เผ่าภูมิระบุ นายกฯ แพทองธารมีแนวโน้มสูงที่จะสานต่อนโยบายของอดีตนายกฯ เศรษฐา ในการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนต่างชาติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และการปั้นไทยเป็นศูนย์กลางทางการเงินของเอเชีย พร้อมระบุว่า การลดภาษีเงินได้นิติบุคคลและบุคคลธรรมดา ‘อยู่ในการพิจารณา’
วันนี้ (28 สิงหาคม) ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงาน Thailand Focus 2024 โดยเน้นย้ำว่านโยบายรัฐบาลไทยมีความต่อเนื่อง เนื่องจากรัฐบาลนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร มีแนวโน้มสูงที่จะนำนโยบายของอดีตนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ที่ได้พัฒนาในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่องมาดำเนินการต่อ
“อย่าลืมว่าแนวคิดและ DNA ของเราก็ยังเป็น DNA เดิม เพราะฉะนั้นมีความเป็นไปได้สูงว่าแนวนโยบายที่เราได้เห็นในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาจะถูกดำเนินการให้แล้วเสร็จ เพื่อที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศสูงสุด” ดร.เผ่าภูมิ กล่าว
ดร.เผ่าภูมิ กล่าวว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยยังคงต้องการจะดึงเม็ดเงินใหม่เข้ามาสู่ในประเทศไทย ไม่ว่าจะผ่านนโยบายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือการปั้นไทยเป็นศูนย์กลางทางการเงินของเอเชีย (Asia Financial Hub) ที่ถูกนำเสนอในรัฐบาลก่อนหน้า เป็นต้น
อย่างไรก็ดี สำหรับรายละเอียดของแนวนโยบายการบริหารเศรษฐกิจประเทศอย่างชัดเจน ดร.เผ่าภูมิ ระบุว่าต้องรอการแถลงนโยบายของรัฐบาลใหม่อีกที
ระบุ การลดภาษีเงินได้นิติบุคคล-บุคคลธรรมดา ‘อยู่ในการพิจารณา’
ดร.เผ่าภูมิ กล่าวอีกว่า การก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางทางการเงินของเอเชีย ไทยต้องเพิ่มความน่าดึงดูดทั้งระบบนิเวศ (Ecosystem) ซึ่งสามารถทำได้ผ่านการให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีและสิทธิประโยชน์ที่ไม่ใช่ภาษี ได้แก่ ความง่ายของการเข้าเมือง วีซ่า สิทธิประโยชน์ของแรงงาน
ดร.เผ่าภูมิ เปิดเผยอีกว่า ขณะนี้อยู่ขั้นตอนร่างกฎหมาย Financial Hub ฉบับใหม่ และได้ตั้งคณะทำงานชุดใหญ่ขึ้นมาแล้วเพื่อร่างกฎหมายใหม่นี้ โดยคาดว่าน่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 2 เดือนจะเห็นรูปร่างกฎหมายนี้ชัดเจนขึ้น
“แน่นอนว่าเราต้องแข่งกับประเทศอื่นๆ ที่เป็นศูนย์กลางทางการเงินอื่นๆ เช่น สิงคโปร์และดูไบ ผ่านการเอาชนะด้วยสภาวะแวดล้อม อัตราภาษี (Rate) และความน่าดึงดูดของประเทศ เราต้องเอาชนะได้ด้วย Ecosystem ดังนั้นการลดภาษีต่างๆ ก็อยู่ในการพิจารณา” ดร.เผ่าภูมิ ระบุอีกว่า โดยหลังจากนี้กระทรวงการคลังจะศึกษาอัตราที่เหมาะสม และทำระบบนิเวศให้เหมาะสม
ท่าทีครั้งนี้ยังเกิดขึ้นหลังจาก ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวที Dinner Talk : Vision for Thailand 2024 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2567 โดยระบุเกี่ยวกับการปรับลดภาษีนิติบุคคลและภาษีบุคคลธรรมดาว่าจะลดอีกไหม เพื่อจะทำให้ประเทศไทยเป็นที่น่าสนใจที่จะมาอยู่ มาลงทุน และมาทำงาน