วานนี้ (4 พฤศจิกายน) ที่ทำเนียบรัฐบาล ภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญในชั้น กมธ. โดยเฉพาะประเด็น ที่มาของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ว่าขณะนี้ไม่มีปัญหาใหญ่ ทุกฝ่ายเห็นพ้องกันเกือบทั้งหมดแล้ว โดยเฉพาะในส่วนของกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญจำนวน 35 คน ยืนยันว่า มีแน่นอน
ภราดรกล่าวว่า ส่วนเรื่องสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ยังมีความเห็นต่างกันเล็กน้อย บางฝ่ายเห็นว่ายังควรมีอยู่ ขณะที่บางฝ่ายเห็นว่าไม่จำเป็น เนื่องจากมีกรรมการยกร่างอยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อหาข้อยุติร่วมกัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงข้อกังวลว่าที่มาของ ส.ส.ร. อาจขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ภราดรกล่าวว่า แนวคิดของพรรคประชาชนต้องการให้เข้าคูหาเลือกตั้ง ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม อย่างไรก็ตามเสียงส่วนใหญ่ใน กมธ. เห็นตรงกันว่า เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ขัดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จึงพยายามหาวิธีไม่ให้เข้าคูหาเลือกตั้งโดยตรง แต่ใช้รูปแบบอื่นแทน
แนวทางที่หารือกันคือ แบบผสมระหว่างร่างของพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาชน โดยให้ผู้ประสงค์จะเป็น ส.ส.ร. สมัครเข้ามาเอง และให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกรัฐสภา 20 คนรวมตัวกันเลือก 1 คนเข้าสู่กระบวนการ ถือเป็นสูตรคนละครึ่งที่ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่าจะช่วยลดความขัดแย้งได้ ขณะเดียวกันก็ยังมีบางส่วนเสนอว่า ควรคงการเลือกตั้งบางรูปแบบไว้ แต่เชื่อว่าท้ายที่สุดสามารถตกลงกันได้
สำหรับกรอบเวลา ภราดรระบุว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอเวลา 75 วันก่อนทำประชามติ หรือประมาณกลางเดือนมกราคม 2569 ดังนั้น กมธ. และรัฐสภายังมีเวลาทำงานเพียงพอ แม้ไม่เปิดสมัยประชุมวิสามัญ แต่หากต้องการเร่งให้แล้วเสร็จก่อนปีใหม่ ส่วนตัวเห็นว่า สามารถเปิดประชุมวิสามัญได้ในช่วง 8-10 ธันวาคม ก่อนเปิดสมัยประชุมสามัญวันที่ 12 ธันวาคม เพื่อให้ลงมติวาระสามได้ทันในปีนี้ เพราะหากไม่เปิด จะต้องเลื่อนมติวาระสามไปหลังปีใหม่ ซึ่งอาจกระทบต่อการทำประชามติและการเลือกตั้ง
ส่วนข้อกังวลว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจไม่ผ่านเสียงเห็นชอบของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในวาระสาม ภราดรกล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกันแล้ว โดย ส.ว.ส่วนใหญ่ห่วงในประเด็นห้ามแตะหมวด 1-2 และ “ไม่ให้ขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ” เรื่องการห้ามเลือกตั้งทางตรง ซึ่ง กมธ.เข้าใจในสิ่งที่ ส.ว.กังวล และจะพยายามถอยกันคนละก้าว เพื่อให้ได้เสียง สว.ถึง 67 เสียงตามเกณฑ์ที่กำหนด
“เป้าหมายคือให้โหวตร่างรัฐธรรมนูญวาระสามเสร็จก่อนปีใหม่ เพื่อให้ กกต. มีเวลาทำประชามติพร้อมการเลือกตั้งได้ทัน” ภราดร กล่าวย้ำ


