานะบุคคลและนิติบุคคลผู้มีอำนาจเต็มอีกด้วย
ทั้งนี้ นอกจากจะดำเนินคดีกับปารีณาแล้ว ทางพนักงานสอบสวน บก.ปทส. ยังเรียก ทวี ไกรคุปต์ บิดาของปารีณา ให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้อหาเดียวกัน กรณีถูกร้องเรียนว่าบุกรุกที่ดินรัฐกว่า 1,000 ไร่ บริเวณหมู่ 9 ตำบลท่าเคย อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล